เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Pastel world [YoonMin]19!
Pastel shade - 5
  •      08.
         จีมินคิดว่ามันคือความสุขในทีแรก

         เขามาเรียนชดเชยที่มหาลัยแทนวันที่อาจารย์แคนเซิลคลาสไป การมาแต่เช้าและตรงเวลาแลกมาด้วยการได้ขึ้นลิฟท์สองต่อสองกับมินยุนกิ

         สองต่อสอง

         และมินยุนกิ

         แค่สองคำนี้วนเวียนอยู่ในหัวจีมินก็แทบจะเป็นบ้าตายด้วยความขวยเขินอยู่แล้ว

         ผมมองยุนกิจากด้านหลังเงียบๆ เขากลับมาทำผมสีดำอีกครั้ง

         ให้ตายเถอะ มันดูดีชะมัด

         อีกฝ่ายมีนิสัยประหลาดที่ชื่นชอบการย้อมสีผมแปลกๆแบบที่คนปกติไม่กล้าย้อมกัน

         แต่เชื่อเถอะ เพราะใบหน้าและผิวขาวๆนั่น ไม่ว่าจะสีผมที่น่าเกลียดแค่ไหน เขาก็เอาอยู่ทุกสี เขาดูดีจนผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามีคนแบบนี้อยู่บนโลกด้วย 

         หลังจากแอบแทะโลมอีกฝ่ายทางสายตาด้วยความอารมณ์ดีแล้ว 

         ลิฟท์มันก็ค้าง


         โอ...พระเจ้า นี่คือบทลงโทษจากการเชยชมผลงานชิ้นเอกของท่านหรือ 


         ผมตระหนกเล็กๆ นี่เป็นเหตุการณ์ลิฟท์ค้างครั้งแรกในชีวิตเลย

         และมันก็เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ผมได้เปิดปากคุยกับยุนกิ--- ความรักของผม

         เราพูดคุยกันเล็กๆ ก่อนจะจบด้วยการนั่งลงกับมุมลิฟท์อย่างจนไร้ซึ่งหนทาง

         อืม--- มันคงจะไม่ดีเท่าไหร่หากเราพบกันอีกทีบนสวรรค์เลย โดยไม่รู้จักแม้กระทั่งชื่อ (หมายถึงเขาไม่รู้จักผม) 

         "ผมปาร์คจีมิน ปีหนึ่งครับ" ผมกลั้นใจ พูดแนะนำตัวเองด้วยเสียงที่ไม่มั่นคงนิดหน่อย แต่เพราะด้วยความสามารถทางการแสดงส่วนตัว มันทำให้ออกพิรุธมาไม่มากนัก

         ผมเห็นเขาเลิกคิ้วแปลกใจในทีแรก ก่อนจะกระตุกยิ้มมุมปากเล็กน้อย

         ผมว่าเขาหน้าตาน่ารักมาตลอดเลยนะ (แต่แน่นอนที่สุด เขาก็หล่อมากในขณะเดียวกัน) ใช่ และที่เขาทำเมื่อกี๊มันก็น่ารักมาก

         ถ้าผมยังไม่ได้รักเขา คงพูดได้เต็มปากว่าเป็นรอยยิ้มที่ทำให้ตกหลุมรัก

         แต่เพราะผมอยู่ในนั้นอยู่แล้ว คงพูดได้แค่ว่าเป็นรอยยิ้มที่ทำให้ผมตกลงไปลึกขึ้น--- ขอบคุณพระเจ้า ผมจะรักใครได้มากเท่านี้อีกไหม 

         เสียงทุ้มห้าวที่ผมไม่เคยได้ยินกับหูตัวเองชัดๆตอบกลับมา

        "มินยุนกิ ปีสาม"

         เขาตอบมาแค่นั้น แต่เชื่อเถอะ ทั้งสัปดาห์นี้มันต้องวนเวียนก้องอยู่ในหัวผมแน่ๆ

         พวกเรานั่งลงกันคนละมุมของลิฟท์ ไม่ได้พูดคุยอะไรกันอีก

         หนึ่ง เพราะผมกำลังเขินมาก ทั้งๆที่อยู่ในสถานการณ์แบบนี้

         และสอง เขาที่กำลังหลับตาพิงไปกับผนังลิฟท์ที่ฝั่งตรงข้ามกับผมมันช่างโซแดมฮอต

         ทั้งเรียวปากที่เผยอน้อยๆ สันกรามคมๆรวมกับต้นคอขาวๆ 

         ผมว่าผมอาจจะเป็นบ้าตายภายในสักวัน

         เขาลืมตาในอีกไม่กี่วินาทีถัดมา เหมือนที่หลับตาเมื่อครู่เป็นแค่การพักสายตาใช้ความคิดเท่านั้น

         "ผมนัดเพื่อนไว้ นี่ก็เกินห้านาทีแล้ว...เราคุยกันครั้งสุดท้ายก่อนผมเข้าลิฟท์มา เขาน่าจะรู้สึกตัวได้แล้วมั้ง"

         มินยุนกิหันมาพูดกับผม กระแสเสียงทุ้มนั้นนุ่มอ่อนโยนจนไม่อยากจะทนฟังเลย เหมือนผมจะละลายลงไปเป็นของเหลวให้เขาเหยียบย่ำได้

         "งั้นเหรอครั...." แต่กว่าที่ผมจะตอบอะไรไป เจ้ากล่องเหล็กเคลื่อนย้ายโดยสารนี่ก็สั่นกึงกังเบาๆ

         แต่ทำเอาผมตกใจกลัวได้เลยล่ะ

          เราอยู่ในลิฟท์เก่าๆของทางมหาลัยที่ไม่ยอมซ่อมแซม เวลาผ่านไปห้านาทีกว่าแล้ว และผมคิดว่าสายเคเบิ้ลที่ช่วยพยุงและดึงลิฟท์นี่อาจจะแข็งแรงไม่พอ แล้วพาเราทัวร์ดิ่งพสุธาแบบไม่มีตัวกลั๋บ

         ผมเป็นคนขี้กังวลกว่าที่เห็นนะ เรียกว่าคิดมากและขี้กลัวก็ยังได้

         แต่มินยุนกิไม่ใช่แบบนั้นไง

         เขาสุขุมจนผมไม่รู้ว่าตกลงเขาแค่ใจเย็น หรือว่าไม่รู้สึกรู้สาอะไรกันแน่

         แต่ผมลืมความรู้สึกกลัวพวกนั้นไปหมดแล้วล่ะ

         เพราะมือของเขาเอื้อมมาจับมือผมไว้

         จากนั้นผมก็ตกลงไปในวังวนสีชมพู






    ===============TALK===============

    อะไรน่ะยุงเกะ! แอบลวนลามน้องเหรอ /ไม่ใช่

    เรื่องนี้พระนางเขาก็ค่อนข้างจะขี้มโนไปเองหน่อยๆนะคะ *ฮา* คือคู่นี้เขามีพร้อมทุกอย่างเลยนะสำหรับการเป็นคนรัก ขาดแต่ความกล้าและความมั่นใจในตัวเองนี่แหละค่ะ 

    แต่จะว่าก็ไม่ได้นะคะ เขาแอบมองกันมาหลายปี โมเมนท์เวลาแอบชอบใครมันก็เป็นช่วงเวลาที่สวยงามทั้งนั้นแหละค่ะ ยิ่งคนที่เราแอบมองไม่มีทีท่าว่าจะสนใจใครแบบนี้ ทั้งสองคนก็เคยชินที่จะอยู่ในคอมฟอร์ตโซน แค่ได้มองก็พอใจ มีความสุข ยิ้มหน้าบานไปทั้งวันแล้วล่ะ 

    หลังจากนี้ก็จะเป็นจุดเปลี่ยนจริงๆแล้วค่ะ มาดูกับว่ารัหว่างลูกแมวจีมินกับพี่เสือยุนกิ ใครจะเป็นฝ่ายออกจากคอมฟอร์ตโซนก่อนกัน:)

    ด้วยรักและเคารพ

    ป.ล. สุดท้ายก็น่าจะเกินห้าตอนจริงๆด้วยค่ะ แต่จะพยายามให้ไม่เกินสิบห้าตอนนะคะ *ร้องไห้* นี่มันเกินคำว่า SF มากเกินไปแล้ว! 

         

         
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in