รีวิวอัลบั้ม Praise A Lord Who Chews But Which Does Not Consume; (Or Simply, Hot Between Worlds) - Yves Tumor

Release Date : March 17, 2023

Genres : Art Rock, Neo-Psychedelia, Post-Punk, Noise Pop, Post-Punk Revival, Dance-Punk

.

Yves Tumor ศิลปินชาวอเมริกัน producer แนวเพลงทดลอง กลับมาพร้อมกับ Studio Album ลำดับที่ 5 ของเขาPraise a Lord Who Chews but Which Does Not Consume (Or Simply, Hot Between Worlds) หลังจาก 2 อัลบั้มก่อนหน้าที่ประสบความสำเร็จในแง่การได้รับการยกย่องจากนักวิจารณ์และคนทั่วไปเป็นอย่างมาก 

อัลบั้มนี้ได้ดื่มด่ํากับจิตวิญญาณแห่งการทดลอง ดนตรีสไตล์ Gothic Grunge และ Pure Punk ทำให้ Yves Tumor มีลายเซ็นแนวเพลงเพิ่มขึ้นอีกด้วย

แต่ต้องออกตัวบอกก่อนว่างาน Art Rock นั้นเป็น genre ที่ต้องตีความเนื้อเพลงตามชื่อแนวเลย เพราะคำว่าart ศิลปะนั้นก็ต้องมีการตีความใช่ไหมครับ บางสิ่งเราก็ไม่สามารถรู้ได้ว่าศิลปินเขาจะสื่ออะไร ก็ออกตัวก่อนว่าโจก็ตีความตามความเข้าใจของตัวเอง

.

1.God Is a Circle แทร็กเปิดอัลบั้ม Dance Punk, Gothic-Rock ฟังแล้วให้ความรู้สึกตื่นตัว มีความ thrilling ไม่ปลอดภัย 

เริ่มต้นมากับเสียงกรีดร้อง มีความสยองขวัญ เนื้อเพลงท่อนแรกบอกว่า “Sometimes, it feels like. There's places in my mind that I can't go. There's people in my life I still don't know, yeah. Wander 'round, I just feel like a ghost in a well”  “บางครั้งรู้สึกเหมือนว่ามีสถานที่ในใจที่ไม่สามารถไปได้ คนในชีวิตที่รู้จักที่ก็เหมือนไม่คุ้น ได้แต่เดินไปรอบๆเหมือนผีในบ่อน้ํา” 

ส่วนเนื้อเพลงตอนสุดท้าย same old dance เหมือนติดอยู่ในบ่วงจิตใจ ตามชื่อเพลงที่ทีคำว่า circle ที่เต้นอยู่ในมุมมืดมิดภายในจิตใจที่เปราะบาง เดินอยู่ในเขาวงกตแห่งจิตใจความวิตกกังวล เป็นวงจรที่ไม่มีวันสิ้นสุด

.

2.Lovely Sewer มี guest vocalist Kidä ที่เป็นเสียงผู้หญิงในท่อน chorus กับแทรกเสียงประสานพร้อม Yves Tumor แทร็กที่ 2 นี้ เพิ่มความสว่างสดใสขึ้นมาหน่อย จากแทร็กแรก

ตามการตีความ Lovely Sewer เป็นท่อที่ “tragedy free” ปราศจากโศกนาฏกรรม ห่างไกลจากความสิ้นหวังบนพื้นโลก

.

3.Meteora Blues เพลง Grunge Rock แทร็กที่ 3 เป็นเพลงที่ติดหูเลย เพลงมี dynamics ขึ้นลง เริ่มต้นเบาๆด้วยacoustic guitar แล้วไล่ความหนักแน่นไปถึงท่อนคอรัส มีความ replay value เพราะเล่นกับคำว่า red cherry lips เพื่อให้ติดหู หลายๆคนฟังแล้วน่าจะชอบเลย เพราะฟังง่าย

.

4.Interlude พักยกกัน 52 วินาที ที่ฟังแล้วเหมือนกำลังล่องลอยอยู่บนฟ้าไปสู่สรวงสวรรค์อะไรประมาณนี้

.

5.Parody แทร็กที่ 5 แนวเพลง Neo-Psychedelia, Rock Ballad ซิงเกิ้ลสุดท้ายก่อนจะปล่อยอัลบั้มเต็มออกมา เป็นแทร็กที่ค่อนข้างที่จะ smooth และ chill เลยในช่วงแรก แต่พอกีตาร์ขึ้นมาเท่านั้นแหละ รู้เรื่อง ยิ่งท่อน Outro ยิ่งดี เหมือนบิ๊วมาเรื่อยๆจากต้นเพลง ส่วนตัวคิดว่าเป็นซิงเกิ้ลที่ค่อนข้างอ่อนแอกว่าซิงเกิ้ลอื่นที่ปล่อยออกมาก่อนอัลบั้มจะออก

.

6.Heaven Surrounds Us Like a Hood แทร็กที่ 6 จากอัลบั้ม เป็นเพลงแนว Neo-Psychedelia และเป็นซิงเกิ้ลที่ 3 จากอัลบั้มที่มีความโดดเด่นเป็นอย่างมาก เพลงมีหลายเลเยอร์ มี dynamics ขึ้นลง มีจุดผ่อนจุดหนัก transition ตัวเพลง smooth ไหลลื่น ฟังครั้งแรกครบรส ติดหูเลย ในส่วนวิชวล MV ก็มีความ aesthetic ทำให้เพลงมีความเพราะมากขึ้นเวลาฟัง ชอบ sound effect เสียงไฟฟ้าช็อตมากๆ มันโคตรเข้ากับเพลง

.

7.Operator แทร็กที่ 7 อีก 1 แทร็กที่ติดหู เพลงนี้ค่อนข้างที่จะทำให้นึกถึง Prince ศิลปินระดับตำนาน ด้วยทั้งสไตล์การร้อง ทั้งภาคดนตรี ในด้านเนื้อเพลงโจตีความประมาณว่า Operator คือ God แล้ว Yves Tumor นี่แหละเป็นคนโทรไปหา ในท่อนที่ว่า “Are you my lord and saviour? I need a reason to believe” เหมือนเป็นการถามพระเจ้าและขอคำแนะ ส่วนท่อนจบ “Be aggressive” เริ่มที่จะ aggressive จริงๆ เหมือนปีศาจเข้าครอบงำแล้ว

.

8.In Spite of War แทร็กที่ 8 ติดกลิ่น alt-rock ยุค 90s ไม่มั่นใจว่าชื่อเพลงได้แรงบันดาลใจมาจากบทกวีของAngela Morgan ไหม ซึ่งบทกวีนั้นเป็นการให้กำลังใจถึงแม้จะมีเรื่องร้ายอย่างสงครามก็ตาม ก็ให้มองสิ่งที่ดีที่ยังอยู่รอบตัวดีกว่า เพราะ life มันก็ still goes on น่าจะมีความเชื่อมโยงกับเนื้อเพลงที่เปรียบเปรยกับ war มี Devil มีAngel และถามถึงคนรักว่าจะอยู่ข้างกันไหม “I just wanna know, Will you be by my side?”

.

9.Echolalia แทร็กที่ 9 แนวเพลง Neo-Psychedelia ที่ผสมความ Alternative Dance เป็นเพลงที่มีจังหวะ มีความgroovy ถูกปล่อยออกมาเป็นซิงเกิ้ลที่ 2 ของอัลบั้ม sample มาจากเพลง Lobotomy ของวง Neon แนวเพลงGrunge ยุค 80s

Echolaila หมายถึงอาการพูดเลียนแบบผู้ที่อยู่ใกล้เคียง โดยอาจจะพูดไม่เป็นคำที่มีความหมาย สังเกตได้จากวิธีการร้องใน intro, Outro กับระหว่างเพลงที่จะใช้ลูกเล่นการร้องแบบหยุดชะงัก (Uh-uh, uh-uh, uh), (Mm-mm, mm-mm, mm) เนื้อเพลงโดยรวมพูดถึงความรักที่ไม่ค่อยจะดีนัก แต่ก็ยังชอบความสัมพันธ์นี้เพราะมันคือความรัก และยังไม่วายพูดถึงพระเจ้าอย่างท่อน “Looked up to God / She looked so good”  ซึ่งเป็นธีมของอัลบั้ม

.

10.Fear Evil Like Fire แทร็กที่ 10 โดดเด่นด้วยกลองและเบสที่หนักหน่วง ใช้ช่วงเสียงที่เต็มอิ่ม กับท่อนคอรัส“Heaven is a place that we all have, Watch the city vibrate” เพื่อครุ่นคิดถึงชีวิต

.

11.Purified by the Fire แทร็กที่ 11 แทร็กรองสุดท้ายของอัลบั้มนี้เป็นแทร็กเดียวที่ไม่มีเนื้อเพลง มีแต่บีทแบบinstrumental และเป็นแทร็กเดียวที่ไม่ได้รับอิทธิพลของดนตรี rock มาเลย เพราะมีความ hip hop-infused นึกถึงtype beat ของ Kanye West (Ye) ที่ติด experimental 

.

12.Ebony Eye เแทร็กสุดท้าย แทร็กที่ 12 โดยเป็นแทร็กปิดอัลบั้มที่ดีมาก มีความอลังการโอ่อ่าของภาคดนตรีโดยเฉพาะเครื่องสาย เป็นการ sample เพลง Curtain of Iron ของ Kansas มา

เนื้อเพลงท่อน “I can't describe this glowing light, There's no other way than the pearly gates, I found my holy place” บวกกับดนตรีแล้ว เหมือนตอนนี้อยู่ในสวรรค์ ยืนอยู่หน้าประตูไข่มุก ในที่สุดก็เจอสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์แล้ว

.

สรุปโดยรวม 

ด้วยชื่ออัลบั้มนั้นเรารู้สึกได้ว่า Yves Tumor ได้มีการนำเรื่องของศาสนาคริสต์ พระเจ้า สวรรค์ และนรกมาตีความทำเป็นเพลง โดย project อันนี้เหมือนจะนําเราเดินทางทางไปมาระหว่าง 2 โลกได้แก่สวรรค์และนรก “hot between worlds” โดยการท่องไปมาระหว่างส่วนลึกที่มืดมนของใต้ดินและจุดสูงสุดของท้องฟ้าอันศักดิ์สิทธิ์สวยงาม ด้วยความคิดแนวโรแมนติกที่เปรียบเสมือนสวรรค์ และความเจ็บปวดที่เปรียบเสมือนนรก

.

Favorite Tracks : God Is a Circle, Lovely Sewer, Meteora Blue, Heaven Surrounds Us Like a Hood, Ebony Eye

Score : (8/10)

#เข้าไปในบั้ม #เข้าไปในบั้ม2023