"Have you ever wonders what a human life is worth? That morning,my brother's was worth a pocket watch."
ปกติเป็นคนอ่านหนังสือไม่ค่อยจะจบ แล้วก็ชอบซื้อใหม่
แต่เรื่องนี้เป็นเล่มแรกที่เราอ่านจบ ..และทันทีที่อ่านจบก็ทนไม่ไหว รีบมาเขียนรีวิวทันที;)
“A wrongdoing doesn't give us the right to do wrong.”
เรื่องย่อ จาก Goodreads
Lina is just like any other fifteen-year-old Lithuanian girl in 1941. She paints, she draws, she gets crushes on boys. Until one night when Soviet officers barge into her home, tearing her family from the comfortable life they've known. Separated from her father, forced onto a crowded and dirty train car, Lina, her mother, and her young brother slowly make their way north, crossing the Arctic Circle, to a work camp in the coldest reaches of Siberia. Here they are forced, under Stalin's orders, to dig for beets and fight for their lives under the cruelest of conditions.
พล็อตเรื่องคร่าวๆ
เป็นเรื่องของสาวน้อย Lina วัย 15 ปี(ณ เวลาที่ถูกจับ)และน้องชาย Jonas กับแม่ชื่อ Elena ที่ถูกพวกที่เรียกว่า NKVD จับไปพร้อมกับชาวลิทัวเนียนคนอื่นๆ เพียงเพราะพวกเขาเป็น Lithuanians ในยุคของ starlins (ยุคเดียวกับฮิตเลอร์) ในหนังสือเราก็จะได้อ่านเรื่องในมุมมองของ Lina ที่ต้องจากบ้านเกิดไปครึ่งค่อนโลก ไปใช้ชีวิตอย่างลำบาก ถูกจับกุม ไร้อิสระ ภายใต้อากาศที่หนาวติดลบหลายองศา
พล็อตเรื่องมีแค่นี้จริงๆ แต่สิ่งที่ทำให้เรื่องนี้โดดเด่นและได้รับคะแนนรีวิว สูง มากกกกกก คือการบรรยายของนักเขียน และความการเติบโตของตัวละครทุกตัว ที่เราบอกเลยว่าในหนังสือเล่มนี้ไม่มีช่วงไหนที่เราเบื่อเลย
“Was it harder to die, or harder to be the one who survived?”
REVIEWS❤️
สิ่งที่ทำให้เลือกซื้อเรื่องนี้มาตั้งแต่แรกคือพล็ิอตเรื่อง และยิ่งได้รู้ว่ามีเรื่องความรักด้วยเรายิ่งอยากได้?.
แต่บอกเลยว่าหลังจากที่เธออ่านเธอจะไม่สนเรื่องความรักอะไรทั้งสิ้น (เพราะมันก็มีแค่ไม่กี่ฉาก แต่มันสวยงามจริงๆ) สิ่งที่น่าติดตามกว่านั้นคือการผจญไปในสถานการณ์ต่างๆผ่านมุมมองของ Lina รวมถึงความรักของ Elena ที่มีต่อลูกทั้งสอง
ในเรื่องการเขียน เขาเขียนเข้าใจง่ายดีนะ ชอบตรงที่เขียนออกมาง่ายๆแต่บรรรยายได้สวยงามและเปี่ยมไปด้วยคำคมในหลายๆประโยคจริงๆ โดยเฉพาะบทสนทนาต่อกันของตัวละครแค่ละตัวนะเธอเอ๋ย มันคมกริบ มันประทับใจ มันจึก มันสุดๆจริงๆ
ในส่วนของ romance ก็เป็นความรักระหว่าง Lina และ Andrius
“Good men are often more practical than pretty " said Mother. "Andrius just happens to be both.”
ส่วนตัวเราชอบความรักความสัมพันธุ์ระหว่างสองคนนี้มากกกก แต่เสียตรงที่น่าจะเพิ่มฉากระหว่างสองคนนี้มามากกว่านี้หน่อย แต่ก็เข้าใจว่า main หลักของเรื่องมันไม่ใช่ romance แต่มันคือเรื่องผลกระทบจากสงคราม แต่ก็มีบางฉากนะที่เราแอบชิประหว่าง Lina กับ NKVD คนนึงที่ชื่อ Nikolai ถึงแม้คนเขียนเขาจะใส่ตัวละครตัวนี้มาเพื่อให้เห็นหลายมุมมองของสงครามก็เถอะ555
CHARACTERS❤️
Between shades of Gray คือหนังสือที่เราชอบตัวละครทุกตัว ย้ำว่าทุกตัว เพราะมันมีความ real มันคือมนุษย์ มีทั้งด้านดีและเลวไม่ว่าจะเป็นตัว Lina เอง หรือแม้แต่เจ้าหน้าที่ NKVD ชื่อ Nikolai ที่อายุยังไม่เท่าไร
-เริ่มที่ Elena แม่ของลีน่าและโจนัส เธอคือ good spirit ของเรื่องนี้เลยก็ว่าได้ Elene เป็นผู้หญิงที่ถึงแม้เธอจะจิตใจดี มีเมตตา มีน้ำใจ แต่ก็เปี่ยมไปด้วยความกล้าหาญเท่าที่ผู้หญิงคนนึงจะเป็นได้เพื่อลูกๆทั้งสอง
Nikolai เคยกล่าวถึง Elena ว่า “Krasivaya. It means beautiful, but with strength. Unique.”
ถึงกับต้องไฮไลท์ประโยคนี้ไว้เพื่อ Elena
-อีกตัวละครคือ Jonas น้องชายของลีน่าที่ขณะถูกจับเพิ่งจะอายุได้ 11 ขวบ แต่สิ่งที่เห็นได้จากในเรื่องเลยคือความเป็นสุภาพบุรุษแท้ๆของเจ้าโจนัส และไม่ว่าเกือบทุกๆฉากในเรื่องโจนัสจะพยายามทำตัวเหมือนโต กล้าหาญแค่ไหน แต่สุดท้ายเขาก็ยังคงเป็นเด็กชายวัน 11 ปีที่ต้องเผชิญกับผลกระทบของสงคราม
-อีกคาร์แรคเตอร์ที่อยากพูดถึงมากๆ ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือ Nikolai Kretzky ..เขาเป็นเจ้าหน้าที่ NKVD ที่อ่านตอนแรกๆอาจจะไม่ชอบเพราะถือว่าเป็นฝ่ายศัตรูกับตัวละครเอก แต่ในช่วงหลังเราจะได้รับรู้วาเขาเองก็เป็นเพียงแค่เด็กชายคนนึงไม่ต่างกับ Lina ที่ต้องจากบ้านเกิดมาเพราะสงคราม ต้องสูญเสียอะไรหลายๆอย่าง และเพราะสงครมาทำให)เขาต้องมาเป็นแบบที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ และเราบอกได้เลยว่าหากอ่านจบ เธออาจตะหลงรักตัวละครตัวนี้^^
ผู้เขียนได้พูดถึง Nikolai เอาไว้ว่า "He's a young man that can't see things in black and white as the Soviet system demands of him" เรียกได้ว่าตัวละครตัวนี้คือที่มาของชื่อเรื่อง Between Shades of Gray ที่อาจหมายถึงความดีของมนุษย์ที่ถูกปกปิด และอาจมองเห็นได้ท่ามกลางหลากหลายเฉดของสีเทาจากสงคราม
*****Spoilers alert*****
แม้เราจะรู้อยู่แล้วว่าแม่ของเด็กๆจะตายในตอนท้าย แต่ก็คิดไม่ถึงว่าพออ่านมาถึงฉากนั้น มันตะบีบคั้นหัวใจจนร้องไห้ (เป็นพวก bookish emotional?) เราจะรู้สึกว่า Elena เป็นเหมือนนางฟ้าท่ามกลางความหนาวเหน็บของสงคราม แล้วยิ่งเมื่อลีน่าเปิดกระเป๋าเสื้อผ้าของแม่ เจอเสื้อผ้าสะอาดสะอ้าน พับเก็บเรียบร้อยอยู่ครบ เหมือนเธอยังมีความหวังว่าจะได้กลับบ้าน ถึงตอนนี้น้ำตาก็ไหลพราก
*****End of Spoiling*****
เป็นหนังสือที่จบได้ประทับใจ และเชื่อว่าจะประทับอยู่ในใจไปอีกนาน ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงมีแต่คนยกย่อง
เชื่อเถอะ เธอจะไม่เสียใจเลยที่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้^^
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in