ครั้งแรกเปิดซิง เดินทางคนเดียว เปลี่ยวใจมาก เสือกเลือกญี่ปุ่นด้วยนะ เอาจริงๆก็อยากลองเที่ยวแนวใหม่ๆดู ไปเจอเรื่องวูฟในเว็บ ถูกใจมากมึง คืออย่างแรกเลยประหยัดเงิน สำคัญมั้ยล่ะ? เออ! คนหาเช้ากินค่ำไงแต่อยากเที่ยว อย่างสองคือ ประสบการณ์ที่ได้รับตรงๆจากคนญี่ปุ่นที่มึงไม่รู้จักเขามาก่อน เขามาทำอาหาร มาสอนทำงาน มึงจะได้เห็นตั้งแต่ตื่นเช้าว่าเขาขี้แล้วกดชักโครกหมดมั้ย จนถึงตอนนอนว่าเขาหลับกรนเสียงดังรึเปล่า (จริงๆไม่ต้องเสือกเรื่องเขาขนาดนั้นก็ได้ ฮ่าๆ)
โอเค ก่อนจะไปถึงบ้านโฮสต์ กูขอเล่าความชิปหายเปิดเรื่องก่อนเลย พอลงสนามบินก็ต่อรถบัส
พอถึงสถานีหลักคนเยอะมากๆต้องต่อรถไฟ ทีนี้ละมึง ป้ายทุกอย่างภาษาญี่ปุ่น ซื้อตั๋วยังไงไม่รู้
สกิลญี่ปุ่นที่เรียนมาหายเกลี้ยง วุ้นแปลภาษาที่แดกแล้วอ๊วกออกตอนเมารถ ได้แต่เดินวนไปวนมา
ดูว่าคนเขาซื้อยังไง เลือกแบบไหน ทำท่าชี้โน่นนี่แก้เขิน
จนคุณน้าท่านนึงแกคงรำคาญกูอะแหละ เข้ามาทักอังกฤษว่าจะไปไหนยังไง ก็เลยให้แกช่วยซื้อตั๋ว
แกบอกว่าใช้บัตร iCOCA ได้นะไอ้หนุ่มมึงไม่รู้เหรอ เติมเงินไว้แล้วกดเข้าออกได้ไม่ต้องมารอซื้อหน้าตู้
กูก็เชื่อแก เติมเงินไปหมื่นเยน (ไอ้เหี้ยมารู้ทีหลังมึงไม่ต้องเติมเยอะขนาดนั้น)
พอได้บัตรมาก็เข้าไปรอรถไฟที่จะผ่านบ้านโฮสต์ รอนานแล้วไม่มาสักทีเลยไปถามนายสถานี
เขาก็ใจดีเอาข้อมูลออกมาเช็ค เขียนเวลารถไฟมาพร้อมราคาให้เรียบร้อยแล้วบอกไปรออีกฝั่ง
สรุปที่กูยืนมาตั้งนานเนี่ยคือยืนผิดฝั่ง? ...ไอ้ซั๊ส!(เสียงน้าค่อม)
พอรถไฟมาก็รีบขึ้นจนลืมสังเกตบางอย่าง คำว่า Limited Express ถ้าขึ้นแบบนี้มันไม่จอดทุกสถานี
มันจะจอดแค่สถานีใหญ่ๆ ถ้าขึ้นต้องเสียค่าที่นั่งเพิ่ม เพราะไม่ได้ใช้ JR pass
กูเลยต้องเสียค่าโง่ไป 1,400 เยน แถมต้องลงสถานีปลายทางเพื่อต่อรถไฟแบบ Local ไปสถานีบ้านโฮสต์ เห้อ....ความยากลำบากในการตามหาบ้านโฮสต์ ซึ่งไม่ได้อยู่ในแผนที่อากู๋ ในที่สุดกูก็มาถึง
เมือง Kushimoto ถึงสักทีโว้ย! เพียงก้าวเท้าลงสถานีได้ไม่นาน โฮสต์คุณแม่ก็ขับรถมารับ ตรงตามเวลานัดเป๊ะ!! เรื่องเวลาเรื่องใหญ่ เรื่องความไว ไม่ต้องสน ไม่พูดพล่ามทำเพลง คุณแม่วัยเกือบ 60ปีสับเกียร์ออกตัวแรงยิ่งกว่า ดอม โดมินิค โทเร็ตโต้ ไมล์วัดของรถพุ่งไปที่ 90 km/hrในขณะที่รถวิ่งผ่านป้ายจำกัดความเร็ว 60km/hr กูเลยให้ฉายาโฮสต์แกว่า “696 แห่งคุชิโมโตะ”
เหลืออย่างเดียวที่โฮสต์ยังไม่ได้ทำคือพากูดีฟลงภูเขา ฟล๊าาาาวววววววววว
พอมาถึงบ้านก็เริ่มได้กลิ่นญี่ปุ่นขนานแท้ สภาพบ้านภายนอกเป็นบ้านไม้สน ใครม่ายสนกูสน
มารู้ทีหลังว่าบ้านหลังนี้อายุเกือบ 70 ปีแล้วจ้า ด้านหน้าปลูกดอกไม้น่ารัก ด้านข้างปลูกต้นไม้ พวกเชอรี่ด้านหลังเป็นสวนผัก และเล้าไก่ เหมือนบ้านในการ์ตูนเลยมึง น่ารักมาก ดูอบอุ่น
บ้านนี้เลี้ยงหมาไว้ตัวหนึ่งชื่อ โระคุ(แปลว่าเลขหก) เป็นหมาที่ดีดมาก
เจอกันครั้งแรกแมร่งโดดใส่กูจนล้ม เลียหน้าเลียตา เลียไข่(อันนี้ไม่เกี่ยว)
ยังไงก็ขอผูกมิตรไว้ก่อนเพราะต้องอยู่ที่นี่อีกหลายวัน หวังว่าโระคุจังจะให้ความกรุณา
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in