คำนำผู้เขียน
บางที, คำพูดเกี่ยวกับการเดินทางที่ผมชอบที่สุด อาจเป็นของ โรเบิร์ต หลุยส์ สตีเวนสัน คนที่เขียนเรื่อง แจ็คกิล แอนด์ ไฮด์
เขาเคยบอกไว้ว่า สำหรับตัวเขา การออกเดินทาง—มิใช่เพื่อไปสู่แห่งหนใด แต่เพื่อไป, เขาออกเดินทางเพื่อการเดินทาง สิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดก็คือการได้เคลื่อนย้าย
ผมคิดถึงการเดินทางและคำพูดนั้นของเขา เมื่อยืนอยู่หน้า Deacon Brodie’s Tavern บาร์เล็กๆ แห่งหนึ่งตรงเชิงเนินก่อนขึ้นไปยังปราสาทเอดินบะระ
ว่ากันว่า ที่นี่คือบาร์อันเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดนิยายเรื่องดังที่มีชื่อเต็มๆ ว่า The Strange Case of Dr. Jekyll and Mr. Hyde
คำว่า Deacon ถ้าแปลเป็นไทยอาจแปลได้ว่า มัคทายก จริงๆ คือ ผู้ดูแลวัดที่อาจมีได้หลายๆ คน ส่วนโบรดี้เป็นนามสกุลของ วิลเลียม โบรดี้ ซึ่งทำหน้าที่เป็นดีคอนด้วย ผู้คนเลยเรียกเขาว่า ดีคอน โบรดี้
ในฉากหน้า ดีคอน โบรดี้ คือนักธุรกิจที่ได้รับความเคารพนับถือ เขาเป็นคนธรรมะธัมโม (เห็นได้จากการที่ได้เป็นถึงดีคอน) ทั้งยังเป็นช่างไม้ที่มีชื่อเสียงเก่งกาจ นั่นทำให้เขาได้เป็นสมาชิกสภาเมือง มีหน้าที่ในการติดตั้งและซ่อมแซมกุญแจต่างๆ รวมถึงกลไกเกี่ยวกับความมั่นคงปลอดภัยของเมือง
แต่นั่นคือเวลากลางวัน
ในตอนกลางคืน ดีคอน โบรดี้คือหัวขโมย เขาใช้หน้าที่การงานในเวลากลางวันเพื่อเก็บข้อมูลและล้วงความลับต่างๆ ความที่เขาเป็นผู้ดูแลกุญแจต่างๆ ของเมือง เขาจึงสามารถลอบเข้าไปขโมยของได้ เพราะเขาทำกุญแจสำรองเก็บเอาไว้กับตัว
ดีคอน โบรดี้ไม่ได้มีชีวิตเดียว เขาใช้เงินทองที่หามาได้ จากการลักขโมยเพื่อปรนเปรอตัวเองกับการพนัน รวมทั้งใช้เลี้ยงลูกห้าคนที่เกิดจากสองเมีย โดยที่เมียทั้งสองคนนั้นไม่รู้เลยว่าเขามีเมียอีกคนหนึ่งด้วย และคนทั้งเมืองก็ไม่รู้อีกเช่นกันว่าเขามีเมียและลูก
อาชญากรรมสำคัญเกิดขึ้นในปี 1768 เมื่อดีคอน โบรดี้ไขกุญแจธนาคารเข้าไปในยามค่ำคืนแล้วขโมยเงินไป 800 ปอนด์ ซึ่งเป็นเงินที่พอเลี้ยงดูครอบครัวไปได้นานหลายต่อหลายปี หลังจากนั้น เขาว่าจ้างหัวขโมยสามคนให้มาร่วมแก๊ง เพื่อจะได้มีรายได้เพิ่มขึ้น
แต่แล้ว ดีคอน โบรดี้ก็ถูกจับได้ เมื่อเขาคิดการใหญ่จะ ‘ปล้น’ สำนักงานแห่งหนึ่ง และถูกหนึ่งในแก๊งที่เขาว่าจ้างมาหักหลังด้วยการเข้าไปสารภาพเพื่อหวังได้รับการลดหย่อนผ่อนโทษ ดีคอน โบรดี้จึงถูกเปิดโปง
ในที่สุด ดีคอน โบรดี้ก็ถูกแขวนคอ
พ่อของโรเบิร์ต หลุยส์ สตีเวนสันมีเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่โบรดี้เป็นผู้สร้างขึ้น เขาจึงอาศัยแรงบันดาลใจจากเรื่องเล่านี้ แต่งบทละครชื่อ The Double Life หรือ ‘ชีวิตซ้อน’ ขึ้นมา ในตอนแรกเป็นละครที่ไม่ประสบความสำเร็จ กระทั่งกลายมาเป็นนิยายเรื่อง The Strange Case of Dr. Jekyll and Mr. Hyde ถึงได้โด่งดัง
ผมคิดว่า การเดินทางก็คล้ายๆ เรื่องของดีคอน โบรดี้
ไม่ได้แปลว่า กลางวันเป็นคนดี กลางคืนเป็นโจร แต่ผมหมายถึงว่า—การเดินทางทำให้เรามี Double Life หรือชีวิตอีกชีวิตซ้อนทับอยู่กับชีวิตอีกชีวิตหนึ่ง
เราจึงออกเดินทางเพื่อออกเดินทาง ไม่ใช่เพื่อจุดหมายปลายทาง และดังนั้น เราจึงไม่ควรนำ ‘ชีวิต’ ที่มีอยู่ ติดตัวไปด้วย กับชีวิตที่จะคลี่บานออกซ้อนทับชีวิตเดิม
อย่างน้อยที่สุด การเดินทางก็ทำให้ผมได้มายืนหนาวเหน็บอยู่หน้า Deacon Brodie’s Tavern สถานที่ที่ว่ากันว่าเป็นจุดกำเนิดของนิยายเรื่องนั้น
พลางครุ่นคิดถึงการเดินทางที่ผ่านมา,
และที่กำลังจะเกิดขึ้นถัดๆ ไป ไม่รู้จบ
โตมร ศุขปรีชา
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in