Day 7 : Keychains (ขอโทษถ้าวันนั้นไม่อยู่แล้ว) | #novelber
Author : Sean
Pairing : Colin Firth x Hugh Grant
Rating : No Rate
( #Nowlistening : A Better Way - Andy Hull and Robert McDowell)
ผมค้นพบว่าตัวก้าวเข้ามาในห้องเล็กๆห้องหนึ่ง
สัมผัสได้ถึงกลิ่นน้ำหอมจางๆของคุณที่อยู่ทั่วห้อง
มองเห็นภาพถ่ายของคุณที่ติดอยู่บนฝาผนัง
ภาพของชายหนุ่มและรอยยิ้มสดใสของเขา
ดอกไม้ที่แห้งเหี่ยวบนแจกันใบเล็กที่วางอยู่บนชั้นวางของ
ข้าวของของคุณที่ถูกวางจัดเป็นระเบียบเรียบร้อยราวกับไม่เคยถูกสัมผัสมาก่อน
ผมพาตัวเองเดินเข้ามาในห้องของคุณ นั่งลงบนเตียงนุ่มๆที่เราเคยนอนด้วยกันบนนั้น
ที่หมอนของคุณยังมีกลิ่นของคุณติดอยู่
ผ้าห่มผืนหนาที่คุณใช้ห่มทุกคืนถูกพับไว้ที่ปลายเตียง
รอบๆห้องของคุณดูธรรมดาแต่ผมรู้สึกได้ว่ามันอบอุ่น
ผมอยู่ในห้องนี้ราวกับผมได้นั่งอยู่ข้างๆคุณอีกครั้ง
ราวกับว่าคุณกำลังโอบกอดผมอยู่
แสงอาทิตย์ที่ส่องผ่านมาทางหน้าต่างในยามเช้าสาดกระทบกับเตียงนอน
ผมมองเห็นคุณ ผมมองเห็นชีวิตที่แสนจะธรรมดาของคุณ
คุณเพียงแค่ทำในสิ่งที่คุณเคยทำในทุกๆวัน และจะทำอย่างนั้นต่อไปเรื่อยๆ
น่าแปลกที่ผมหลงใหลคุณในตรงนี้ หลงใหลในชีวิตธรรมดาๆของคุณ
คุณทำให้ชีวิตของคุณมันดูสนุกได้ยังไง โดยที่ไม่ได้ทำอะไรเลย
ผมชอบมองคุณนะ เวลาคุณทำอะไรหลายๆอย่างด้วยตัวเอง
ผมชอบเวลาที่คุณเดิน เวลาที่คุณเคลื่อนไหว หรือเวลาที่คุณสัมผัส
ทุกจังหวะการเคลื่อนไหวของคุณมันทำให้ผมรู้สึกอยากจะติดตามคุณไปทุกๆที่
ผมมองเห็นกล่องเหล็กเล็กๆที่คุณวางมันไว้บนโต๊ะข้างหัวเตียง– มันถูกวางทับกระดาษแผ่นเล็กๆอยู่
‘ผมไม่รู้ว่าตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน แต่ผมอยากให้คุณรู้ไว้ว่าผมยังรอคุณเสมอ,
ผมรู้ว่ายังไงสักวันคุณจะต้องกลับมาที่นี่อีกครั้ง..ไม่เร็วก็ช้า
แต่ผมไม่รู้ว่าวันนั้นผมจะยังคงอยู่เสิร์ฟน้ำชาให้คุณเหมือนเดิมไหม
ขอโทษนะ..ถ้าเผื่อวันนั้นผมไม่อยู่แล้ว
ผมเก็บทุกอย่างที่คุณเคยให้ไว้อยู่ในกล่องใบนี้ พวงกุญแจสองดอกนั้นที่ผมเคยให้คุณ ถ้าคุณยังเก็บกุญแจไว้อยู่..ไขกล่องใบนี้นะ มันเป็นของขวัญที่ผมตั้งใจจะให้คุณวันในครบรอบของเรา ไม่ว่าจะเป็นยังไง รักษามันไว้ให้ดีนะ
ที่ผมเคยบอกว่าผมรักคุณ...ตอนนี้ผมก็ยังรัก– เสมอไป...’
ผมเอากุญแจนั้นมาทำเป็นจี้ที่สร้อยของผม ผมถอดสร้อยออกจากคอและไขกล่องใบนั้น
เขายังคงเก็บทุกอย่างที่ผมเคยให้ไว้ ทุกอย่างยังคงอยู่ในสภาพเดิม ขาดเพียงแต่ว่าชำรุดลงเล็กน้อย– จดหมายฉบับแรกที่ผมเคยให้คุณ มันเปรอะเปื้อนไปด้วยหยดน้ำจนทำให้หมึกสีดำที่จ่าหน้าซองเลอะเลือนไป
เราต่างไม่รู้ว่าต้องรออีกนานแค่ไหน รอวันที่เราจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง
มีเพียงแค่พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่าชะตาของเราจะเป็นยังไง
จนสุดท้ายเขาก็รอไม่ไหว...
เขาทิ้งกล่องเล็กๆสีแดงกำมะหยี่ไว้ในกล่องเหล็ก..ถ้าหากมันเป็นความตั้งใจของเขา ผมจะเปิดมัน
แม้ผมจะไม่อยากรับรู้อะไรอีกต่อไปแล้ว ผมไม่อยากรู้แล้วว่าเขาทรมานแค่ไหนกับการที่ต้องรออย่างไม่มีจุดหมาย
ข้างล่างของกล่องสีแดงนั้นยังมีม้วนเทปม้วนหนึ่ง– ผมใส่มันเข้าไปกับช่องเล่นเทป พร้อมกับเปิดจอโทรทัศน์
.. ภาพบนหน้าจอเป็นสีดำอยู่ประมาณสามสี่วินาทีและตัดภาพมาที่หน้าของคุณ
ผมมองเห็นคุณนั่งอยู่ที่ขอบเตียง เห็นได้ว่าคุณตั้งกล้องไว้โต๊ะข้างหน้าต่าง
“กะไว้แล้วว่าต้องเปิด” เขาหัวเราะแล้วชี้มาที่เลนส์กล้อง เขากำลังหัวเราะผมอยู่
“ฮั่นแน่ ยิ้มอยู่ล่ะสิ” น่าเสียดายที่ผมดันน้ำตาไหลแทน
“เดี๋ยวๆ นั่นไม่ใช่ประเด็นหลักหรอกนะ” เขาล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงของตัวเองและหยิบกล่องเล็กๆสีแดงนั่นออกมา
“นี่...” เขาเปิดกล่องกำมะหยี่นั่นและยื่นมาที่หน้าเลนส์กล้องอีกครั้ง สีหน้าของเขาตอนนี้ดูเหมือนกับเด็กน้อยที่กำลังเห่อของเล่นใหม่ไม่มีผิด
“แต่งงานกับผมนะฮิวจ์” เขายังคงถือกล่องแหวนไว้อย่างนั้น นัยน์ตาที่รื้นน้ำตานั่น– มันทำผมใจแทบสลาย
“ผมแค่อยากขอคุณแต่งงานในวันที่ผมยังมีแรงอยู่..”
“ผมอยากยืนข้างๆคุณในวันแต่งงาน..ยืนรอคุณที่ด้านหน้าพิธี..จับมือของคุณ..และกล่าวคำสาบานไปพร้อมๆกับคุณ” คุณปิดกล่องแหวนแต่ยังคงถือมันไว้ในมือ
“เจ้าแหวนวงนี้มันยังรอนิ้วของเจ้าของมันอยู่นะ..ฮิวจ์” ทั้งๆที่ผมเองดูก็รู้ว่าเขาเจ็บปวดแค่ไหนแต่เขาก็ยังฝืนยิ้มมันออกมา “ผมเองก็เหมือนกัน”
หน้าจอกลับมาเป็นสีดำอีกครั้ง..
ผมมองเห็นเงาของตัวเองในจอโทรทัศน์ ในห้องที่เคยอบอุ่น มันกลับเงียบเหงาเหลือเกิน มันเยียบเย็นจนรู้สึกราวกับว่าถูกแท่งน้ำแข็งนับพันเสียดแทงตามร่างกาย
หวังเพียงแค่ว่าความอบอุ่นของคุณที่เคยมอบให้ผม จะกลับมาโอบกอดผมอีกครั้ง
.. แต่มันก็คงสายไปแล้ว ..
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in