"ยินดีด้วยนะ"
ผมบอกเธอในตอนลดกล้องถ่ายภาพลง แอบตกใจอยู่นิดหน่อย ทั้งๆ ที่อยู่ในโลกของวิญญาณแท้ๆ แต่กล้องกลับบันทึกภาพตรงหน้าเอาไว้ได้ทุกอิริยาบถ หรืออาจจะเป็นเพราะมันเป็นกล้องของอุราฮาร่า คิสึเกะกันนะ เลยแตกต่างจากกล้องทั่วๆ ไป?
"ขอบคุณ"
เธอตอบกลับด้วยประโยคแสนสั้น วิธีการพูดของเธอยังห้วนเหมือนเคยแต่ทว่าน้ำเสียงกลับอ่อนหวาน
"ข้าดีใจที่เจ้ามาได้นะ ขอโทษด้วยที่ไม่ได้ไปบอกด้วยตัวเอง"
"ไม่เป็นไร จะเป็นเธอหรือเร็นจิก็ไม่ต่างกันร้อก"
ผมยักไหล่บอกปัดเหมือนว่ามันไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญอะไร ยังไงซะต่อให้ไม่ได้มีใครมาเชิญผมก็ต้องมาร่วมงานแต่งของเพื่อนสนิทให้ได้อยู่แล้ว
"แค่เสียดายที่อดเห็นปฏิกิริยาจากเจ้าตรงๆ น่ะ คนอื่นรู้ปุ๊ปก็ตกใจชาพุ่งออกปากปั๊ปกันแทบทุกคนเลย"
เธอหัวเราะชอบใจเหมือนว่าในหัวกำลังนึกย้อนกลับไปถึงฉากนั้นอยู่ ผมไม่ได้เห็นเธอหัวเราะแบบนี้มานานเท่าไหร่แล้วนะ? หลังจากเรื่องวุ่นวายจบลง เราก็ไม่ได้พบกันบ่อยนัก
"โอ้ย! ระดับฉันไม่ตกใจกับเรื่องแบบนี้หรอก ไอ้เหตุการณ์ที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ ทั้งฮอลโลว์ ทั้งควินซี่ ทั้งเรื่องพ่อเรื่องแม่ ยังชวนให้ตกใจกว่าไม่รู้ตั้งเท่าไหร่"
"นั่นสินะ เจ้าเลยต้องบอกลาชีวิตอันสงบสุขของเด็กมัธยมปลายไปเลย"
"ก็ใช่สิ เป็นเพราะใครกันล่ะ?"
"อ๋อ! นี่จะโทษว่าเป็นความผิดข้าว่างั้น ใช่สิข้ามันไม่ดีเอง ถ้ารู้ว่ายอมสละชีวิตเพื่อให้เจ้ามาปากดีใส่ข้าในวันมงคลอย่างนี้ รู้งี้ปล่อยให้ตายไปซะก็ดี!"
"ยังไม่ได้ว่าอะไรหล่อนสักคำเลยว้อย!"
จู่ๆ เธอก็หัวเราะออกมาอีกครั้ง ผมตบฝ่ามือเข้าหน้าผากตัวเอง อา... พวกเราเถียงกันเหมือนเคย ผมคิดว่าต่อจากนี้อีกสิบปีพวกเราก็คงยังไม่เลิกเถียงกันอยู่ดี
"อีกอย่างเร็นจิน่ะดูให้ตายก็รู้ว่ามันชอบเธอมาตั้งนานแล้ว ไม่ขอแต่งงานสิแปลกกว่า"
ทันทีที่ผมพูดจบทุกอย่างรอบๆ ตัวพวกเราก็เงียบลงไปถนัดตา เสียงจอแจของผู้คนในงานพลันหายไปชั่วขณะหนึ่ง เธอดูกระอักกระอ่วนเล็กน้อยนั่นทำให้ผมนึกกังวลอยู่ในใจ ไม่รู้ว่าตัวเองพูดอะไรผิดไปหรือเปล่าพยายามที่จะเริ่มต้นบทสนทนาใหม่เพื่อแก้เก้อ แต่ปากผมกลับขยับไม่ได้ซะอย่างนั้น
"อิจิโกะ ข้า..."
เธอเรียกชื่อผมด้วยน้ำเสียงที่เบามาก เบาซะจนผมต้องพยายามเงี่ยหูฟัง เธอดูเหมือนจะเรียบเรียงคำพูดไม่ถูก ระหว่างเราไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ผมว่าผมเข้าใจได้ ตอนระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาพวกเรามีหลายอย่างร่วมกัน จะให้พูดหรืออธิบายอะไรก็คงไม่ง่ายขนาดนั้น
"ข้า..."
แต่ว่าวันนี้เป็นวันแต่งงานของเธอ เพราะงั้นเธอไม่ควรต้องมีสีหน้ากังวลใจ
"เฮ้!"
สำหรับผมเธอเป็นผู้มีพระคุณ เธอผู้คอยประคับประคองผมตอนที่อยู่ในจุดโคลงเคลง เธอผู้ร่วมเป็นร่วมตายในทุกๆ สนามรบ เธอที่ยืนอยู่ตรงหน้าผมในชุดชิโรมุกุสีขาวสะอาดตาตัดกับเส้นผมสีดำขลับ
"ลูเคีย"
เธอผู้อยู่ในความทรงจำของผมมาตลอดสิบปี…
"ขอให้มีความสุขมากๆ นะ"
ไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่ทันทีที่ผมพูดจบ ผมรู้สึกได้ว่าระหว่างเราความอึดอัดจางห่างไป เสียงจอแจในงานดังขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมๆ กับรอยยิ้มของเธอ
"เจ้าก็ด้วย เจ้าบ้า"
ขออวยพรแด่เธอ ผู้อยู่ในความทรงจำของผมมาตลอดสิบปี… และจะคงอยู่ตลอดไป
--------------------------------------------------------------------------
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in