พอมาถึงสถานี Wien Westbahnhof ผมก็ไม่ต้องไปวุ่นวายซื้อตั๋วรถไฟ เพราะซื้อตั๋วรถไฟออนไลน์ล่วงหน้าไว้แล้ว
ก่อนอื่นต้องอธิบายก่อนว่าตั๋วรถไฟมันจะมีสองแบบ คือ หนึ่ง—แบบแพง (50 ยูโร = เงินไทยประมาณหนึ่งพันแปดร้อยบาท) ตั๋วมีอายุสองวันสามารถขึ้นรถไฟรอบไหนก็ได้ และสอง—แบบถูก (19 ยูโร = เงินไทยประมาณเจ็ดร้อยบาท) คือต้องขึ้นตามวันเวลาที่จองไว้เท่านั้น จะมาขึ้นรอบอื่นวันอื่นไม่ได้ ถ้าขึ้นไม่ทันถือว่าตกรถ ต้องซื้อตั๋วใหม่ลูกเดียว ผมปรึกษาเพื่อนที่เดินทางโซนยุโรปบ่อยๆ เพื่อนก็แนะนำว่าตอนมาถึงเราไม่อาจรู้ว่าเครื่องจะดีเลย์หรือมีเหตุห่าเหวอะไรหรือเปล่า ดังนั้นซื้อแบบแพงไปเถอะ
ในเมื่อตั๋วที่มีมันขึ้นรอบไหนก็ได้ ผมเลยไม่รีบร้อนอะไร ตอนแรกกะว่าจะเดินเล่นในสถานี ถ่ายรูปนั่นนี่ แต่เพื่อความชัวร์เลยลองไปถามนายสถานีว่า “เอ่อ ไปซาลซ์บูร์กต้องรอรถไฟที่ชานชาลาไหนครับ” ทันใดนั้นนายสถานีก็ชี้ไปยังรถไฟที่จอดอยู่ แล้วตะโกนว่า “Go! Go! Go!”
เอ้า งงสิกู…
ยังไม่ทันหายงง พี่แกก็พูดซ้ำอีก “Go! Go! Go! Go!” ผมก็เลยลากกระเป๋า กระโดดขึ้นรถไฟตามที่แกสั่ง แม้จะยังงงๆ อยู่ว่านี่มันเชี่ยอะไรกันวะ ไหนบอกบัตรกูขึ้นรอบไหนก็ได้ ทำไมต้องขับไล่ไสส่งกันเยี่ยงนี้
รู้ตัวอีกที กูอยู่บนรถไฟซะงั้น...
ระหว่างที่ยืนงงกับชีวิตอยู่ ก็เจอกับพนักงานสาวท่าทางใจดี ผมเลยถามว่าคันนี้ไปซาลซ์บูร์กใช่มั้ย คุณเธอก็ตอบว่า “ใช่ค่ะ ไปซาลซ์บูร์ก แต่คันนี้มันดีเลย์มา 15 นาทีแล้วน่ะค่ะ”
น้ำเสียงที่เป็นมิตรของเธอทำให้ผมหายเสียขวัญจากนายสถานีฮาร์ดคอร์คนนั้นได้บ้าง และเข้าใจว่า อ้อ รถมันจอดนิ่ง เพราะดีเลย์ และมันก็อาจจะออกตอนไหนก็ได้ นายสถานีเลยหวังดี บอกให้เรารีบขึ้นรถ ...แต่แบบมึงช่วยบอกกูด้วยวิธีที่ดีกว่านี้ได้ม้ายยยย
ความมึนยังไม่จบแค่นี้ เหตุเพราะนายสถานีไล่ให้ขึ้นรถโดยไว ผมเลยวิ่งพรวดมาอยู่ที่ต้นขบวน ซึ่งมันเป็นที่ของ First Class แต่ตั๋วของผมเป็น Economy ซึ่งอยู่ท้ายขบวนนู่น ก็เลยต้องลากกระเป๋าฝ่าผู้คนทะลุไปราวสี่ห้าโบกี้กว่าจะเจอโซน Economy ที่รัก ซึ่งระหว่างนั่งรถไฟราวสองชั่วโมงครึ่ง ผมก็ไม่ได้ชมวิวนอกหน้าต่างเพื่อซึบซับภูมิทัศน์แต่อย่างใด ทว่าต้องหยิบโน้ตบุ๊คเอาต้นฉบับ Taipei Panic เพียงชายคนนี้ไปไทเป ขึ้นมาแก้ เอวังชีวิต
แต่เอาเข้าจริง ผมก็ไม่ค่อยมีสมาธิแก้งานเท่าไหร่ เพราะกำลังงงๆ กับมนุษย์ออสเตรียที่ประสบพบเจอ ตกลงพวกพี่จะดีหรือจะร้ายกับผมกันแน่ ที่จริงก็เคยได้ยินมาบ้างเหมือนกันว่าคนออสเตรียภายนอกจะดูเย็นๆ นิ่งๆ แต่ลึกๆ แล้วก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร แต่ภายในเวลาไม่ถึงสองชั่วโมงกูเจอความแปรปรวนสูงเหลือเกิน เจอขึ้นสุดลงสุดอย่างกับไบโพลาร์แบบนี้ บอกตามตรงว่าปรับโหมดไม่ทัน
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in