เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Fictober 2017sasi_tsukidayo
FICTOBER ฉวนจื๋อ DAYS 11 : RUN
  •             สองสามเดือนก่อนหมดสัญญากับสโมสรเว่ยเฉาเฉียวอี้ฟานฝันถึงการเดินทางบ่อยมาก บางครั้งเขาก็ฝันว่ากำลังท่องไปตามแม็ปต่างๆของในเกมกลอรี่ บางครั้งก็ฝันว่าตนกำลังวิ่งหนีบ่อยครั้งที่ฝันว่าตนพยายามไปที่ใดสักแห่งอย่างไร้จุดหมาย

     ความฝันหล่านั้นทำให้เด็กหนุ่มเหนื่อยจนแยกไม่ออกว่าเพราะการพักผ่อนไม่เพียงพอหรือการเดินทางในฝันทว่าทุกครั้งที่จิตใจของตนล่องลอยไปไกลเกินจนแยกความจริงและความฝันไม่ออกเขามักได้ยินเสียงดุๆ ที่คุ้นเคยของใครคนหนึ่งร้องเรียกตนเสมอ

    เฉียวอี้ฟานก็ไม่รู้ว่าการได้ยินเสียงคนคนนั้นต่างนาฬิกาปลุกทุกเช้าดีหรือไม่ดีเขารู้เพียงว่าตนไม่สบายใจเอาเสียเลย...

     “การตอบสนองช้าไปมากนะ” เสียงดุๆเช่นเดียวกับในฝันดังขึ้นจากด้านหลัง เรียกให้คนถูกดุสะดุ้งสุดตัวแต่ไม่ได้หันกลับไป เพราะชินกับการที่อีกฝ่ายมายืนดูเขาเงียบๆ แบบนี้เสียแล้ว ทั้งยังติดพันแบบฝึกหัดทักษะการตอบสนองและการตัดสินใจในโปรแกรมฝึกซ้อมของทีมเว่ยเฉาอยู่ จนกระทั่งการฝึกซ้อมในส่วนดังกล่าวก็จบลง

     คนชายขอบมองผลคะแนนอันต่ำต้อยของตนเมื่อหันไปมองกัปตันทีมของตนทว่ากลับถูกดวงตาอันไม่สมดุลกันคู่นั้นจ้องลึกเข้ามาในดวงตาของเขาผ่านดวงตาคล้ายพยายามค้นหาร่องรอยบางอย่าง

    เฉียวอี้ฟานเกร็งไปทั้งร่างหัวใจเต้นไม่เป็นส่ำ เขาควรกลัวใช่ไหมนะ...ทำไมเขาจึงอยากให้กัปตันดุเขาอีกอยากให้ดวงตาคู่นี้มองมาที่เขานานๆ กันหนอ

     “การพักผ่อนไม่เพียงพอทำให้สมองสั่งการช้าส่งผลต่อความรวดเร็วและความแม่นยำในการตัดสินใจ”

     หวังเจี๋ยซีกล่าวเสียงเข้ม แม้ไม่มีร่องรอยของการกล่าวโทษ แต่คำตักเตือนของเขาก็มากพอให้คนอายุน้อยกว่าจ๋อยสนิทหัวใจที่กำลังพองฟูเหี่ยวฟีบลงจนรู้สึกได้ เขาไม่มีคำแก้ตัว แต่ก็อดถามไม่ได้

    “กัปตันทราบได้อย่างไรครับ”

    “ซ้อมเสร็จก็รีบไปพักผ่อนแล้วกัน” กัปตันทีมเว่ยเฉาเปลี่ยนประเด็นก่อนกลับไปประจำที่ของตน โดยไม่ได้สนใจเขาอีกทิ้งให้คนชายขอบฝึกซ้อมไอดีมือสังหารของตนต่อไป     

    กัปตันตักเตือนเขาถึงเพียงนี้เด็กหนุ่มชักกังวลว่าปัญหาที่เขาปล่อยผ่านมาครึ่งเดือนอาจหนักหนากว่าที่คิดเสียแล้ว

     เขาอยากปรึกษาใครสักคนแต่ก็ไม่อยากปรึกษารุ่นพี่ในทีมเว่ยเฉาสักเท่าไหร่อีกไม่นานเขาก็จะหมดสัญญาและต้องจากไป คนเหล่านั้นคงไม่แนะนำให้เปล่าประโยชน์

    คนแรกที่เขานึกถึงคือมหาเทพเยี่ยซิวแต่ท่านผู้นั้นติดต่อด้วยยากอย่างไรก็อย่างนั้น จึงตัดสินใจส่ง QQ ไปปรึกษาซูมู่เฉิงที่เขาพอคุ้นเคยด้วยแทน

    เริ่มด้วยปัญหาการพักผ่อนและไร้แรงใจที่จะทำอะไรแต่หลังพูดคุยกันอยู่พักหนึ่ง เฉียวอี้ฟานก็เล่าเรื่องความฝันจนได้

     ‘เขาว่ากันว่า คนที่ฝันแบบนี้คือคนที่อยากหนีจากอะไรสักอย่างนะ’ ซูมู่เฉิงเด็กหนุ่มอย่างรวดเร็วสมกับที่เป็นนักกีฬาอีสปอร์ต

     ‘เธออยากหนีจากอะไรหรือ...ทีมเว่ยเฉาใช่ไหม’

    เฉียวอี้ฟานยอมรับอย่างไม่อายเขาคิดว่าตนปรึกษาถูกคนแล้ว เพราะซูมู่เฉิงก็เล่าว่าตนเคยมีปัญหาเช่นนี้เหมือนกันต่างคนต่างนับวันรอให้ตนหมดสัญญา เพื่อให้ได้เริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ เสียทีแต่จนแล้วจนรอด เขาก็ไม่กล้าถามว่าการได้ยินเสียงกัปตันร้องเรียกเขามีความหมายแฝงอะไรหรือเปล่าหนอ

     ‘แม้เธอจะเหลือเวลาในสโมสรเว่ยเฉาไม่มากแล้วแต่ฉันรู้ว่าการเฝ้ารอมันทรมานมากนะ เปลี่ยนจากความอยากหนีเป็นความอยากไขว่คว้าอะไรสักอย่างดูไหม’

    ‘ไขว่คว้าอะไรสักอย่างเหรอครับ?’ คนอายุน้อยกว่าส่งอีโมติคอนสงสัยตามไปด้วย

     ‘คิดว่าน่าจะฝันเหนื่อยเหมือนกันแต่คงรู้สึกดีกว่าการวิ่งหนีหรือการเดินทางแบบไร้จุดหมายนั่นละ’

     คำแนะนำติดตลกของรุ่นพี่ทำให้เขาอดยิ้มให้หน้าจอไม่ได้เขารู้ว่าอีกฝ่ายแนะนำแบบนี้เพราะอยากให้เขาอารมณ์ดีขึ้นเท่านั้นไม่ได้มีความหมายพิเศษอะไร แต่หลังจากนั้นเขาหยุดคิดเรื่องนี้ไม่ได้เลย

    ไขว่คว้าอะไรสักอย่างหรือ...เขาอยากไขว่คว้าอะไรกันนะ

     

    คืนนั้นเฉียวอี้ฟานก็ฝันอีกจนได้ครั้งนี้เขาฝันว่าตนกำลังวิ่งอยู่ในความมืด วิ่งไปยังแสงสว่างเพียงจุดเดียวในคลองสายตาครั้งนี้จิตใต้สำนึกของเขาปลุกปลอบตนเองว่า เขาไม่ได้วิ่งหนีอะไรแต่กำลังวิ่งตามไปหาบางสิ่งในแสงนั้น

    ใกล้ขึ้นเรื่อยๆทีละนิดๆ แล้วเขาก็เห็น...

    ใครคนหนึ่งยืนอยู่ในแสงนั้น สวมเสื้อคลุมสีเขียวของทีมเว่ยเฉาที่คุ้นเคย เขาเคยรู้สึกว่าแผ่นหลังของอีกฝ่ายช่างแข็งแกร่งและดูพึ่งพาได้แต่ ณ ขณะนั้น เขากลับรู้สึกว่า คนคนนี้โดดเดี่ยวเหลือเกิน เด็กหนุ่มเอื้อมมือออไปหมายคว้าอีกฝ่ายเอาไว้ปลายนิ้วสัมผัสชายเสื้อคลุมและ...

    เขาสะดุ้งตื่น

    กัปตันก็หายไป

    หรือมีอุปสรรคอะไรมากั้นขวางนานัปการ

    คืนแล้วคืนเล่าซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทั้งในโลกความจริงและความฝัน เฉียวอี้ฟานไม่เคยได้แตะต้องอีกฝ่ายดังที่เขาอยากจะทำได้เลย…

     

                กว่าเฉียวอี้ฟานจะรู้ว่าตนหลงรักอดีตกัปตันของตนก็หลังออกจากสโมสรเว่ยเฉามาแล้วข้อเสียของการตระหนักรู้เรื่องนี้คือความเจ็บปวดโหยหาที่เขาสัมผัสมันอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน แต่ข้อดีของเรื่องนี้คือ ทำให้เขามีจุดหมายในการวิ่ง

                     เขาพร้อมจะวิ่งตามอีกฝ่ายไปเรื่อยๆ จนกว่าเขาจะเป็นผู้ชายที่ดีพอ จนกว่าจะแข็งแกร่งขึ้นจนทัดเทียมกับคนในดวงใจของเขา

    เมื่อวันนั้นมาถึงเขาจะวิ่งไปกอดอีกฝ่ายจากด้านหลัง ปกป้องไว้ในอ้อมกอดของตนเพียงคนเดียว 

    ...ตลอดไป...

    -----------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    เมาๆ มึนๆ กันต่อไป หนีงานมาเขียนเล่น งานเลยหยาบแบบอยากร้องไห้แล้ว แถมรู้ตัวอีกทีสามหน้าเข้าไปนั่น แต่งานคืบแค่สามบรรทัด ตายๆๆ //ตายแบบสุขใจ

    ครั้งนี้หลุดธีมไม่พอ หลุดคาร์ด้วย แง้้

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in