หลังจากจองทำโอทีไปในวัน day off ของตัวเอง เรารีบกลับจากวอลมาร์ทเพื่อเปลี่ยนชุดเตรียมไปล้างจานคู่กับโรส สาวฟิลิปปินส์ที่ทำหน้าที่ Server Assistant เนื่องจากเป็นการทำโอที เราจึงใส่แค่เสื้อยืด กางเกงขายาว และรองเท้านันยางสีดำ ไม่ได้ใส่หมวกหรือสวมยูนิฟอร์มแต่อย่างใด
โรสก็เช่นกัน
โอทีล้างจานกะเย็นวันนี้ เราประจำตำแหน่งโจ ส่วนโรสประจำตำแหน่งเรา แม้โรสจะมาก่อนเราไม่กี่สัปดาห์ โรสกลับล้างจานได้คล่องแคล่วกว่าเรามาก ทุกอย่างถูกทำด้วยความเร็วแสงและงานเนี้ยบ ส่วนเรานั้นต้องแบกจานกองโตไปเก็บ ใจจริงอยากบ่นมากเพราะเดินหลายรอบและต้องคอยจัดจานให้เรียงกันอย่างเป็นระเบียบ ถ้าสักแต่วางให้เสร็จ ๆ ไป บางทีจานอาจจะตกแตกได้ แต่ถ้ามัวเรียงจานอย่างพิถีพิถัน ถาดจานก็อาจจะล้นเครื่องล้างจานจนโรสไม่สามารถดันถาดเข้ามาได้อีก
" Hot, Hot, Hot "
" Knife! Sharp! Behind you! Sharp! Knife! "
สองเสียงนี้คือสิ่งที่เราได้ยินบ่อย ๆ ตลอดการทำงาน เวลาใครจะเอาของมาวางไว้ให้พวกเราล้างต้องพูดเตือนกันเสมอ เพราะถ้าคนล้างจานไม่รู้ว่ามีหม้อร้อน ๆ วางอยู่ เวลาลวกทีนึง ถุงมือยางสามารถละลายติดมือได้เลย และทุกครั้งที่มีคนถือมีดเดินในครัว จะต้องเตือนกันว่า ชั้นถือของมีคมอยู่นะ! เป็นเหมือน ground rule ที่ทุกคนรู้กัน
พวกเราล้างจานกันแบบไม่มีอุปสรรคอะไร เป็นอีกวันที่เรารู้สึกว่าใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์สุด ๆ โรสยังแชร์ให้ฟังด้วยว่าโรสชอบลงโอทีไว้ นอกจากงานครัวแล้ว บ๊อบยังมีงานทำความสะอาดหอพักพนักงานให้ทำด้วยเหมือนกัน ถ้าสนใจก็ไปลงชื่อไว้ได้เผื่ออยากหาเงินเพิ่ม งานรวม ๆ คือทำความสะอาดห้องน้ำ เติมทิชชู่ ถูพื้นอาคาร ฯลฯ
ราว 1 ชั่วโมงก่อนเลิกงาน อดัน หนุ่มอเมริกันประจำสเตชั่นผัด (sauté) เดินมาถามเราและโรสว่าหิวไหม เอาอาหารเย็นหรือเปล่า เดี๋ยวอดันทำให้ แน่ล่ะ! กว่าจะเลิกงานก็สี่ทุ่มแล้ว มันต้องหามื้อดึกกินหน่อยไหมล่ะ พวกเราตอบตกลงอย่างไม่ลังเล
ไม่เกิน 15 นาที กล่องอาหารสองกล่องถูกนำมาวางไว้เงียบ ๆ ตรงเชลฟ์วางของหลังเรา เราแอบเดินไปเปิดกล่องดูว่าคืนนี้จะได้กินอะไร ข้างในมีเบอร์เกอร์วางอยู่ 1 ชิ้น พร้อมซอสสีม่วงและเฟรนช์ฟรายเป็นเครื่องเคียง
สำหรับการทำงานกะเย็นนั้น หลังจากร้านอาหารปิดแล้วจะค่อนข้างเป็นระบบ โดยเราสามารถเดาได้เลยว่าขั้นตอนจะเป็นอย่างไรบ้าง โดย 1 ชั่วโมงหลังร้านอาหารปิดแล้ว จาน ชาม ช้อน ต่าง ๆ จะถูกยกเข้ามาล้างโดย Server Assistant ส่วน 30 นาทีสุดท้ายของการปิดครัวคือฝั่ง sauté เริ่มเอากระทะมาให้พวกเราล้าง ตามด้วยฝั่ง line cook ที่เอาคอนเทนเนอร์ซอส มีด และตะหลิวมาให้ จากนั้นจะเป็นฝั่งครัวเย็นที่เอาที่ตักไอศกรีม และ cutting board ยักษ์มาเข้าเครื่อง ซึ่งนับว่าเป็นการทำงานที่สนุกมากเพราะทุกคนจะเข้ามาช่วยกัน เราหันไปเจอเด็กผู้ชายรุ่นราวคราวเดียวกับเราที่มาจากเอกวาดอร์กำลังถูพื้นอยู่ จำได้คร่าว ๆ ว่าชื่อ บิลลี่ อะไรสักอย่าง
เอ... ตอนกลางวันก็ทำงานที่ EDR ตอนกลางคืนก็ทำงานที่นี่ หรือว่าบิลลี่มีฝาแฝด ใครมันจะทำงานทั้งวันทั้งคืนแบบนี้
" Hi! Billy! "
" Huh? "
บิลลี่ตอบเราแบบประหลาดใจ เหลือบไปเห็นป้ายชื่อ อ้าว! เค้าชื่อวิลลี่!
" Oh! Sorry! I thought your name is Billy. I'm sorry, do you have a twin cause I saw you working at EDR in this afternoon? "
" No! No! It's me. hahahahaha "
วิลลี่ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาหลังจากได้ยินคำถามเรา ได้ความว่าวิลลี่ช่วยงานทั้งสองฝั่งเพราะกำลังรอเด็ก WAT ล็อตสุดท้ายที่จะมาอาทิตย์หน้า ระหว่างนี้วิลลี่เลยต้องช่วยงานสองกะในบางวัน
" Nice to meet you Leedee! "
วิลลี่วางไม้ถูพื้นแล้ววิ่งออกไป clock out
หลังจากปิดเครื่องล้างจานและ clock out เรียบร้อย เราและโรสพากันมานั่งกินเบอร์เกอร์ที่ล้อบบี้โรงแรม ตอนนั้นเป็นเวลา 22.00 น. ช่วงต้นเดือนมิถุนายน แขกที่มาพักโรงแรมยังไม่เยอะมาก พวกเราเด็ก J1 เลยยังพอนั่งชุมนุมรับไออุ่นจากเตาผิงได้บ้าง
โอ๊ย นี่มันเบอร์เกอร์อะไรวะเนี่ย โคตรเหม็น จิ้มซอสแล้วก็ยังเหม็นสาบ อดันทำอะไรให้พวกเรากินวะ หลังจากกัดไปคำแรก เราและโรสหันมาสบตาแบบรู้กัน
เบอร์เกอร์เนื้อกลิ่นสาบขึ้นจมูกทำปฏิกิริยากับประสาทสัมผัสเราทันทีที่กัดเข้าไปคำแรก ซอสสีม่วงรสชาติหวานอมเปรี้ยวก็ยังไม่ช่วยดับกลิ่นนี้ แถมยังมีรสปะแล่ม ๆ อีก
ส่วนอดันกำลังเดินยิ้มร่าออกมาจากครัว ไม่ได้แล้ว ต้องเดินไปดัก
" Adan! What is this? "
" Oh! It's Elk Burger with Huckleberry sauce. Do you like it? "
โอ้โห ของโลคอลซะด้วย เบอร์เกอร์เนื้อกวางแอลก์กับซอสเบอร์รีท้องถิ่น จะบอกว่าไม่อร่อยก็ไม่ใช่แล้วล่ะ สงสัยเพราะพวกเราไม่เคยกินกันเองแหละเลยไม่ชิน
" Well, thank you. It's good. The meat is soft but the smell is a bit strong. "
" Yes! Dip it with the sauce! "
โอเค ไปนอนเถอะอดัน
เนื้อแอลก์เหม็นสาบมากสำหรับเรา มันเป็นกลิ่นเนื้อที่เราบอกไม่ถูก แต่ถามว่ากินได้ไหม ก็ยังพอกินได้เพราะเนื้อมีความนุ่มและแปลกใหม่สำหรับเรา คล้ายเนื้อวัวแต่เหม็นกว่า ถือว่าเป็นอีกประสบการณ์ที่ได้ลองอาหารท้องถิ่นของรัฐมอนทาน่า
นับเป็นอีกวันที่จบลงด้วยดี ได้กินอาหารแปลกใหม่ ได้รู้จักวิลลี่ และได้ทำโอทีครั้งแรก ยังมีอีกหลายอย่างให้ทำตลอด 2 เดือนนี้ เราเชื่อลึก ๆ ว่าตัวเองเลือกไม่ผิดที่มาที่นี่ และปีนี้จะเป็นหนึ่งในปีที่น่าจดจำที่สุดของเรา
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in