สวัสดีครับ ผม Bombo Aruzo กลับมาอีกครั้งหลังจากแฟนๆที่น่ารักได้อ่านพร้อมเรียกร้องให้กลับมาเขียนต่อ...ซะที่ไหนล่ะ? ฮ่าๆๆๆ ไม่เวิ่นเว้อละ เริ่มเรื่องๆ
แน่นอนว่าพอกล่าวถึงซีรีย์ในยุคนี้ อับดับ 1 ที่ใครๆต่างกล่าวถึงก็หนีไม่พ้น Game of Thrones เป็นแน่แท้ เหตุผลหลักๆเลยคือมันเต็มไปด้วยสิ่งที่เรามักไม่ได้เห็นในซีรีย์อื่นๆ มีความแฟนตาซีเต็มพลัง เต็มไปด้วยเนื้อเรื่องที่คาดเดาได้ยาก และสิ่งสำคัญคือไม่หวงตัวละคร ใครนึกจะตายก็ตาย (และบ่อยมาก) จนหาใครมาแทนที่ได้ยาก เพราะถ้าให้เดาคงเป็นเรื่องของงบประมาณที่ต้องเสียค่าจ้างนักแสดงมากขึ้นไปอีก แต่ดูเหมือนขนบธรรมเนียมนี้จะไม่ได้มีแค่ GoT เป็นเจ้าของแล้ว เพราะ Vikings ก็มีเหมือนกัน!! (จริงๆหลายซีรีย์ก็มี XD)
Vikings เป็นซีรีย์จากช่อง History ที่ล่าสุดมีมาแล้วถึงซีซั่นที่ 4 (และจะมีซีซั่น 5 ปี 2017) เป็นซีรีย์ที่ว่าด้วยเรื่องของชาวไวกิ้งแห่งเมือง Kattegat ที่ตั้งอยู่ใต้หุบเขาริมทะเลของแถบสแกนดิเนเวียเมื่อพันปีก่อนหน้านี้ นำเรื่องด้วยตัวละครอย่าง แร็คนาร์ ร็อธบร็อค (Ragnar Lothbrok) ชายผู้ปราดเปรื่องและท้าทายอำนาจ เขาเป็นคนประหลาดและชอบสงสัยกับทุกความเชื่อ ชอบแหกกฎทุกอย่างและพร้อมจะออกไปพิสูจน์ให้เห็นกับตา ชอบท้าทายอำนาจของพระเจ้า ซึ่งความคิดแบบนี้ย่อมนำพาหายนะมาให้เขาเสมอ มิหนำซ้ำยังพาให้คนในครอบครัวทั้งภรรยาและลูกๆ รวมทั้งผองเพื่อนซวยตามไปด้วยอีก แต่แน่นอน การชอบคิดแปลกแหวกแนวบางครั้งมันก็นำพาสิ่งใหม่ๆและโอกาสมาให้กับชีวิตเขาเหมือนกัน ซึ่งเราจะได้เห็นอะไรแบบนี้เสมอทุกซีซั่น...อธิบายมากกว่านี้ไม่ได้ละ เดี๋ยวสปอยล์ซีซั่น 1 ครับผม
ก่อนจะเข้าเรื่องการรีวิวเต็มๆเรามาฟังเพลงเปิดเรื่องสร้างกำลังใจกันก่อนดีกว่า
ขอขอบคุณคลิปจาก SeriesIntro นะครับ
อย่างที่บอกไปว่าซีรีย์เรื่องนี้มีตัวละครนำคือ แร็คนาร์ ร็อธบร็อค หลายๆคนอาจไม่คุ้นชื่อเท่าไหร่แล้วคิดว่าเป็นเรื่องแต่งขึ้น(แน่นอนว่าก็แต่งหน่อย) แต่แท้ที่จริงแล้วตัวตนของ แร็คนาร์ นั้นมีอยู่จริง! เขาคือกษัตริย์นักปกครองของชาวไวกิ้ง ผู้ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นวีรบุรุษและตำนานของคนในแถบนั้น เพราะเขาพาชาวไวกิ้งออกเดินทางไปได้ไกลกว่าที่ใครเคยพาไป และได้ค้นพบสิ่งใหม่ๆมากมาย อย่างที่ซีรีย์ก็เล่าให้เราได้ชมกันนั่นแล เรียกได้ว่ารวมๆแล้วสำหรับซีรีย์เรื่องนี้ นอกจากจะได้ความสนุกครบรสแล้วยังได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ด้วย...หมดช่วงโฆษณาแล้ว จากนี้เราจะมารีวิวกันเป็นส่วนๆไปเรื่อยๆดีกว่า โดยการรีวิวนี้จะใช้การเปรียบเทียบกับ Game of Thrones ไปเลยละกัน
เนื่องจากซีรีย์อย่าง Vikings และ Game of Thrones นั้นมีความใกล้เคียงกันในหลายๆด้าน และมักจะถูกนำมาเปรียบเทียบกันเสมอในอินเตอร์เน็ต ซึ่งแน่นอนว่าก็มีทั้งคนชอบ Vikings มากกว่า คนชอบ Game of Thrones มากกว่า และกลุ่มคนที่ชอบทั้งคู่ก็มีไม่น้อยเหมือนกัน วันนี้ผมจึงเอามาเปรียบเทียบกันในแบบของผม ซึ่งแน่นอนว่าไม่ได้มีซีรีย์ไหนแย่กว่ากันอย่างแน่นอน อย่ามองแบบนั้น ให้มองการเปรียบเทียบเป็นทางเลือกละกันครับ เพราะเราคือผู้ชม เรามีสิทธิ์เลือกชมอยู่แล้ว
แน่นอนว่าความเหวอเงิบคือสิ่งที่ผู้ชมหลายๆคนต้องการ เพื่อกระตุ้นหัวใจให้กระพือรัวๆมากขึ้น แม้บ่อยครั้งจะทำเราเฟลจนใจหายว่าตัวละครหลักที่เห็นหน้าค่าตามาหลายตอนดันต้องมาตายเงิบๆอย่างไม่ยุติธรรม โดยเฉพาะตัวละครสุดหล่อหล๊อหล่อที่เทพมาทั้งเรื่องดันมาตายเองให้เห็นคาตาก็ยิ่งช็อคหนักไปใหญ่ ตอนแรกอาจจะเฟลและกรี๊ดกร๊าดโวยวายกันว่า "ฉันไม่ดูตอนต่อไปแน่!" แต่รวมๆแล้วมันไม่เป็นอย่างนั้นหรอก!!! เพราะโดยพื้นฐานแล้วเนื้อเรื่องที่ไม่คาดคิดก็คือสิ่งที่ผู้ชมต้องการเสมอ ยิ่งต้องลุ้นเท่าไหร่ยิ่งดี (ส่วนเรื่องสมควรหรือไม่ก็อีกเรื่อง)
ถ้าหากเทียบกันเล่นๆแล้ว ด้วยความที่ Game of Thrones มีตัวละครเยอะมาก แบบมากๆๆๆ ตั้งแต่ต้นเรื่องเสียด้วยซ้ำ หลายก๊กหลายเหล่า คนนู้นคนนี้มันคนโน้นกับคนนั้น เยอะแยะพัลวันเต็มไปหมด แถมด้วยเหตุการณ์ยิ่งใหญ่ที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้าแล้วส่งผลมาถึงปัจจุบันอีก ก็ยิ่งนำพาให้ใส่เนื้อเรื่องที่ไม่คาดคิดมาได้มากกว่า Vikings แน่นอนเป็นเรื่องปกติ เพราะทางด้าน Vikings นั้นในช่วงแรกๆจะเริ่มเปิดซีซั่นที่ตัวเมืองแคททิคัตก่อน เรื่องในอดีตรุ่นก่อนหน้าที่เรียกได้ว่าไม่มีการกล่าวถึงใดๆ ก่อนจะเดินทางไปรบ แล้วเราก็จะได้เจอตัวละครใหม่ เจอความสัมพันธ์ใหม่ขึ้นมา แม้ว่าตัวละครจะเพิ่มขึ้นอยู่เหมือนกันในซีซั่นถัดๆมา แต่ก็แลกกับการเสียตัวละครเก่าอยู่เสมอ ถึงกระนั้น...ถ้าคุณมาถึงซีซั่น 3 ได้ คุณจะเริ่มเห็นตัวละครหลายฝั่งมากขึ้นแล้ว ซึ่งก็เป็นไปได้เหมือนกันว่าจักรวาลของ Vikings คงจะขยายเต็มตัว ตัวละครเยอะแยะชุลมุนพัลวันเมื่อ Game of Thrones ถึงคราวอวสาน
สิ่งหนึ่งที่มักจะทำให้แฟนๆทั้งหลายยังคงติดตามซีรีย์เรื่องนั้นๆอย่างใจจดจ่ออยู่ก็คงหนีไม่พ้นตัวละครอันเป็นที่รัก และที่เกลียดชัง(อยากเห็นมันตายไวๆ เมื่อไหร่จะตายๆไปสักที...) ไม่ว่าหนุ่มหรือสาว หรือเพศทางเลือกใดๆ หากได้หมายปองตัวละครใดในซีรีย์แล้วย่อมอยากติดตามไปอยู่เรื่อยๆ แต่นอกเหนือจากความทรงสเน่ห์ของตัวละครใดๆ สิ่งที่เสริมให้ตัวละครแต่ละตัวน่าดึงดูดมากขึ้นย่อมเป็นคาแรคเตอร์ส่วนตัวที่ถูกใส่เข้ามาให้เห็นในบทและการเล่าเรื่อง ซึ่งแน่นอนว่าซีรีย์อันดับต้นๆที่แฟนๆทั่วโลกให้ความสนใจย่อมต้องมีข้อดีด้านนี้สูงมากๆ ไม่งั้นคงได้นั่งดูงานศิลป์ ดูฉากสวยๆ เปื่อยๆกันไปอย่างเดียว
ซึ่งถ้าหากเทียบกันเล่นๆหากวัดกันที่ความหลากหลายเป็นหลักแล้ว Game of Thrones ก็มีมากกว่าเป็นปกติแหละครับ ไม่ว่าจะเป็นตัวละครชนชั้นไหน เพศใด หรือแม้แต่เป็นสัตว์ประหลาดตัวอะไรก็ยกโขยงกันมามากมายให้เต็มไปหมด แถมด้วยความมีมิติของตัวละครอีก ยิ่งทำให้เราดูแล้วรู้สึกอินมากกว่าเดิม เข้าใจมุมมองในแต่ละฝั่ง แต่ละคนมากขึ้น เรียกได้ว่าถ้าชอบความหลากหลายความแฟนตาซีก็ต้อง Game of Thrones แหละ
แต่ช้าก่อน!...อย่าเพิ่งด่วนสรุปไปพี่น้อง
แน่นอนว่าเงินทองไม่ใช่ทุกสิ่งของชีวิต แต่กับหนังและซีรีย์มันคนละเรื่อง! ยิ่งทุ่มทุนสร้างมากขึ้นเท่าไหร่โดยรวมแล้วผลที่ได้ก็มักจะดีตามเสมอ แม้ว่าในงานบันเทิงหลายๆเรื่องในแง่ของเนื้อเรื่องอาจจะแปลกๆ ประหลาดๆ ดูไม่คอยเข้าท่าและเมคเซนส์ แต่ถ้าโปรดัคชั่นได้ ความสวยงามมาเต็มๆ คนดูทั่วไปก็พอใจไปกึ่งหนึ่งแล้ว ยิ่งพอได้เห็นงานอาตส์สุดสวย ฉากอลังการ ไฟไหม้น้ำร้อนลวก ระเบิดตูมตาม วิธีการรบที่เหนือความคาดหมายวิจิตรพิสดารเท่าไหร่ก็ยิ่งฟินกันเป็นแถบๆ ขนลุกปรื้มปริ่มสุดๆ
ซึ่งถ้าหากเทียบกันเล่นๆแล้วเรื่องงบประมาณการทุ่มทุนสร้างนี่ผมไม่ทราบจริงๆ(จริงๆคนดูก็ไม่สนใจหรอก ดูกันที่ผลลัพธ์มากกว่า) ซึ่งก็มีความเป็นไปได้ว่า Game of Thrones ย่อมต้องทุ่มทุนกว่าพอตัว แต่สำหรับงานที่ได้ออกมาผมให้พอๆกันเลยทีเดียวต่างกันตรงที่ Game of Thrones มีความแฟนตาซีมากกว่าก็เท่านั้น เพราะฉากสวยงามอลังการที่ใครเห็นๆกันยุคนี้ก็ใช้ CG ทำกันหมดแล้ว แม้ว่างาน CG จะไม่ใช่งานถูกๆ แต่ถ้าวางแผนอย่างดี คิดรวมๆแล้วย่อมดีกว่าการต้องพาทีมงานกองถ่ายเป็นร้อยคนขนอุปกรณ์เดินทางไปยังสถานที่จริง ซึ่งเอาเข้าจริงมันก็ต้องสร้างขึ้นมาใหม่อีกอยู่ดี ซึ่งทางด้าน Vikings ก็ใช่ย่อย เพราะแน่นอนว่าบรรดาภาพของเมืองเล็กมีบ้านเป็นร้อยๆหลัง หรือเมืองใหญ่ที่มีปราสาทอลังการจากซีรีย์ที่คุณจะได้เห็นกันย่อมไม่คุ้มแน่ถ้าต้องสร้างขึ้นใหม่ในยุคนี้
และเนื่องจากใครๆก็น่าจะมีโอกาสได้เห็นเบื้องหลังงาน VFX ของ Game of Thrones กันมาพอสมควรแล้ว วันนี้เราเอาของ Vikings มาให้ชมกันบ้างดีกว่าเนอะ (Spoil ฉากรบ Season 3 นะจ๊ะ)
และเนื่องจาก Vikings เป็นซีรีย์ของชายยอดชายโคตรจะแมนย่อมส่งผลให้เนื้อเรื่องการนำเสนอเน้นไปที่การสู้รบกันพอสมควรหากเทียบกับกับ Game of Thrones สู้รบกันบ่อยมากเพราะแร็คนาร์เป็นคนชอบท้าทาย ชอบการออกเดินทางหาสิ่งใหม่ๆ โลดโผนโจนทะยาน ใครขวางหน้าก็จัดการให้หมด มันจึงเต็มไปด้วยฉากสู้รบแบบแมนๆ ลุ่มๆดอนๆ เปื้อนเลือดเปื้อนโคลนเปื้อนฝุ่น ชุดนักรบต่างๆที่ใช้ก็ทำออกมาได้โบราณดีแถมดูดีเข้าถึงได้สมกับเป็นซีรีย์ที่เล่าถึงประวัติศาสตร์ตัวจริง แถมพอไปเจอเมืองใหม่ๆ สถานที่ใหม่ๆที่ต้องรบก็ต้องเจอกับกลอุบายใหม่ๆ วิธีการรบแปลกประหลาดไฉไลในสถานที่แปลกตาอีก ถือได้ว่าลงทุนไปกับการออกแบบให้ดูโบราณสมจริงมากๆ โปรดัคชั่นแบบนี้คู่ควรกับผู้ชมคอหนังสงครามยุคโบราณแน่นอนทีเดียวเชียวล่ะ
แน่นอนว่าพอเป็นการเล่าเรื่องของชาวไวกิ้งแล้วก็หนีไม่พ้นความโหด ความบ้าพลัง นักกล้าม สงคราม อะไรเทือกนั้นเสมอ ซึ่งเรื่องนี้ก็ไม่ได้ทิ้งมันไป เพียงแต่คุณจะได้เห็นมุมมองหักเหลี่ยมของคนฉลาดในหมู่ชาวไวกิ้งบ้างเหมือนกัน และแน่นอนว่าความฉลาดความเทพนั้นมักจะเป็นงานโชว์ตัวของแรคนาร์อยู่เสมอ และถ้าหากกล่าวถึงความโหดแล้วเรื่องนี้ก็ถือว่าพอๆกันกับ Game of Thrones เพียงแต่เรื่องนี้จะไม่จัดเต็มเท่า Game of Thrones ในด้านเพศ อย่างเช่นฉากมีเซ็กซ์กันก็แทบจะไม่ได้เห็นหน้าอกของหญิงสาวแบบเต็มๆ และที่แน่ๆคือคุณจะไม่มีโอกาสได้เห็นอวัยวะเพศเบื้องล่างใดๆของใครใน Vikings เลย ส่วนเรื่องความโหดเลือดสาดของ Vikings สำหรับผมมองว่าก็พอกันแหละ แต่สำหรับ Vikings แล้วคุณจะได้เห็นการรบกันมากกว่า Game of Thrones ตามประสาซีรีย์ที่ตัวเอกเป็นเหล่านักรบ เพราะฉะนั้นเรื่องตัดนิ้ว ตัดแขนกัน ตัดหัวกันให้เห็นจะๆ ทำโทษประหารด้วยการเอาขวานเฉาะหลังแล้วแหวะเปิดออกให้เป็นปีกก็มี เรียกได้ว่าดูๆอยู่แล้วพ่อแม่มาเห็นนี่มีต๊กกะใจแน่ว่าลูกเราช่างมีจิตใจโหดเหี้ยมเสียเหลือเกิน ดูอะไรแบบนี้ด้วย ทั้งที่เราก็ยังนั่งอ้าปากค้างอยู่เพราะไม่คิดเหมือนกันว่าเนื้อเรื่องจะพาเรามาเจออะไรแบบนี้
ย้ำอีกครั้งว่าคำถามพวกนี้ผมตั้งให้มาคิดกันเล่นๆหลังจากได้ชมนะครับ ไม่มีผิดมีถูกขนาดนั้นครับ
ปล.เผื่อใครไม่ทราบแหล่ง ผมชมซีรีย์นี้จาก iflix ที่ตอนนี้มีถึง Season 3 ครับผม (แต่ถ้าเอาจากที่ฉายนั้นจบ Season 4 ไปแล้ว และเริ่ม Season 5 ในปลายปีหน้า)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in