ปกติเป็นมนุษย์ที่จัดอยู่ในประเภทที่เห็นคำว่า History ก็ง่วงไปแล้วล่วงหน้า แต่ชอบเดินพิพิธภัณฑ์ ชอบเสพงานศิลป์มากนะ มีคนบอกว่าถ้าอยากรู้จักประเทศไหน ให้เข้ามิวเซียมของที่นั่น บางทีเราอาจรู้จักประเทศนั้นมากขึ้น ไม่มากก็น้อย การเรียนรู้ประวัติศาสตร์จึงกลายเป็นเรื่องบันเทิงอย่างยิ่ง ไม่ใช่การดูเพื่อจำ แต่เป็นการดูเพื่อรู้ "จำ" ย่อมมีวันลืม แต่ "รู้" แล้วไม่มีทางลืม ฉันเชื่ออย่างนั้น
ฮ่องกงไม่ใช่ประเทศ แต่เป็นเขตปกครองพิเศษของจีน มีชื่ออย่างเป็นทางการว่าเขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน แต่ในสมัยราชวงศ์ชิง อังกฤษและจีนมีปัญหาในเรื่องการค้าฝิ่นในแถบกวางตุ้งของจีน จีนได้ประกาศห้ามนำเข้าฝิ่น หากฝ่าฝืนมีโทษถึงประหาร แต่อย่างไรก็ตามก็ยังมีการลักลอบนำฝิ่นเข้ามายังจีนแผ่นดินใหญ่เรื่อย ๆ เพราะฝิ่นเป็นสินค้าที่ทำรายได้มหาศาลให้แก่ชาวอังกฤษ จนเจ้าหน้าที่จีนได้ยึดฝิ่นจากพ่อค้าเรืออังกฤษในเมืองกวางโจว อังกฤษพยายามขอฝิ่นที่ถูกยึดคืน แต่ทางจีนปฏิเสธจนเกิดมีกรณีพิพาทกันขึ้น ทางการจีนได้ทำลายและทิ้งฝิ่นลงทะเล ทำให้สถานการณ์ยิ่งรุนแรงขึ้น จนทำให้เกิดสงครามฝิ่น จีนพ่าย เป็นเหตุให้อังกฤษเข้ายึดครองเกาะฮ่องกง อังกฤษจึงบีบบังคับให้จีนทำสนธิสัญญานานกิง เช่าเกาะฮ่องกงเป็นระยะเวลา 99 ปี (ยกเว้นช่วงที่ถูกญี่ปุ่นยึดครองปี ค.ศ.1941-1945) สิ้นสุดสัญญาในวันที่ 30 มิถุนายน ค.ศ.1997 ทางอังกฤษได้ส่งคืนฮ่องกงให้แก่จีนเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม ค.ศ.1997 และจีนได้ให้คำมั่นสัญญายินยอมให้ฮ่องกงอยู่ในฐานะ "เขตปกครองตนเอง" ในระยะเวลา 50 สิ้นสุดปี ค.ศ. 2047
พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ฮ่องกง (Hong Kong Museum of History) อนุญาตให้เราถ่ายรูปได้ แต่ห้ามใช้ขาตั้งกล้องและไม้เซลฟี่เด็ดขาดนะจ๊ะ ในระหว่างที่เดินชมอยู่นั้น ก็มีสุภาพสตรีท่านหนึ่งเริงร่ากับการยกไม้เซลฟี่ขึ้นมาถ่าย เจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์ได้เข้ามาตักเตือน แต่ก็ไม่วายเห็นเธอแอบหยิบขึ้นมาถ่ายเวลาที่เจ้าหน้าที่เผลอ อยากจะหันไปบอกเหลือเกินว่าเก็บไม้เถอะจ้าอาหมวย ถ้าไปเกี่ยวโดนข้าวของเขาเสียหาย หมวยต้องรับผิดชอบนะเออ แล้วของที่ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์แบบนี้จะรับผิดชอบยังไงไหว แต่พอเห็นท่าทีของเธอแล้ว ฉันก็ได้แต่สงบปากสงบคำ และขออนุญาตไม่ยุ่งเกี่ยวกัน ไม่ใช่อะไร ช่วงนี้กินเผือกเยอะไม่ได้ โดนหมวยรำไทเก๊กใส่จะเดือดร้อน
ฉันเดินไปตามทางที่จัดแสดงผลงานไปเรื่อย ๆ ในส่วนแรกเป็นบรรยากาศโดยทั่วไป ระหว่างมนุษย์ในยุคนั้นกับสิ่งแวดล้อมโดยรอบ ก่อนจะเข้าสู่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ฮ่องกง ส่วนนี้น่าตื่นตาตื่นใจดีมาก มีดิสเพลย์โชว์หินและชั้นดินเมื่อหลายล้านปีก่อน เพื่อแสดงให้เห็นว่าก่อนจะเป็นแผ่นดินฮ่องกงอย่างทุกวันนี้ สมัยก่อนเคยเป็นอย่างไร ประวัติศาสตร์จีนห้าพันกว่าปี ตั้งแต่ยุคราชวงศ์ฮั่นถึงราชวงศ์ชิง ซึ่งประวัติความเป็นมายาวมาก ต้องเจาะเวลาหาจิ๋นซีกันเลย นับตั้งแต่ราชวงศ์ฉิน, ฮั่น, ถัง, ซ่ง, หยวน, หมิง และสุดท้ายคือราชวงศ์ชิงที่ล่มสลายเป็นราชวงศ์สุดท้ายของจีน
ฉันเดินช้า ๆ อ่านข้อความที่อธิบายประกอบการจัดแสดงไป ถ่ายรูปไป ใช้เวลากับโซนนี้นานกว่าในโซนอื่น ๆ ส่วนนี้เป็นการจัดแสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมพื้นบ้านฮ่องกง เป็นวิถีชีวิตของชาวประมงดั้งเดิม ประเพณีและความเชื่อ อาหารการกินพื้นบ้าน การนับถือเทพเจ้าและลัทธิเต๋า พิธียกน้ำชา พิธีแห่ขันหมากและงานเฉลิมฉลองงานแต่งงานแบบท้องถิ่น มีทั้งการแสดงอุปรากรให้ดูกันสด ๆ และเป็นหุ่นการแสดงแล้วเปิดออดิโอวนซ้ำ มีการจัดแสดงเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของชาวฮ่องกง แน่นอนว่ามีทั้งผ้าไหมเนื้อดีราคาแพงของเศรษฐี ไปจนถึงเสื้อผ้าที่ชาวบ้านทั่วไปสวมใส่ การแสดงในส่วนนี้ทำให้ได้เห็นถึงความบริบูรณ์พูนสุขของชาวฮ่องกงในอดีต แม้ฮ่องกงจะก้าวล้ำไปข้างหน้ามากแค่ไหน แต่ฮ่องกงก็ยังเคารพในอดีตของตน และไม่เคยลืมรากวัฒนธรรมที่เคยมีมา เป็นความรุ่มรวยทางวัฒนธรรมโดยแท้ จนต้องร้องในใจว่า ฮ่องกงนี่มันฮ่องกงจริง ๆ
แม้ว่าฮ่องกงจะเคยเป็นอาณานิคมของอังกฤษ (และเคยถูกญี่ปุ่นยึดครองในช่วงระยะเวลาสั้นๆ) ส่งผลให้ฮ่องกงในวันนี้กลายเป็นเมืองอันเฟื่องฟูทั้งในด้านเศรษฐกิจ ระบบการศึกษา อังกฤษได้วางรากฐานระบบขนส่งมวลชนสาธารณะที่ทั้งปลอดภัยและมีประสิิทธิภาพมากในอันดับต้น ๆ ของโลก แต่คนฮ่องกงยังคงมีความเป็นตะวันออกค่อนข้างสูง เป็นความตะวันออกที่ผสานกับความเป็นตะวันตกอย่างกลมกลืนและลงตัว เป็นอีกสิ่งที่ฉันค่อนข้างชื่นชอบและชื่นชมอยู่เสมอ ฮ่องกงมีอัตลักษณ์เฉพาะตัว ฮ่องกงไม่ใช่จีน และฮ่องกงยิ่งไม่ใช่อังกฤษ ฮ่องกงเป็นของฮ่องกงเอง เป็นสิ่งที่ฉันรู้สึกว่า มันช่างเท่ไม่เบาเลย
อีกสิบห้านาทีจะถึงเวลาพิพิธภัณฑ์ปิด ฉันหันไปมองยังที่ที่เพิ่งก้าวขาจากมา สิ่งที่อยู่เบื้องหลังกลายเป็นอดีตที่เพิ่งผ่านพ้นไปเพียงชั่ววินาที ในขณะที่สามชั่วโมงก่อนหน้านั้นฉันเพิ่งย้อนเวลากลับไปในห้าพันปีก่อนอยู่เลย รู้สึกตื่นเต้นเหมือนได้นั่งไทม์แมชชีนของโดเรมอนย้อนเวลาไปในอดีตยังไงยังงั้น
พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ทำให้ฉันได้เรียนรู้เรื่องราวจากอดีตที่คนรุ่นก่อนส่งผ่านมาถึง ฉันอดคิดไม่ได้ว่าอีกร้อยปีพันปีต่อจากนี้ คนรุ่นเราจะเป็นประวัติศาสตร์แบบไหนให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้ นวัตกรรมที่เรามองว่ามันโคตรเจ๋ง ล้ำสมัยในยุคนี้ อาจกลายเป็นวัตถุที่ลูกหลานรักษาไว้ในพิพิธภัณฑ์ในอนาคตข้างหน้า วัฒนธรรม ประเพณีต่าง ๆ จะยังสามารถสืบทอดไปไกลได้แค่ไหน ไม่มีใครล่วงรู้ สิ่งที่รู้คือในโลกนี้ไม่มีอะไรเป็นนิรันดร์ ทุกอย่างมีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปเสมอ ประวัติศาสตร์เปลี่ยนผ่านหมุนเคลื่อนไปข้างหน้า กงล้อประวัติศาสตร์อาจหมุนทับรอยเดิม ไม่มีอะไรยืนยันว่าสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว จะไม่เกิดขึ้นอีก
บางครั้งอดีตและความทรงจำก็เป็นสิ่งที่สั่นไหวบางซอกมุมในหัวใจเหมือนกันนะ
ค่าบัตรเข้าชมพิพิธภัณฑ์เพียงแค่ 10$ และส่วนใหญ่ในทุก ๆ วันพุธ พิพิธภัณฑ์ในฮ่องกงจะให้บริการฟรีไม่มีค่าธรรมเนียม
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in