Title : Two-faced
Pairing: Min Yoongi x Jeon Jungkook
Rate : PG-13
Note: โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านค่ะ
_____________________________________________________________________________________________________
"นี่จ้ะ ค่าสอนของวันนี้ อาหารในตู้เย็นอุ่นทานได้เลยนะจ้ะ น้าเกรงใจยุนกิมากเลย แต่มีตติ้งบ่ายนี้เลื่อนไม่ได้จริงๆ น้าจะกลับช้าซักหน่อย ยังไงฝากยุนกิอยู่เป็นเพื่อนน้องหน่อยนะจ้ะ"
"ครับ..ผมจะดูแลจองกุกอย่างดีเลยครับ"
มิน ยุนกิ รับซองจากหญิงสาววัยกลางคนด้วยท่าทีนอบน้อมและรอยยิ้มการค้า ในฐานะที่ทำอาชีพติวเตอร์มาหลายปี ชายหนุ่มรู้ดีว่าปฏิบัติตัวแบบไหน ผู้ปกครองจึงจะพึงพอใจ เขายืนส่งคุณนายจอนจนกระทั่งหล่อนถอยรถออกจากโรงจอด เคลื่อนออกพ้นกำแพงรั้วสีขาวและหายปะปนไปกับรถคันอื่นๆ บนถนนใหญ่
ร่างสูงงับประตูปิดและลงกลอนเพื่อความปลอดภัย เขารู้จักทุกซอกทุกมุมของบ้านตระกูลจอนดีราวกับเป็นบ้านตัวเอง เขาต้องมาที่นี่อย่างน้อยก็อาทิตย์ละครั้ง ทั้งหมดก็เพื่อติวหนังสือให้กับจอน จองกุก
ขายาวก้าวช้าๆ ขึ้นบันไดสู่ชั้นสองของตัวบ้าน ชายหนุ่มอารมณ์ดีจนผิวปากออกมาเป็นเพลง ประตูสีขาวที่มีป้ายรูปแครอทแขวนอยู่คือจุดหมาย เขาจับลูกบิดสีเงินแล้วพบว่ามันล็อคจากด้านใน ยุนกิพ่รลมหายใจออกมา มือขาวเคาะประตูสองสามที
"จองกุกอ่า..เปิดให้พี่เข้าไปหน่อยสิ"
ความเงียบคือคำตอบ ยุนกิยักไหล่ พอเข้าใจได้ว่าอีกฝ่ายมีเหตุผลที่จะทำแบบนี้ แหงล่ะ ครั้งก่อนโดนทำเข้าไปขนาดนั้น จะเสียขวัญก็ไม่แปลก ยุนกิยืนเท้าเอว กระดิกเท้าใช้ความคิด นิ้วมือลูบป้ายแครอทช้าๆ
"อย่าทำแบบนี้เลย จองกุกอ่า เปิดประตูให้พี่เถอะ"
ความเงียบยังคงเป็นคำตอบเดิม ยุนกิเอาลิ้นดุนแก้ม เขาไม่อยากจะเสียเวลาไปกับการเล่นเกมแมวจับหนูสักเท่าไหร่ เพราะถ้ายิ่งจับยาก เขาก็จะยิ่งหงุดหงิด แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าจะพลั้งมือรุนแรงกับเจ้าหนูนั่นรึเปล่า ทางที่ดีเจ้าหนูก็ควรจะทำตัวดีๆ มาให้จับง่ายๆ เพราะไม่ว่ายังไงมันก็หนีไม่รอดอยู่ดี
"ไสหัวออกไปนะไอ้คนสารเลว!!" เสียงตะโกนจากอีกฝั่งประตูบ่งบอกว่าอีกฝ่ายก็คงไม่สบอารมณ์เช่นกัน
"แล้วเราจะเสียใจที่ทำแบบนี้กับพี่"
ยุนกิคำรามในลำคอ ล้วงกระเป๋าหยิบกุญแจสำรองออกมา นึกถึงละครบทเล็กๆ ที่เขาแต่งเติมขึ้นมาต่อหน้าผู้เป็นเจ้าของบ้าน
'ครั้งที่แล้วผมออกมาเข้าห้องน้ำแป๊บเดียว จองกุกเค้าก็ล็อกห้องเลยครับ เคาะยังไงก็ไม่ยอมเปิด ผมจนปัญญาที่จะเข้าไปจริงๆ ครับคุณน้า'
'ทำไมถึงเป็นเด็กดื้อแบบนี้นะ น้าต้องขอโทษยุนกิด้วยนะจ้ะ'
'ไม่เป็นไรครับ แต่ถ้าคุณน้าให้กุญแจสำรองห้องของจองกุกไว้กับผม...."
ดวงตากลมโตนั่งจ้องประตูสีขาวในความเงียบ ฝ่ามือชื้นเหงื่อกำผ้าปูที่นอนแน่น ภาวนาให้คนที่อยู่อีกฝั่งถอดใจ จะลงไปรอที่ห้องนั่งเล่นข้างล่าง หรือจะไสหัวกลับไปเลยยิ่งดี อะไรก็ได้ที่ทำให้เขาไม่ต้องพบเจอหมอนั่นอีก จองกุกนั่งอยู่ในความเงียบหลายนาที จนคิดว่าสวรรค์คงเห็นใจเขา แต่ดูเหมือนเขาจะเข้าใจผิด
เสียงกุกกักที่ตามมาด้วยเสียงกริ๊กทำเอาหัวใจจองกุกหล่นวูบ เด็กหนุ่มวัยสิบห้าพุ่งพรวดไปที่ประตูแต่ก็ยังไม่ทันอีกฝ่ายที่ก้าวเข้ามาในห้องอย่างรวดเร็ว เท้าเล็กเปลี่ยนเป็นถอยกรูดเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายหันไปถือวิสาสะล็อคกลอนห้องของเขาเรียบร้อย
"อ--ออกไป" น้ำเสียงติดแหลมสั่นสะท้าน
ยุนกิยิ้มพรายเมื่อเห็นใบหน้าตื่นตระหนกของจองกุก ดีแล้วที่อีกฝ่ายรู้จักกลัว แต่ดูเหมือนว่าเขายังทำให้อีกฝ่ายกลัวไม่พอ ถึงได้กล้าแสดงกิริยาดื้อดึงกับเขาแบบนี้
"กลัวอะไรจองกุก พี่จะมาติวหนังสือให้นี่ไง" ยุนกิกล่าวพลางย่างสามขุมเข้าหา ไล่ต้อนเด็กน้อยไปทางเตียงหลังใหญ่
"ไอ้ชั่ว!! บอกให้ออกไป ไม่งั้นผมจะแจ้งตำรวจ"
จองกุกคว้าของใกล้มือปาไปทางยุนกิ เขาโดนหมอนใบโตเหวี่ยงใส่เต็มๆ ยุนกิเอาลิ้นด้นกระพุ้งแก้มอีกครั้ง หงุดหงิดนิดหน่อย แต่ไม่เป็นไร ยังไงเขาก็เคยโดนเล็บของจองกุกข่วนมาตั้งไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้ว หมอนแค่นี้ไม่คณามือเขาหรอก
"หึ..จะไปแจ้งตำรวจหรอ แค่บอกแม่ก็ยังไม่กล้าเลยนี่นะ"
จองกุกกัดปากจนรู้สึกถึงกลิ่นเลือด กระพริบตาถี่ไล่น้ำตาและความกลัวที่เกาะกุมหัวใจ ถ้าจะหนีก็มีทางเดียวคือประตู ดวงตาเหลือบมองทางออกสุดท้ายอย่างมุ่งมั่น แต่ไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมของอีกคนที่อ่านออกตั้งแต่จองกุกปรายตาไปทางประตูแล้ว ทันทีที่เท้าเล็กก้าวออก ยุนกิก็พุ่งไปรวบร่างผอมบางเอาไว้ ไม่ทันเฉียดประตูแม้แต่น้อย
"ไม่นะ! ปล่อยผม ไม่!!!"
ทั้งสองล้มลงบนเตียง จองกุกทั้งดิ้นทั้งผลักไสแต่ก็ไม่สามารถเอาชนะกำแพงมนุษย์ที่ชื่อยุนกิได้สักนิด
ยุนกิรวบข้อมือเล็กไว้ด้วยมือเดียว ดูเหมือนเขาจะเหนื่อยมากกว่าเดิมนิดหน่อย สงสัยจองกุกเริ่มเป็นหนุ่มแล้ว มีแรงต่อต้านเขามากขึ้นแล้วสินะ
ความกลัวกลั่นตัวออกมาเป็นหยาดน้ำตา เด็กหนุ่มน้ำตาร่วงเผาะอย่างน่าสงสาร ทั้งจมูกทั้งแก้มแดงไปหมด ยิ่งเห็นแบบนั้นแล้วยุนกิยิ่งพอใจ อีกมือสอดเข้าไปใต้เสื้อตัวใหญ่ ร่างข้างใต้สั่นสะท้านรับปลายนิ้ว ผิวเนื้ออุ่นนุ่มที่ไม่ว่าจะสำรวจอย่างไรก็ดูเหมือนไม่พบจุดสิ้นสุด จองกุกเบี่ยงหน้าหนี ดูสับสนเสียจนยุนกิอยากจะจูบปลอบ แต่ทำไม่ได้หรอก เจ้าเด็กนี่เคยกัดจนปากเขาจนเป็นแผลอยู่เป็นอาทิตย์ แสบไหมล่ะ
"พ--พี่ยุนกิ อย่าทำผมเลย..."
พอรู้ตัวว่าสู้ไม่ไหว จองกุกก็จะเปลี่ยนมาเป็นร้องขอความเห็นใจแทน แล้วมันก็ได้ผลกับยุนกิทุกที แต่ชายหนุ่มไม่อยากให้เสียการปกครอง เด็กน้อยดื้อด้านขนาดนี้ จะให้ใจดียอมปล่อยไปได้อย่างไร โดยเฉพาะเด็กแสบอย่างจองกุกแล้วด้วย..
"คราวนี้พี่จะทำเบาๆ โอเคมั้ย"
"ไม่! ไม่เอา!! พี่ยุนกิ ห--ให้ผมใช้มือหรือใช้ปากช่วยพี่นะ..นะครับ"
จองกุกจะรู้ตัวไหมนะว่าตัวเองพูดออกมาด้วยใบหน้าแบบไหน ยุนกิยิ้มกว้างจนคนมองหนาวยะเยือก รอยยิ้มของยุนกิไม่ใช่เรื่องดีเลยสักครั้ง
"นี่เราคิดว่าพี่โง่หรือไงนะ คนที่กัดปากพี่เป็นแผลยังกล้าขอใช้ปากกับพี่อีกหรอ หืม? จองกุก"
เสียงกระซิบต่ำพร่าข้างใบหูยิ่งทำให้น้ำตาทะลักทลาย จองกุกหลับตาแน่น กลั้นเสียงในลำคอเมื่อปลายนิ้วแตะลงบนยอดอก
"ยอมเป็นเด็กดี แล้วจะได้ไม่เจ็บตัวไง"
ยุนกินึกขอบคุณตัวเองที่เมื่อเช้าผูกเนคไทมา นอกจากมีหน้าที่สร้างความน่าเชื่อถือให้ตัวเองแล้ว ดูเหมือนจะเป็นเชือกชั้นดีเสียด้วยสิ
จองกุกสะอื้นลึกเมื่อเห็นว่ายุนกิมัดเขาด้วยเนคไท มือใหญ่เลิกเสื้อจนผิวเนื้อขาวปรากฏสู่สายตา รอยจูบบนอกน้องเปลี่ยนเป็นสีจาง ยุนกิก้มลงไปชิมผิวเนื้อบริเวณนั้น จองกุกสั่นไปทั้งตัวจนยุนกิอยากจะหยอกล้อว่าทำเหมือนเป็นครั้งแรกอย่างนั้นแหละ แต่ถ้าทำแบบนั้นจองกุกต้องร้องไห้โฮแน่ๆ และเขาก็ไม่อยากเห็นน้ำตาน้องอีกแล้ว ชายหนุ่มกดจูบที่แก้มนิ่มพร้อมกับรูดรั้งทั้งกางเกงและชั้นในออกมา
"ครางออกมาดังๆ ล่ะ พี่ชอบ"
จบ.
TALK: แอร๊!! ก็ช่วงนี้เจ้ากุกน่ารีกน่าบีบอ้ะ เราไม่ได้เจตนาจะทำน้องเลยนะคะ!!! (/เลิ่กลั่ก) แต่มโนว่าตัวเองเป็นพี่ยุงเกะเต็มที่ ☺☺ ไม่ได้คอมเม้นต์ กดไลค์ให้รู้ว่าชอบก็ยังดีนะคะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in