14.
ผมนิ่งค้างไปเลย
ให้ตาย ทำไมถึงปากไวแบบนี้มินยุนกิ
ปาร์คจีมินมองผม แต่ผมไม่กล้าสบตาเขา ผมกลัวว่าเขาจะมองเห็นอะไรสักอย่างในการกระทำของผม
"ทำไมถึงรู้ล่ะครับ?" จีมินวางช้อนในมือลง สองมือบางสอดประสานกันแล้ววางไว้ใต้คาง ให้ตาย ผมคิดไปเองหรือเปล่าว่าในดวงตาสุกสกาวนั่นกำลังแพรวพราวระยิบระยับด้วยความชอบใจ
"...." ผมเลือกที่จะไม่ตอบ (แน่สิ ตอบอะไรไปก็ดูจะเข้าตัวทั้งนั้น)แต่จีมินก็ไม่ได้คาดคั้น เขาเลื่อนมือจากใต้คางลงมาที่โต๊ะ จากโต๊ะฝั่งนั้นมายังโต๊ะฝั่งนี้ ก่อนจะแกล้งยึดมือถือผมไปวางฝั่งเขา
คนอื่นทำผมคงด่าเปิงไปแล้ว แต่เพราะเป็นจีมินล่ะมั้ง ผมเลยมองว่าเรียกร้องความสนใจแบบนี้ก็น่ารักดี
"ว่าไงครับ ยุนกิฮยอง" เขากลับมาคาดคั้นผมแล้วหลังจากไม่มีมือถือให้ผมเฉไฉ
คุณครับ โลกมนุษย์ได้ผลิตเทคโนโลยีมาป้องกันความน่ารักจากจีมินมาได้หรือยังครับ
เพราะขนาดน้องปิดตัวตนขนาดนี้ ผมยังรู้สึกว่าการกระทำนั้นมันน่าเอ็นดูจนอยากขยี้อย่างทะนุถนอมในมือเลย ขออนุญาตมอบแฮชแท็ก #จีมินเป็นใครทำไมน่าย่ำยี
อ่ะ ควรเลิกเพ้อเจ้อแล้วกลับมาสนใจน้องอ่ะ
ผมมองน้องนิ่งๆเป็นการเตรียมใจ จีมินก็ไม่ได้เร่งเร้าอะไรผม แต่ผมคิดไปเองหรือเปล่าเด็กนี่กำลังเขินทั้งๆที่แสดงบทเป็นฝ่ายไล่ต้อนผมอยู่
มินยุนกิยิ้มมุมปาก
"งั้นถ้าพี่บอกว่า สนใจน้องจีมินมาตั้งแต่มัธยมล่ะครับ น้องจะว่ายังไง:)"
15.
ฉ่า
เชื่อไหมครับถ้าเอาเนื้อโกเบสไลด์บางๆมาวางบนหน้าผม คุณจะได้เนื้อย่าง 1 อัตรา
ไม่นับรอยยิ้มมุมปากแสนร้ายกาจปนซุกซนที่ทำให้ผมใจสั่นนั่น ยังรวมไปถึงประโยคที่ทำเอาหัวใจจะวายง่ายๆได้อีก
ผมทำความเข้าใจกับประโยคนั้นอยู่ประมาณสองสามนาทีเลยอ่ะ เหมือนคนไม่เคยเรียนภาษามายังไงยังงั้นเลย
แต่พอทำความเข้าใจได้ปุ๊บ
ผมก็เขินจนไม่รู้จะเอาตัวเองไปวางไว้ตรงไหนของสายตาพี่เขาเลยครับ
นี่แหละครับทุกคน
นี่จีมินเองไง
คนที่กล้าทำผมสีชมพูมาเรียน
คนที่รายล้อมไปด้วยเพื่อนๆ
คนที่ต่อให้ต้องขึ้นไปพูดพรีเซนท์หน้าชั้นก็ไม่ได้กังวลอะไร
คนที่กำลังเขินมินยุนกิมากๆจนต้องฟุบหน้าลงกับโต๊ะเหมือนไม่มีแรงพยุงตัวเองให้นั่งต่อนี่แหละครับ
จีมินที่แพ้ยุนกิอย่างราบคาบ
"จีมินอา..." เสียงเรียกเนิบช้าแต่ทุ้มต่ำและสั่นพร่าเขย่าให้โลกผมสั่นไหว เขาต้องรู้แน่ๆว่าผมแพ้เสียงเขามากขนาดไหนอ่ะ
"ครับ..." ผมตอบรับทั้งๆที่ยังไม่ละออกจากท่อนแขนใต้เสื้อยืดแขนยาวสีเหลืองมัสตาร์ด มันเลยออกมาอู้อี้นิดหน่อย แล้วพี่เขาก็หัวเราะเบาๆ
มันเป็นเสียงหัวเราะที่เต็มไปด้วยความเอ็นดู แผ่วเบาจนหากไม่ใช่ผมคงไม่ได้ยิน
"ไม่อยากรู้แล้วเหรอว่าทำไมพี่ถึงรู้ว่าเราชอบกินลาเต้:)"
อา...สรรพนามระหว่างเรามันเปลี่ยนไปเร็วจนผมตามไม่ทันเลย
แต่ก็
ดีนะ
อูว
ผมว่าผมอาจจะหัวใจวายตายได้
แค่ช้อนตาขึ้นมอง
ก็สบจ้องกับแววตาเอ็นดูปนมันเขี้ยวที่ทำให้ผมร้อนฉ่าได้อย่างร้ายกาจเลยอ่ะ
ผมตอบอุบอิบไปเบาๆ ใต้แมสปิดปาก ผมยังรู้สึกร้อนหน้าไปหมด
"อยากครับ"
"งั้นเงยหน้ามาฟังพี่ก่อน" เสียงเขายังเรียบนิ่งเหมือนเดิม แต่ที่ไม่เหมือนเดิมคือตรงที่ผมรู้สึกได้ถึงความทะเล้นนั่น
อา...ฟังดูเจ้าชู้เป็นบ้า
ตอนนี้พี่เขาเหมือนพวกเพลย์บอยที่กำลังหยอกล้อกับสาวๆในสต็อกเลย
แล้วผมล่ะเป็นใคร
ก็เป็นแค่สาวน้อยที่แค่โดนเฟลิร์ตนิดหน่อยก็อ่อนระทวยเป็นขี้ผึ้งลนไฟอยู่นี่ไง
ไม่ไหวเลยปาร์คจีมิน...
พี่ยุนกิยังคงมองมาที่ผม ผมก็เห็นนะว่าเขาก็แอบเขิน แต่รอยยิ้มกัมมี่ที่ส่งมาให้ผมแบบนั้นคืออะไรอ่ะ เหมือนดีใจจนเก็บอาการตัวเองไม่อยู่ซะอย่างนั้น
เหมือนไม่ใช่พี่ยุนกิคนswagที่ผมรู้จักเลย
แต่ถามว่าดีไหม...
จะขอตอบว่า มาก
พี่เขาดูอบอุ่นน่าเข้าหาเพิ่มอีกหลายเท่าตัว มันทำให้ผมนึกขอบคุณที่นอกจากผมแล้วไม่มีใครเห็นรอยยิ้มของเขาตอนนี้ ไม่งั้นผมต้องหวงพี่เขาจนอกแตกตายแน่ๆ (ถึงจะยังไม่ได้เป็นอะไรกันก็ตาม)
อา...ดูฟันซี่เล็กๆที่เรียงตัวเป็นระเบียบกับเหงือกสีชมพูสุขภาพดีนั่ยดิ ไหนจะรอยยิ้มที่ดันแก้มขึ้นไปจนดวงตาเรียวยิบหยีกลายเป็นเสี้ยวพระจันทร์อีก
ให้ตาย ผมเหมือนกำลังเดินอยู่กลางทุ่งดอกไม้เลย ฮือ
มินยุนกิอันตรายมากจริงๆด้วย
งือ เขิน
==========TALK===========
หายไปนานแบบไม่ได้อู้เลยค่ะ แต่งจบแล้ว แต่ลืมเอามาลง แง้5555555555
เราทดลองแต่งต่อไปเรื่อยๆ ในเนื้อเรื่องหลังจากที่สองคนนี้คบกันแล้วดูค่ะ พบว่ามันมือมากๆ คงจะแต่งภาคต่อแน่ๆ และคงจะย้ายไปลงในเด็กดีแทน (เหมือนจะสะดวกคนอ่านในเชิงด้านการติดตามมากกว่าเนอะ)
ตอนหน้าก็จะจบแล้วค่ะ แล้วก็จะย้ายไปลงในเด็กดีต่อ จริงๆชอบฟอนต์ในมินิมอร์มาก ฮือ
ขอบคุณที่ติดตามกันมาถึงตรงนี้นะคะ คนอ่าน 1.4k แล้วอ่ะ เขินจัง///////T___T////)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in