ชอบเล่มนี้ที่สุดแล้วจากทั้งหมดที่ได้อ่านมาของอาจารย์แล้วมั้ง
อาจเพราะอาจารย์ใช้เมืองเพชรบุรีมาเป็นฉากด้วย ถึงจะแค่เอาชื่อสถานที่มายำกันมั่วๆก็เถอะ แต่อ่านแล้วมันฟินน่ะ เรื่องออกจากเอื่อยๆช่วงแรก แต่หน้าท้ายๆไปจนจบคือสุดยอดดดด ดีมากกกกกกก
ปล. แต่แอบชอบชื่อเรื่องเก่ามากกว่านะ
อ่านงานของอาจารย์มาเล่มนี้เล่มที่ 4
ก็ยังไม่เจอเล่มที่ไม่ชอบนะ
เล่มนี้เป็นรวมเรื่องสั้นหลายๆเรื่อง
มีเรื่องอสรพิษที่ได้รางวัลซีไรต์ด้วย
เรื่องสั้นเรื่องอื่นๆก็มีทั้งชอบมากและชอบน้อยปนๆกัน
แต่เรื่องอสรพิษนี่เป็นเรื่องสั้นที่ทรงพลังจริงๆ
ทั้งภาษาที่สวยมาก เป็นเอกลักษณ์มาก
แล้วเนื้อเรื่องยังบีบคั้นสุดๆ
อ่านจบนี่เอ๋อแ-กไปพักหนึ่งเลย
ความเรียงเล็กๆ พรรณนาถึงความรัก คนรัก ....
ดูชื่อคนเขียนสิ
จบ.
น่าจะเป็นเล่มที่ชอบที่สุดของปีแล้วมั้ง
เรียนความขัดแย้งในแผ่นดินตรงนี้มาตั้งแต่ในโรงเรียนมะ แต่ก็ไม่เคยเข้าใจอะไรจริงๆจังๆ
แต่เล่มนี้คือ เล่าผ่านบุคคลที่สามที่ไม่มีส่วนได้ส่วนเสีย(มั้ง)
(พยายาม) เล่าอย่างเป็นกลาง ให้เห็นผ่านจากรอบด้าน
อ่านแล้วก็หูตาสว่างขึ้นหลายส่วน
อย่างน้อยก็ได้รู้ว่าอย่าเที่ยวไปวิพากย์วิจารณ์ ชี้หน้าด่าใครเพราะสิ่งที่เขาทำ มันอาจจะเลวร้าย แต่คุณไม่ได้อยู่ตรงนั้น ุณไม่ได้เป็นเขา คุณไม่รู้หรอกว่าเบื้องหลังการกระทำมันมีอะไรบ้าง
ความเชื่อของคุณ ทัศนคติของคุณ เอาไปตัดสินคนอื่นไม่ได้
จากที่เคยเรียนปรัชญาแบบแตะๆแบบผิวเผิน
อ่านเล่มนี้ก็เหมือนได้ขยายความรู้ด้านปรัชญาให้กว้างขึ้น กว้างแต่ไม่ลึก เพราะเล่มนี้เล่าถึงแนวคิดของนักปรัชญาคนสำคัญๆของแต่ละยุคแบบเผินๆ บอกแนวคิดสำคัญ ข้อเด่นข้อด้อยของแต่ละแนวคิด อ่านสนุกดี บางแนวคิดก็อ่านแล้วขำๆสำหรับยุคนี้ บางอันก็น่าเอาไปคิดต่อ
..................................
อันที่ชอบที่สุดน่าจะเป็นทฤษฏีวิวัฒนาการของดาร์วิน เป็นทฤษฎีที่ปฏิวัติความเชื่อเรื่องพระเจ้าไปเลย พระเจ้าไม่จำเป็นต้องมีตัวตนก็เป็นเรื่องที่เป็นไปได้
อีกเรื่องที่ชอบคือแนวคิดของซาทร์
"ตัวตนและความว่างเปล่า"
ที่เชื่อว่าเราเกิดมาลอยๆไร้จุดหมายต่างจากเครื่องมือเครื่องใช้ที่มีจุดประสงค์ของการเกิดแล้วจึงเกิดขึ้นมา ฉะนั้น มนุษย์มีเสรีภาพ แต่ก็เป็นเสรีภาพที่ทุกข์ทนที่ต้องเลือกต้องตัดสินใจว่าจุดหมายของชีวิตตนคืออะไร และเราก็ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เราเลือก
ตายแล้วไปไหน ฉบับสะท้อนสังคมจีน
...............................
ตอนซื้อมารู้แค่ว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับชีวิตหลังความตายของชายคนหนึ่ง
ทั้งเรื่องคือตัวเอกจะเล่าเรื่องไปเรื่อยๆ เอื่อยๆ
แต่สิ่งที่ตัวเอกเล่าคือประเด็นหนักๆของสังคมจีนทั้งนั้นเลย ทั้งเรื่องรัฐบาล เรื่องความเลื่อมล้ำ
ผ่านความเชื่อเรื่องหลังความตายของจีน
ปกตินิยายที่เล่นประเด็นพวกนี้เราอ่านแล้วจะรู้สึกถึงความเกลียดชังที่คนเขียนพยายามจะยัดเยียดใส่เข้ามา ทำให้คนอ่ารู้สึกอึดอัดแทนที่จะมีอารมณ์ร่วม
แต่เรื่องนี้ผู้เขียนเขียนดีจริงๆ เสียดสีโดยการแทรกฉากเล็กๆเข้ามาขณะที่เล่าเรื่องชีวิตของตัวเอกไปด้วย ทำให้ประเด็นมันไม่ดูยัดเยียดจนเกินไป
ปล่อยให้คนอ่านได้ซึมซับสิ่งที่คนเขียนต้องการจะสื่ออย่างเต็มที่
เรื่องนี้ภาษาสวยมาก เขียนดีมาก คือต้นฉบับเป็นยังไงไม่รู้นะแต่ฉบับแปลที่อ่านภาษาสวยมาก
อ่านเพลินเลย พล็อตก็แหวกแนวมาก อ่านแล้วอึ้งได้ตลอด ยิ่งบทสุดท้ายคืออ่านไปน้ำตาไหลไป
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in