"If memories could be canned, would they also have expiry dates?
If so, I hope they last for centuries"
ประโยคด้านบนมาจากหนังฮ่องกงเรื่อง Chungking Express หรือมีชื่อภาษาไทยว่า "ผู้หญิงผมทอง ฟัดหัวใจให้โลกตะลึง" กำกับโดยผู้กำกับหนังสุดหว่อง อย่างหว่อง ก๊า ไหว่ (Wong Kar Wai) ก็ไม่รู้ว่าเฮียหว่องจะตะลึงด้วยไหม ถ้าได้รู้ว่าหนังของเขามีชื่อภาษาไทยที่ไม่พ้องกับชื่อต้นฉบับเลยแม้แต่น้อย แถมไม่อิงเรื่องราวของหนังเลยด้วย ครีเอทเบอร์นี้ อยากเห็นหน้าคนตั้งชื่อหนังจังเลยเนี่ย อินดี้เบอร์สิบเบอร์ร้อยเลย
นอกจากนี้ยังมีตากล้องคู่ใจของหว่อง ก๊า ไหว่ อย่างคริสโตเฟอร์ ดอยล์และหลิว เหว่ย เฉียง นำแสดงโดย ทาเคชิ คาเนชิโร่, เหลียง เฉาเหว่ย, วัย หวังเฟย (เฟย์ หว่อง) และ หลิน ชิงเสีย ฉายบนจอเงินครั้งแรกเมื่อปีพ.ศ. 2538 (1994)
1 พฤษภาคมของปีนี้ คือวันที่สับปะรดกระป๋องหมดอายุมาแล้ว 25 ปี (Expiration dates -1 MAY 1994) ความที่ดูหนังเรื่องนี้มาไม่ต่ำกว่าสิบรอบ ยกให้เป็นหนังเรื่องโปรดในดวงใจ คล้าย ๆจะยกให้เป็นอันดับต้น ๆ ของหนังทั้งมวลในจักรวาลด้วยซ้ำ ทำไงได้ ก็เพราะชอบทั้งพล็อต ฉาก นักแสดง เรื่อยไปจนถึง Soundtrack ที่ดูเหงา ๆ ปนความวุ่นวายนั่นด้วย
และเมื่อวันที่ 1 พฤษภาเวียนมาครบ วันนี้จึงเป็นวันพิเศษ
เปิดเรื่องด้วยนายตำรวจรหัส 223 (Cop223) กระทำความหว่องตั้งแต่ต้นเรื่อง เขาถูกอาเมย์ แฟนสาวบอกเลิกในวันที่ 1 เมษายน ปี 1994 ซึ่งตรงกับวัน April Fools' day เขาเวียนวนโทรหาเธอหลายต่อหลายครั้งด้วยโทรศัพท์สาธารณะ แต่อาเมย์ไม่เคยรับสาย เขาจึงตั้งเงื่อนไขให้กับความรักอันหน่วง ๆ นี้ว่า ถ้าอาเมย์ไม่กลับมาภายในระยะเวลาหนึ่งเดือน จะถือว่าความสัมพันธ์ของเธอและเขาสิ้นสุดลง แม้จะเจ็บแต่ก็ยังเด็ดขาด พี่ตำรวจสุดยอดไปเลย
ในระหว่างที่โศกเศร้าเสียใจอยู่นั้น เขาก็ไปดื่มเหล้าย้อมใจอยู่ที่บาร์แห่งหนึ่ง และในระหว่างที่พร่ำเพ้อว่าเมื่อไหร่เขาถึงจะลืมอาเมย์ได้นั้น ความคิดประหลาดก็เกิดขึ้นในหัว เขาตั้งใจกับตัวเองว่าจะตกหลุมรักกับผู้หญิงคนแรกที่เดินเข้ามาในบาร์ แล้วคุณตำรวจของเราก็ได้พบกับผู้หญิงผมทองแว่นดำ ผู้ใส่เรนโค้ทตลอดเวลาแม้ว่าวันนั้นจะไม่มีฝนตกลงมาสักหยด
ถ้ายังจำกันได้ ตอนเปิดเรื่องจะเห็นนายตำรวจ 223 ของเราวิ่งล่าคนร้ายในตึกจุงกิ่ง (Chungking Mansions) วิ่งสวนกับสาวผมทองในตึกจนเกิดประโยคโรแมนติกแบบหว่อง ๆ
“Just 0.01 of a centimeter between us. This was the closest we ever got. But 57 hours later I fell in love with her”
เมื่อคนเหงาสองคนมาพบกัน บทสนทนาจึงบังเกิด ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเขาจะเป็นฝ่ายถามมากกว่าก็ตาม เขาเฝ้าถามว่าเธอชอบกินสัปปะรดไหม? สาวผมทองไม่ตอบ แต่เธอพึมพำในใจกับตัวเอง
"Actually, knowing someone doesn't mean anything.
People Change. A person may like pineapple today and something else tomorrow"
เป็นประโยคหนึ่งของเรื่องที่ฉันต้องเก็บใส่ไว้ในใจ การรู้จักใครไม่ได้มีความหมายอะไรเลย คนที่ชอบกินสับปะรดในวันนี้ พรุ่งนี้อาจกลายเป็นชอบอย่างอื่น เป็นประโยคที่อิมแพคต่อจิตต่อใจมาก เป็นสัจธรรมที่สอนให้เราเข้าใจธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงได้ดีจริง ๆ ความชอบยังเปลี่ยนกันได้ นับประสาอะไรกับใจคน?
เรื่องราวต่อจากนั้นก็จบลงที่สาวผมทองเมามายสลบไสล แล้ว Cop223 ก็เปิดห้องให้เธอนอน นั่งกินอาหาร ดูทีวี และเฝ้าเธอหลับ แถมยังถอดรองเท้าส้นสูงของเธอออกมาทำความสะอาดด้วยเนคไทของเขาเอง แล้วก็อันตรธานหายไปก่อนที่สาวผมทองจะตื่นขึ้นมาในตอนเช้า หว่องเกินไปจริง ๆ
เมื่อครบหนึ่งเดือนตามกำหนด วันที่ 1 พฤษภาคม อาเมย์ก็ไม่กลับมา ความผิดหวังเสียใจทำให้เขาต้องออกไปวิ่งให้เหงื่อออกมาก ๆ การวิ่งจะเผาผลาญน้ำในร่างกาย มันจะได้ไม่มีเหลือมาเป็นน้ำตา ไม่มีน้ำตาแล้วเขาจะร้องไห้ได้ยังไง
"We are all unlucky in love sometimes. When I am, I go jogging.
The body loses water when you jog, so you have none left for tears"
จากนั้นเขาก็ไปหาซื้อสับปะรดกระป๋องที่หมดอายุในวันที่ 1 พฤษภาคม มานั่งกินจนหมด ทุกอย่างในโลกล้วนมีวันหมดอายุ ความรักเองก็เช่นกัน แต่ถ้าเป็นไปได้ เขาอยากติดฉลากวันหมดอายุ ให้ยาวนานถึงหนึ่งหมื่นปี
"If memories could be canned, would they also have expiry dates?
If so, I hope they last for centuries"
หนังไม่ได้บอกว่าชีวิตหลังจากนั้นของทั้งนายตำรวจรหัส 223 กับสาวผมทองเป็นแบบไหน บทสรุปเป็นอย่างไร แต่หนังแนะนำเราให้รู้จักกับนายตำรวจรหัส 663 (Cop663) และอาเฟยแทน
Cop223 ไปร้านอาหารร้านเดิมเจ้าประจำที่เขาโทรศัพท์หาอาเมย์ที่นั่น เถ้าแก่เจ้าของร้านเลยแนะนำให้จีบอาเฟย เด็กสาวที่เพิ่งมาทำงานในร้าน ไหล่ของทั้งคู่กระทบกัน เขาและเธออยู่ใกล้กัน 0.01 เซนติเมตร เขาไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร แต่อีกหกชั่วโมงต่อมา เธอก็ตกหลุมรักชายคนอื่น
ชายผู้นั้นคือนายตำรวจรหัส 663 เขาเองก็มีพาร์ทความรักอันหม่นเศร้า ระหว่างเขาและแฟนแอร์โฮสเตส แต่เขาไม่มีเงื่อนไขใด ๆ ในเรื่องความรัก เขาใช้ชีวิตเรื่อย ๆ กับการกระทำทุกอย่างเป็นรูทีน ทำงาน ดื่มกาแฟดำ สั่งเมนูเดิม ๆ อย่างเชฟสลัด และกลับมาปลอบประโลมสิ่งของเครื่องใช้ในห้อง เพราะคิดว่าสรรพสิ่งต่างโศกเศร้าเมื่อเธอจากไป เขาพูดคุยปลอบโยนตุ๊กตาหมี ว่าวันหนึ่งเธอจะกลับมา รำพึงรำพันกับสบู่ที่ดูผอมไป บีบน้ำตาให้ผ้าเช็ดตัวและบอกฝักบัวให้เลิกร้องไห้ คิดได้ไงไม่รู้ แต่อยากกราบคนเขียนบทมาก ยิ่งหน้าเฮียเหลียงตอนพูดประโยคเหล่านี้ออกมา ดูจริงจังปนน่ารักจนขำไม่ออกเลย โคตรเท่ เอาไปสิบบวก ๆ
จนเมื่อเขาได้พบกับอาเฟย สาวพนักงานร้าน Chef salad คนที่ชอบเปิดเพลง California Dreamin' ด้วยวอลลุมที่แม็กซิมัมสุด แล้วตะโกนคุยกับเขาราวกับคนหูหนวก
แฟนแอร์โฮสเตสของนายตำรวจ 663 ได้ฝากจดหมายพร้อมกับกุญแจห้องไว้กับเถ้าแก่ แต่เขาไม่กล้าเปิดอ่าน เพราะรู้ว่าต้องเป็นจดหมายที่เขียนมาบอกเลิก เขายังทำใจไม่ได้ จึงฝากจดหมายไว้ที่ร้านนั้น
อาเฟยแอบอ่านจดหมายและใช้กุญแจนั้นไปไขห้องเขา ทำตัวเป็นสตอล์กเกอร์ ซึ่งในชีวิตจริงเจอแบบนี้เราคงแจ้งตำรวจอย่างไม่รีรอ แต่เมื่อเป็นหนัง ความเรียลลิสติกก็กลายมาเป็นความโรแมนติกหน้าตาเฉย เธอเข้าไปทำความสะอาดห้อง เอาโมเดลเครื่องบินไปจุ่มในตู้ปลา ซื้อปลามาใส่ตู้ให้ เปลี่ยนผ้าปูโต๊ะ เปลี่ยนผ้าปูที่นอนผืนใหม่ แอบใส่ยานอนหลับลงไปในน้ำที่เขาดื่ม เพราะเธอเห็นเขาดื่มกาแฟดำบ่อย ๆ อาจมีปัญหาเรื่องนอนไม่ค่อยหลับ
อาเฟยมักจะหาเวลาว่างจากงานไปพูดคุยกับเขา เธอเล่าว่าอยากไปแคลิฟอร์เนีย เธอชวนเขาเล่น ๆ ว่าอยากไปไหม แต่ไร้ซึ่งคำตอบจากนายตำรวจ 663
คืนหนึ่ง Cop663 มาที่ร้าน เพื่อชวนอาเฟยออกเดท พร้อมกับเอาแผ่น California Dreamin' มาคืน แต่เถ้าแก่บอกว่าเธอลาออกไปแล้ว ที่จริงอาเฟยได้เดินทางไปแคลิฟอร์เนียอย่างที่ตั้งใจไว้
หนึ่งปีให้หลังเธอกลับมาที่ร้าน พบว่าเจ้าของร้านคนใหม่คือนายตำรวจ 663 หลังจากที่เธอจากไป เขาก็ทำตัวเป็นคนใหม่ ไม่จมอยู่กับอดีต กับความรักอันหม่นเศร้าเดิม ๆ เขาและเธอไม่ได้ติดต่อกันเลยในระยะเวลาหนึ่งปีนั้น แต่ทั้งคู่ก็ยังรอเวลาที่จะกลับมาหากัน เธอถามเขาว่าอยากไปไหน เขาตอบว่า "ไปไหนก็ได้ที่เธออยากพาเขาไป"
มีคนบอกว่าเมื่อใดก็ตามที่เราไม่สร้างเงื่อนไขให้กับความรัก ความรักนั้นก็ไม่มีวันหมดอายุ
ฉันเปิด Chungking Express ดูอีกรอบในวันนี้ เมื่อใดก็ตามที่ผิดหวังจากความรัก ฉันเองจะออกไปวิ่ง แม้จะรู้ว่าต่อให้วิ่งเท่าไหร่น้ำตาก็ไม่มีวันเหือดหาย แต่ก็ยังยืนยันที่จะวิ่ง ยังคงมองหาสับปะรดกระป๋องที่นายตำรวจรหัส 223 และอาเมย์ชอบกิน เวลาเจอสับปะรดกระป๋องยี่ห้อนั้นฉันก็ดีใจ ยังฟังเพลง California Dreamin' ในวันที่อากาศร้อนจัด ไดอะล็อคเท่ ๆของตัวละคร คำคมจากหนังก็ยังถูกนำมาโพสต์ลงโซเชียล แม้ว่าจะผ่านไป 25 ปีแล้วก็ตาม ทุกอย่างในหนังยังคงคลาสสิคเสมอไม่เปลี่ยนแปลง ถ้าจะมีอะไรคงความเท่ไม่เปลี่ยนไปตามกาลเวลา หนังเรื่องนี้คงเป็นหนึ่งในนั้น
Happy MAY Day ค่ะ
*เพื่ออรรถรสในการอ่าน แนะนำให้เปิดฟัง Soundtrack เท่ๆหว่อง ๆ จากหนังด้วยนะคะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in