เราสงสัยอยู่เสมอว่าขณะที่ยืนอยู่ด้วยกัน เมื่อมองไปที่เมฆก้อนนั้น คนอื่นที่ยืนอยู่รอบๆ กำลังคิดว่ามันดูเหมือนอะไร

เขาหรือเธอคนนั้นคิดยังไงกับต้นไม้ที่ยืนสู้แดดตรงโน้น คู่หนุ่มสาวที่กำลังคลอเคลียกันอยู่ที่ริมแม่น้ำทำให้คิดถึงใครบ้างไหม หรือการจราจรที่วุ่นวายทำให้ปลงหรือยิ่งหงุดหงิด อาหารเช้าที่แห้งแล้งแตกต่างจากบ้านเกิดเมืองนอนให้รสชาติอะไรในความรู้สึกบ้าง

ใครๆ ก็รู้ ไม่ว่าที่ไหน เราต่างคิดต่างกันในสิ่งที่เห็นอยู่เสมอ เหมือนจะเหมือน แต่ไม่มีทางเหมือนไปหมดเสียทีเดียวได้

นั่นคือเสน่ห์ของการเดินทาง และเป็นความน่าสนใจของข้อเขียนบันทึกการเดินทาง

ชื่อของ แชมป์—ทีปกร วุฒิพิทยามงคล คงไม่ต้องอธิบายอะไรมากมายนัก ถ้าคุณรู้จักสำนักพิมพ์แซลมอนคุณก็จะรู้จักเขา อาจรู้จักในฐานะนักวาดอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ ที่สร้างสรรค์การ์ตูนเสียดสีได้อย่างสนุกน่าเอ็นดู หรือในฐานะโปรแกรมเมอร์ เว็บ-มาสเตอร์ผู้ก่อตั้งเว็บบล็อกชื่อดัง จนถึงฐานะนักเขียนที่ดำดิ่งในโลกแห่งนวัตกรรมและโลกอนาคต ดั่งที่หนังสือของเขาเล่มหลังๆ ก็เจาะจงไปในเรื่องเหล่านี้แทบทั้งหมด

หรือบางคนอาจรู้จักเขาในมาดนักเดินทาง

ทีปกรเป็นนักเดินทาง เขาไม่เคยอยู่กับที่ได้นาน ในฐานะคนรู้จักกัน เขาจับตั๋วเครื่องบินไปที่นั่นที่นี่ตลอด ไกลบ้าง ใกล้บ้าง ไม่ด้วยการงานก็ด้วยความต้องการของชีวิต นับด้วยนิ้ว แค่ช่วงเวลาปีนิดๆ เขาไปนิวยอร์ก ไอร์แลนด์ อังกฤษ ไอซ์แลนด์ เกาหลีเหนือ ญี่ปุ่น ฯลฯ

นอกจากได้แต่อิจฉาตาปริบแล้ว การเดินทางของทีปกร ทำให้เราเกิดความสงสัยอย่างในบรรทัดแรก

คนที่มีสายตาลึกล้ำหลายชั้นซับซ้อนอย่างทีปกร เรายิ่งสงสัยเป็นพิเศษ เมฆก้อนนั้น เขาคิดว่ามันดูเหมือนอะไร

ทุกการเดินทางของเขา ทุกที่ที่เขาไป มันพาเขาไปที่ไหนบ้าง

เกาหลีเหนือเล่าอะไร นิวยอร์กบอกเรื่องไหน น้ำเสียงของอังกฤษเป็นยังไง เหมือนกับไอร์แลนด์และไอซ์แลนด์ไหม

กระทั่งบ้านเกิดที่เขาเติบโตมา อธิบายอะไรให้เขาในวัย 30 ปีฟัง

เมฆก้อนที่ว่าดูเหมือนอะไร

นี่คือสิ่งที่ทีปกรกำลังบอกกับเรา

อาจเหมือนที่คุณเคยได้ยิน, การเดินทางนั้นเหวี่ยงให้ส่วนผสมของเราเข้ากันใหม่ มันบังคับเราให้เดินออกจากความเคยชินเดิมๆ จากเส้นทางเดิมๆ จากกรอบความคิดแบบเดิมๆ

ด้วยสภาพแวดล้อมแบบที่เราไม่เคยเห็น—ทุกการเดินทางเรามักจะมี ‘ครั้งแรก’ ครั้งใหม่เสมอ ‘ครั้งแรก’ ที่เราพบสิ่งที่ไม่คุ้นมักพาให้เราตกตะกอนออกมาเป็นสิ่งที่เราไม่เคยคิด หากเราไม่เคยเห็น

นี่ไม่ใช่หนังสือบันทึกการเดินทาง หากคุณเข้าใจว่าหนังสือการเดินทางคือหนังสือที่บอกว่าผู้เขียนไปที่ไหน ผู้เขียนทำอะไร การเดินทางไปที่แห่งนั้นมีรายละเอียดเล็กน้อยตามรายทางอย่างไรบ้าง นี่ไม่ใช่หนังสือแบบนั้น

กลับกัน คุณอาจพบว่าหนังสือเล่มนี้บอกเล่าเรื่องราว ‘ที่ไม่ได้ไปไหน’ มากกว่าเรื่องราว ‘ในที่อื่น’ เสียด้วยซ้ำ

ผมคิดว่ามันเป็นคล้ายๆ กับบันทึกผลลัพธ์ของการตกกระทบระหว่างที่แห่งใหม่กับสมองก้อนเดิมมากกว่า

พูดซะหล่อ ชวนแหวะ แต่ก็นั่นแหละครับ ความจริงก็คือ ผมจะบอกคุณว่านี่เป็นหนังสือบันทึกความคิดที่ผมเกิดสะดุดนึกขึ้นมา เมื่อเท้ากำลังก้าวไปข้างนอกเท่านั้นเอง

หวังว่าจะสนุกกับการเดินทางครั้งไหนๆ