ก่อนนั่งเครื่องไปสอบที่กรุงเทพ ผมดีใจมากที่เช็คอินแล้วได้ที่นั่งติดหน้าต่าง
เพราะหลายครั้งแล้วที่ผมเช็คอินแล้วไม่ได้นั่งติดหน้าต่าง ส่วนใหญ่มักติดทางเดิน ฮ่า
ผมชอบทำเหมือนพระเอก MV โดยการเอาหัวพิงหน้าต่างเครื่องบิน
แล้วมองดูวิวข้างล่าง พลางคิดอะไรหลายๆอย่าง
มันเป็นความรู้สึกที่เหงาแปลกๆดี ผมเสพติดความรู้สึกแบบนั้น
ผมขึ้นเครื่องค่อนข้างสาย เกือบคนสุดท้ายของเครื่องบิน
พอถึงที่นั่งผมก็เห็นที่นั่ง 2 ที่นั่งติดทางเดิน
แถวเดียวกับผมเป็นของแม่กับลูกชายมองแล้วน่าจะสักป.1 -ป.2
แม่ของเด็กชายรีบบอกกับผมตั้งแต่ผมยังไม่ทันได้นั่ง
ว่านี่เป็นการนั่งเครื่องบินครั้งแรกของลูกชาย ลูกชายอาจจะรุงรังนิดนึงนะ
ผมยิ้มให้ แล้วเสนอว่างั้นเขยิบไปนั่งข้างในไหมครับ ผมนั่งข้างนอกให้
เด็กชายรีบสวนมา ไม่เป็นไรครับ เขามีเลขบอกเราก็ต้องนั่งตามเลข
แม่เด็กยิ้มให้แล้วลุกให้เรา เราถามย้ำอีกครั้งแต่เด็กชายยังยืนยันว่าไม่เป็นไร
ตอนจะขึ้นเครื่อง ผมได้ยินเด็กชายหันไปถามคุณแม่ด้วยคำถามหลายคำถาม
ทำไมเขาไม่ให้เอาโค้กขึ้นมา แล้วเครื่องบินจะจอดให้ซื้อโค้กรึเปล่า
แล้วมันบินไปสูงแค่ไหน สูงถึงอวกาศไหมครับแม่
ผมได้แต่เงี่ยหูฟัง คุณแม่ก็ใจเย็นมาก อธิบายให้ฟังทุกคำถาม
จนกระทั่งเครื่องบินกำลังจะขึ้น เราก็นั่งพิงเก้าอี้ ทั้งๆที่เป็นท่าที่เราเกลียดที่สุด
แล้วปล่อยให้น้องเอียงตัวมามองผ่านกระจกดูตลอดเวลา
จนกระทั่งฉากทุกข้างนอกเริ่มคงที่ ภาพที่เห็นกลายเป็นก้อนเมฆทั้งหมด
น้องหันไปบอกแม่ว่าไม่เห็นน่ากลัวเหมือนที่แม่บอกเลย สบายมาก :)
สายตาที่ตื่นเต้นนั้น ทำให้ผมนึกถึงตอนผมนั่งเครื่องบินครั้งแรก
ผมก็คงตื่นเต้นแบบนี้ และหลงใหลไปกับการมองวิวข้างนอกแบบนี้แหละมั้ง
เกิดเป็นผู้ใหญ่นี่ก็ต้องเสียสละจริงๆนั่นแหละนะ
ฮ่าๆ ท่านั้นพี่ปวดหลังชิบโป้งเลย จะบอกให้ ไอ่น้องชาย พี่อดทำ MV ซึ้งๆด้วย
แต่พี่ก็ดีใจนะ ที่ได้เห็นแกตื่นเต้นและดีใจแบบนั้น
อย่างน้อยวันนี้พี่ไม่เห็นวิวก็ไม่เป็นไร ได้แบ่งวิวให้แก
โอเคๆ ปวดหลังหน่อย ก็โอเค :)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in