เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ดูไรดีBombo Aruzo
[ดูไรดี] ตอน Westworld [Season 1]
  •           หลังจากมีการคอนเฟิร์มมาแล้วว่าซีรีย์สุดยิ่งใหญ่และปวดตับสุดยอดอย่าง Game of Thrones นั้นจะต้องจบลงอย่างแน่นอนเมื่อถึงซีซั่นที่ 8 ทาง HBO จึงไม่รอช้าที่จะหาซีรีย์ยิ่งใหญ่เรื่องใหม่เข้ามาแทนที่ก่อนที่คนดูจะหนีหายไปดูช่องอื่นกันหมด และซีรีย์ความหวังใหม่ของทางช่องนี้ก็คือซีรีย์ที่รีเมคมาจากภาพยนตร์ไซไฟชื่อเดียวกันในปี 1973 อย่าง Westworld (เนื่องจากยังไม่เคยชม ขอไม่กล่าวถึงตัวภาพยนตร์ละกันเนอะ)


    แถมโปสเตอร์เวอร์ชั่นภาพยนตร์ปี 1973 ไว้ดูเล่น อิอิ

              Westworld เป็นซีรีย์ที่สร้างโดย Jonathan Nolan และ Lisa Joy (ผัวเมียกัน) ตามด้วยโปรดิวเซอร์มือฉมังงานไซไฟอย่าง J.J.Abrams (เจ้าพ่อเลนส์แฟลร์ทุกสถาบัน) ซึ่งแน่นอนว่าชื่อหัวหน้าทีมทุกคนต่างการันตีได้ถึงความสนุกสนาน ความยิ่งใหญ่อลังการ ความเนื้อเรื่องชวนปวดหัวและปวดตับอย่างแน่นอน เหมือนเป็นการยืนยันกันแต่เนิ่นๆว่าถ้าพวกเอ็งจะดูซีรีย์ข้า เตรียมสมองกันให้พร้อมล่ะ 55555+ (ทั้งน้ำตา)

              โดยก่อนที่เราจะกล่าวถึงด้านเนื้อเรื่องเรามาชมและฟังเพลงเปิดซีรีย์ส่งตรงจาก HBO กันก่อนดีกว่า

    ขอบคุณคลิปจากแชนแนลยูทูป HBO มา ณ ที่นี้ด้วยครับผม

              เนื้อเรื่องของซีรีย์จะเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นโดยตรงที่ Westworld สวนสนุกแห่งใหม่ในอนาคตของโลก ที่จะแบ่งผู้เกี่ยวข้องในพื้นที่ได้ 3 ส่วนหลักๆคือ 

    1. Creator หรือ เจ้าหน้าที่ของสวนสนุกทั้งหมด 
    1. Host หรือ หุ่นยนต์ที่เป็นผู้แสดงและให้ความบันเทิงในสวนสนุกนั่นแหละ 
    1. Guest หรือ The Newcomers คือ แขกผู้เสียเงินเพื่อมาเที่ยวใน Westworld

              โดยเรื่องจะนำแสดงโดยหุ่นยนต์สาวสุดสวยอย่างโดโลเรสที่ต้องทำหน้าที่ทำตามโปรแกรมที่ผู้สร้างเขียนไว้ให้เธอทำทุกอย่าง ทำให้เธอต้องถูกทำร้าย ถูกฆ่า วนเวียนมาเกิดใหม่ในบทเดิมนับไม่ถ้วน เนื่องจากหุ่นยนต์ถูกโปรแกรมไว้ว่าไม่สามารถทำร้ายแขกผู้มาเที่ยวได้ จนวันหนึ่งพ่อของเธอก็เกิดขัดข้องจนทำให้พูดประโยคแปลกๆออกมา จนโดโรเลสเริ่มตระหนักได้ถึงความผิดปกติในชีวิตเธอ และการเริ่มคิด เริ่มสงสัยในชีวิตประจำวันของเหล่าหุ่นยนต์ ความผิดปกติประหลาดๆก็เริ่มแผ่ขยายกว้างมากขึ้นจนทำให้ทางผู้สร้างต้องหาทางแก้ไขก่อนที่มันจะส่งผลกระทบถึงตัวเองและแขกผู้มาเที่ยว

    โฉมหน้าของโดโลเรสผู้ใสซื่อ รับบทโดย Evan Rachel Wood

              ต่อจากนี้จะเป็นการรีวิวคร่าวๆเลยละกัน (ต้องคร่าวๆเพราะแทบทุกตอนจะมีจุดพีคที่กล่าวถึงรายละเอียดไม่ได้จริงๆ) เอาล่ะ...เริ่ม!!!


    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -


    ด้านเนื้อเรื่อง วิธีการเล่าเรื่อง ที่จัดเต็มด้านรายละเอียดจนปวดตึ๊บ

              แน่นอนว่าพอคุณเห็นชื่อหนึ่งในผู้สร้างว่าเป็นนามสกุล Nolan แล้ว (Jonathan Nolan คือน้องชายของโนแลน ผู้เขียนบทร่วมให้พี่ชายมาแล้วแทบทุกเรื่อง) สิ่งหนึ่งที่คุณต้องเตรียมก่อนเลยคือสติอันปลอดโปร่ง สมองที่พักผ่อนเต็มที่ไม่เหนื่อยล้า เพราะในทุกตอนที่เล่าหากเหตุการณ์เกิดขึ้นในส่วนของ Westworld ก็จะเป็นแนวประวัติศาสตร์ตะวันตกยุคคาวบอย ไม่ได้มีคำศัพท์ใดๆสูงมากมาย แต่พอถึงในส่วนที่เจ้าหน้าที่ดูแล Westworld คุยกันล่ะก็จะทำคุณปวดตึ๊บได้ง่ายๆ อันเนื่องมาจากการใช้ภาษาภายในอาชีพที่คุยกันเบื้องลึกอย่างเต็มที่ไม่หมกเม็ดจนทำให้การพยายามเก็บรายละเอียดทุกเม็ด ทุกคำ ทุกจุดของปัญหาที่เกิดขึ้นภายใน Westworld นั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย และนอกจากการกล่าวถึงด้านวิทยาศาสตร์แล้วภายในเรื่องก็มีการกล่าวถึงปรัชญาต่างๆอยู่ไม่ใช่น้อยในแง่ความคิด ความเป็นคน การมีชีวิตอยู่ ต่างๆนานา ทุกสิ่งที่กล่าวมาเลยเป็นสิ่งที่ทำให้ผมต้องเตือนหลายๆคนว่าหากต้องการจะชมควรจะเตรียมตัวให้พร้อม สติพร้อม เสบียงพร้อม จะได้อรรถรสสูงสุด

              แต่ไม่ต้องเป็นห่วงไป เพราะถึงแม้ว่าคุณจะตามคำศัพท์ทางเทคโนโลยี ด้านวิทยาศาสตร์และด้านปรัชญาไม่ทัน คุณก็ยังปล่อยตัวให้ลื่นไหลไปกับเนื้อเรื่องธรรมดาด้านความสัมพันธ์ ความรู้สึกได้อย่างง่ายๆ เพราะในส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางฝั่งของสวนสนุก Westworld นั้นล้วนแต่เป็นเรื่องพื้นๆเข้าใจง่ายอย่างการดวลปิืนกัน การปล้น การฆ่ากัน การท่องเที่ยวเพลิดเพลินไปกับสถานที่แห้งแล้งและรกร้าง(เพลินอยู่น่า...) เรียกได้ว่ายังมีพื้นที่ว่างให้กับผู้ชมทั่วไปพอสมควร ซึ่งตัวผมเองก็ยืนยันได้ว่าถ้าไม่ต้องการเก็บรายละเอียดมากแต่จะชมเพื่อความบันเทิงอย่างเดียวเรื่องนี้ก็มีให้คุณเหมือนกันนั่นแหละ เพราะหลักๆแล้วจริงๆการได้ชมก็เหมือนการลุ้นไปในตัวเรื่อยๆว่าฝั่งไหนจะชนะ? ระหว่างผู้สร้างและผู้ถูกสร้าง


    ตัวละครที่ดึงดูดและน่าสนใจ เต็มไปด้วยสายโหดและคนทรงปัญญา

              ซีรีย์หลายๆเรื่องมักจะโลดแล่นเป็นที่กล่าวขานและอยู่ต่อได้ก็ด้วยตัวละครที่ดึงดูดและน่าสนใจ ดังที่เห็นตัวอย่างชัดๆมาแล้วจากเรื่อง Game of Thrones ที่ถึงกับต้องมีการแบ่งฝั่งตบตีกันว่าใครชอบฝั่งไหนมากกว่า ตัวละครตัวไหนดีกว่ากัน ใครสมควรจะได้ขึ้นบัลลังค์มากที่สุดมานักต่อนักแล้ว

              แน่นอนว่าสำหรับ Westworld ก็เรียกได้ว่าทำการบ้านมาดีเหมือนกัน เพราะตัวละครแต่ละตัวที่ถูกสร้างขึ้นมาล้วนแล้วแต่น่าสนใจ และมีมิติ(หุ่นยนต์ก็มีมิติในแบบของมันน่ะ) มีทั้งฝั่งที่บ้าๆบอๆ หุ่นยนต์ที่วันๆดีแต่ยิงกัน ฆ่ากัน ปล้นแย่งชิงกัน ไม่ได้ถูกสร้างเพื่อให้คิดอะไรมากมาย กับฝั่งที่มีความสนใจที่ลึกล้ำในแบบของตนเอง มีความฉลาดในการเตรียมรับสิ่งที่จะเกิดขึ้น และต่อสู้กับมันได้ทันท่วงที ซึ่งหากจะมองหลักๆแล้วคนที่โดดเด่นที่สุดในเรื่องก็หนีไม่พ้น ดร.ฟอ์ร์ดที่เป็นผู้บุกเบิกและสร้าง Westworld ขึ้นมา จะเรียกว่าเพราะบารมีของความเป็นนักแสดงขั้นเทพอย่าง Anthony Hopkins ก็ว่าได้ คือส่วนที่ทำให้ซีรีย์เรื่องนี้ติดตาตรึงใจเอามากๆ เพราะเฮียแกเล่นบทพระเจ้าของ Westworld ได้ฉลาดและเทพแบบสุดๆชนิดว่าหาคนโค่นลงได้ยากมากๆในเรื่อง แต่แน่นอนว่านอกจากผู้สร้างคนนี้แล้วฝั่งหุ่นยนต์ก็มีคนเก่งๆที่เริ่มเคลือบแคลงใจกับหน้าที่และโลกที่ตัวเองอาศัยอยู่เหมือนกัน การสูญเสียตัวละครบางตัวไปโดยเราไม่ทันตั้งตัวย่อมเกิดขึ้นได้ไม่ยาก เหมือนๆกับที่เราเห็นกันบ่อยๆใน Game of Thrones นั่นแล

    โฉมหน้าของผู้สร้าง Westworld ดร.โรเบิร์ท ฟอร์ด รับบทโดย Anthony Hopkins

              ซึ่งการวางตัวละครมาได้ดี มีตัวละครที่น่าสนใจมากมาย และไม่หวงตัวละครหลักใดๆก็ยิ่งทำให้เนื้อเรื่องสนุกขึ้น เพราะมันจะทำให้ผู้ชมอย่างเราๆเดาได้ยากว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปบ้าง? แล้วถ้าเรื่องเลวร้ายบางอย่างเกิดขึ้นจริงๆ มันจะยังมีร้ายแรงกว่านี้อีกหรือเปล่า?


    โปรดัคชั่นอลังการงานสร้าง

              ฉากประกอบของ Westworld คือสิ่งแรกที่ดูเหมือนทีมงานจะตั้งใจใส่ใจรายละเอียดลงไปอย่างดีเยี่ยมเพราะนอกจากใจกลางของเมืองหลักที่มีร้านเหล้าและซ่องโสเภณีเป็นใจกลางแล้ว ยังมีฉากบ้านในทุ่งนา ฉากหมู่บ้านที่อยู่ไกลออกไปอีกพอสมควร หรือแม้แต่ฉากค่ายทหารก็มี งานนี้จึงรับรองได้ถึงความบันเทิงเต็มเปี่ยมหลายรูปแบบ ทั้งเป็นรูพรุ่น ทั้งระเบิดแล้วระเบิดอีก ก็ยังกลับมาสวยงามดังเดิมได้ดั่งฝัน ในขณะที่ฉากวิวทิวทัศน์ที่คัดสรรมาก็ทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างดีแต่แรกสมกับเป็นฉากรกร้างของซีรีย์คาวบอยจริงๆ

              นอกจากฉากในสวนสนุก Westworld แล้วก็ยังมีการเก็บรายละเอียดในส่วนอื่นๆเช่นกัน โดยหลักๆแล้วก็จะเป็นตึกของเจ้าหน้าที่ดูแลสวนสนุก หรือ ผู้สร้าง Westworld ที่ทำออกมาได้ทันสมัยแต่โหวงเหวงวังเวงและเงียบเหงา เพราะส่วนมากจะเป็นพื้นที่โล่งๆที่จะมีอุปกรณ์ไฮเทคตั้งอยู่เป็นจุดเล็กๆตามห้องไป ซึ่งห้องหลายๆห้องก็มักจะเต็มไปด้วยหุ่นยนต์ที่เหมือนมนุษย์ทั้งที่แบบพร้อมทำงานและแบบยังไม่พร้อมทำงาน ซึ่งส่วนมากจะตายในหน้าที่แบบเลือดอาบแล้วถูกส่งนำมายังห้องเพื่อรักษาแล้วนำไปใช้ต่อ หรือด้วยวิธีการอื่นๆอีก ซึ่งต้องยอมรับเลยว่าการออกแบบภายในหุ่นแต่ละตัวนั้นก็ใส่ใจรายละเอียดไม่น้อย งานนี้ก็ต้องยอมรับทีม Visual Effect ด้วยกึ่งหนึ่งว่าทำออกมาได้สมจริงสุดๆ

              และแน่นอนว่าท้ายที่สุดฝั่งเพลงประกอบก็ไม่น้อยหน้าไปกว่าใครเพราะได้คอมโพเซอร์อย่าง Ramin Djawadi เข้ามาแต่งเพลงและให้กับซีรีย์เรื่องนี้ ซึ่งก็ไม่ใช่คนใหม่มาจากไหนเพราะเขาแต่งเพลงให้กับภาพยนตร์ชื่อดังมาแล้วมากมาย และเขาก็คือคนที่แต่งเพลงประกอบให้กับซีรีย์เรื่องยิ่งใหญ่อย่าง Game of Thrones นั่นเอง!!! (ได้กลิ่นความยิ่งใหญ่โชยมาเลยทีเดียว) โดยกลิ่นอายเพลงประกอบโดยรวมของทั้งซีรีย์ก็จะมาแนวยิ่งใหญ่ ตื่นเต้น และลึกลับ เหมาะกับทั้งเรื่องที่มักจะเน้นไปที่การตามหาบางสิ่ง การโหยหาคำตอบบางอย่าง ไม่ว่าจะทั้งฝั่งของมนุษย์ หรือฝั่งของหุ่นยนต์


    สรุป

              สรุปโดยภาพรวมแล้ว Westworld [Season1] จึงเป็นซีรีย์ไซไฟจากช่อง HBO ที่ทำออกมาได้สุดยอดขนลุกขนพองสมราคาคุยว่าจะมาแทนที่ Game of Thrones จริงๆ มันมีทั้งตัวละครที่น่าสนใจ มีมิติ เนื้อเรื่องที่ลึกล้ำและตื่นเต้นในทุกตอน โปรดัคชั่นที่ใส่ใจรายละเอียดและอลังการ เพลงประกอบที่ยอดเยี่ยมติดหู(เพลงเปิดเรื่องล่ะหนึ่ง) รวมๆแล้วถ้าคุณเป็นแฟนๆสายไซไฟคุณก็จะชอบ ถ้าคุณเป็นแฟนๆหนังคาวบอยคุณก็จะชอบอีก เอาเป็นว่ามีเวลาว่างก็ลองหามาชมเถอะครับ แค่เตือนนิดหน่อยว่าสำหรับเรื่องนี้แล้วเตรียมทุกอย่างให้พร้อมแล้วใจจดจ่ออยู่กับมันเวลาชมจะดีที่สุดนะจ๊ะ

  • ดูจบถามไป [Spoiler Alert!!!]

    .
    .
    .
    จากนี้จะเป็นคำถามสปอยล์แล้วนะ!!!
    .
    .
    .
    เริ่ม!!!


    1.ดร.ฟอร์ด ตายจริงหรือเปล่า?
    2.สำหรับแฟนๆซีรีย์แล้ว Westworld สามารถมาแทนที่เมื่อ Game of Thrones จบได้หรือไม่?
    3.การเล่าเรื่องโดยไม่ได้บอกวันเวลาที่เหตุการณ์เกิดขึ้น สามารถสร้างจุดหักมุมได้ดีเมื่อถึงจุดเฉลย คิดว่างั้นหรือไม่?
    4.คุณรู้หรือไม่ว่าเบอร์นาร์ดคือหุ่นยนต์ตั้งแต่แรก? ถ้ารู้...เพราะอะไร?
    5.เหตุการณ์ใดในเรื่องที่ช็อคที่สุด? หรือน่าประทับใจที่สุด? ด้วยเหตุผลใด?
    6.มนุษย์ เปรียบเทียบกับ หุ่นยนต์ระดับที่มีสติ มีการนึกคิดเองได้แล้ว จะต่างกันอย่างไร? แล้วความเป็นมนุษย์วัดกันที่ตรงไหน?


    ปิดท้ายด้วยคลิปที่บรรดานักแสดง โปรดิวเซอร์ และผู้กำกับ ออกมากล่าวถึงภาพรวมของซีซั่นแรก และตอนจบนะจ๊ะ

     เจอกันรีวิวหน้าครับผม ^^


    ปล. Westworld Season 2 ฉาย 2018 โน่นเลยยย
    ปล.2 ขอบคุณรูปภาพและคลิปทั้งหลายจาก HBO เจ้าของลิขสิทธิ์ Westworld ด้วยครับผม
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in