เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Whose Fault ผิดที่ใครH.Rui
โพสต์นี้มีเนื้อหาที่อาจไม่เหมาะสมกับเยาวชน Introduction
  •  

    ปึง


    เสียงประตูกระแทกปิด ทำให้ใครบางคนที่หิ้วท้องรออยู่สะดุ้งเล็กน้อยแต่ความรู้สึกยินดีแล่นวาบขึ้นในหัวใจร่างโปร่งลุกจากโซฟาหน้าโทรทัศน์ที่เจ้าตัวไม่ได้ให้ความสนใจนักมาต้อนรับคนที่เพิ่งกลับบ้านเสียงฝีเท้าลงหนักเบาที่ไม่ได้ยินมาหลายวันเรียกรอยยิ้มแย้มดีใจจากเขา


    กลับมาแล้วเหรอเขาเอ่ย


    แต่คนที่กลับมาไม่แม้แต่จะสนใจ เดินผ่านหน้าไปแบบไม่ชายตามองเหมือนเขาเป็นอากาศธาตุ...ไร้ตัวตนทิ้งใครอีกคนยืนก้มหน้านิ่งงัน ริมฝีปากบางเม้มแน่นพอๆ กับเล็กที่จิกเข้าฝ่ามือเพียงชั่วอึดใจ ก็คลายทุกอย่างออกทำเหมือนปกติ


    ไม่รู้สึกอะไร


    นี่ กลับมาทั้งที มากินข้าว...คิน ทำอะไร!?” ร่างโปร่งถามเสียงดังทันทีที่เห็นว่าอีกคนกำลังคุกเข่าก้มๆ เงยๆเก็บเสื้อผ้าพับลวกๆ ใส่กระเป๋าใบใหญ่ที่วางข้างๆ


    ...แต่คำตอบที่ได้รับคือความเงียบ ร่างสูงทำราวกับไม่ได้ยินและมือก็ยังคงจับกางเกง เสื้อกล้าม สิ่งที่จำเป็นเข้ากระเป๋า


    หยุดเลยนะ เมื่อเห็นพฤติกรรมดังนั้น ขาก้าวเข้าห้องเข้าไปพร้อมทั้งกระชากสิ่งที่อยู่ในมือใหญ่ออกผมไม่ให้คินไปไหนทั้งนั้น เรียกสายตาคมดุตวัดมองที่ดูเหมือนจะไม่ใส่ใจก็ไม่ได้แล้ว


    ปล่อยคำพูดที่ออกมาเต็มไปด้วยความกรุ่นโกรธปนเอือมระอาแต่ร่างโปร่งไม่สนใจ ยังคงยื้ดยุดเสื้อผ้าและเทของที่อยู่ในกระเป๋าออกมากองเต็มพื้น


    เอมทำอะไรร่างสูงตะคอกใส่


    คินนั่นแหละทำอะไรได้ยินคำถามจากอีกคนทำให้ร่างสูงพ่นลมหายใจแรงๆราวกับสิ่งที่ได้ยินเป็นคำถามโง่ๆ


    ทำตัวน่ารำคาญขึ้นทุกวัน เพราะอย่างนี้ไงถึงไม่อยากอยู่ด้วย


    เอมทำอะไรให้คินรำคาญ คินก็บอกมาสิคนถามกัดปากแน่น ขอบตาเริ่มแดงแต่ยังกลั้นไว้ มือใหญ่กระตุกสิ่งที่ยื้อยุดเมื่อครู่ออกแต่คราวนี้ช่างง่ายดายเพราะมือบางสั่นไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรงจะจับ


    อย่าให้พูดเสียงทุ้มแค่นใส่แบบไม่แคร์ว่าคนฟังจะรู้สึกยังไงนั่นทำให้น้ำตาที่กลั้นไว้ไหลอาบใบหน้าเงียบ ไม่มีแม้แต่เสียงสะอื้น


    ผ่านไปชั่วครู่เดียวแต่เหมือนนานหลายนาที เสียงรูดซิปและร่างสูงขยับลุกขึ้นยืน มือสะพายกระเป๋าบนบ่าแกร่ง ทำให้ร่างโปร่งรู้สึกตัวรีบเดินตามแผ่นหลังกว้างออกไปขณะที่คินกำลังเอื้อมมือเปิดประตู


    เป็นเพราะ มันใช่ไหม


    ...


    เพราะมันใช่ไหม!” เมื่อคำตอบที่ได้รับคือความเงียบร่างบางจึงตวาดเสียงสูง พฤติกรรมก้าวร้าวที่เขาไม่เคยคิดจะทำแต่ครั้งนี้มันเกินรับไหวแล้วจริงๆ


    ไม่ใช่ เสียงเข้มดังทุ้มแม้แต่เสียงโทรทัศน์ก็ไม่อาจกลบได้


    ...


    อย่ามาโทษคนอื่นดวงตาคมปรายสายตามองเห็นคนตัวเล็กยืนตาแดงน้ำตาไหลแต่แล้วก็ทำใจหลับตาเอ่ยในสิ่งที่คิดถ้าจะโทษใคร...ก็โทษที่ตัวเอมเอง


    เขาตัดสินใจแล้ว


    ร่างสูงหมุนตัวหันหลัง ถึงจะติดตากับภาพที่เห็น แต่ก็ไม่ได้ทำให้เขาลังเลเดินออกจากห้องนี้ไป


    ห้องที่เขา...ไม่สิ เราเคยเรียกมันว่าบ้าน


    ปึง


    เสียงประตูครั้งที่สอง ปิดลงด้วยความรู้สึกดิ่งลงเหวกับร่างโปร่งที่ยืนนิ่งค้าง อยู่กับเสียงสะท้อนที่ยังคงดังก้องอยู่ในหัวตลอดเวลา


    ภาพของคนที่รักมากที่สุด เดินหันหลังออกจากห้องไม่มีความลังเล ขาเรียวที่สั่นเกร็งยืนหยัดอยู่ไม่ไหวไร้เรี่ยวแรงทรุดลงคุกเข่ากับพื้น อวัยวะในอกบีบรัดแทบหายใจไม่ออกมือเล็กเกาะกุมตรงที่เต้นรุนแรงเจ็บปวดแน่น ไหล่และหลังบางคู้ห่อสั่นระริก


    ฮึก...


    ทั้งๆ ที่วันนี้ควรจะเป็นวันที่ดี


    กับข้าวหลากหลายที่เตรียมไว้เป็นอาหารเย็นสำหรับสองคนก็ถูกทิ้งไว้โดยไม่มีใครแตะต้อง


    เสียงร้องไห้เครือสะอื้นดังต่อเนื่องยาวนาน ไม่อดกลั้นเพราะอย่างไรก็ไม่มีใครได้ยิน


     

     

    ถ้าจะโทษใคร...ก็โทษที่ตัวเอมเอง

     

     

    ************************Whosefault? ************************


Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in