ไปเวียดนามครั้งนี้เราบินไฟท์ 7 โมงเช้า นั่นไงต้องไปเช็คอินตั้งแต่ตี 5 เช้าไม่กลัวจริงๆ เพราะไม่ว่าจะทริปครั้งไหนๆทริคง่ายๆของพวกเราคือ "ไปเช้า-กลับดึก" ซึ่งข้อดีของการไปเช้าคือ ถึงเร็ว มีเวลาเที่ยวเยอะขึ้น แต่เอาง่ายๆคือ ค่าตั๋วถูก
หลับๆ ตื่นๆ ก็มาถึงสนามบินตัน เซิน เญิ๊ต (Tansonnhot Intl) แล้ววววว จากนั้นก็เดินไปทำการตรวจคนเข้าเมืองนิดหน่อย อาจมีถามว่ามากี่วัน กี่คน ก็ตอบไปโล๊ดดดด 4วัน 8คน เด้อค่าาาเด้อออ................
จากนั้นเราก็ตามรีวิวที่ดูมาหมดจร้าาา...แลกเงิน(แลกบางส่วนนะคะ ไปแลกในเมืองเรทดีกว่า แต่แลกไว้จ่ายค่ารถค่ากินไปก่อน เพื่อความอยู่รอด) ซื้อซิม เดินไปหารถเมล์ที่สแตนด์บายรอเราอยู่หน้าสนามบิน โก โก โก
รถเมล์วิ่งเข้าเมืองอย่างต่อเนื่องไม่มีจอดนิ่ง เร็วบ้าง ช้าบ้างตามสภาพการจราจรบนถนน แต่รถไม่ติดเลย ผ่านตลอดพร้อมกับเสียงปี๊น ปี๊นน ปี๊นนน ดังอย่างต่อเนื่องอย่างกับเล่นเพลงออเครสตร้า จนทำให้เราคิดในใจว่าถ้ากูลงไปจะไม่โดนชนใช่มั้ย...ขออยู่บนรถเมล์ทั้งวันได้มั้ย กลัววเหลือเกิน นี่พูดจากใจ ระหว่างที่นั่งอยู่บนรถเมล์เราก็พยายามมองว่าถึงไหนแล้ว กลัวเลยป้ายมาก แต่ไม่ต้องเป็นห่วงเพราะคนขับรถจะบอกเองว่าถึงตลาดบินถั่น (Ben Thanh Market) แล้ว โล่ง...มั้ยไม่รู้ แต่หลงแน่นอนบอกเลยยยย
ลงจากรถเมล์ก็ต้องเดินข้ามถนนมาฝั่งตรงข้ามเดินไปย่านฟามงูเหลา (Pham Ngu Lao) เพื่อจะไปจองรถ ซื้อ one day trip (เนื่องจากไม่มีความสามารถพอในการที่จะขับรถเองที่เวียดนาม 55) แต่ส่วนใหญ่ไปไหนที่ต้องเที่ยวหลายที่ในวันเดียวเราก็จะซื้อ one day trip เพราะจะได้เที่ยวสะดวก ไม่หลงให้เสียเวลา และถือเป็นการเซฟตัวเอง เพราะถ้าขับรถเองแล้วเกิดอุบัติเหตุนี่ไม่อยากคิดเลย กลัวโดนหมดโควต้าในการเที่ยวกับเพื่อน ต่อๆๆ สังเกตุได้ง่ายๆว่ามาถูกฝั่งมั้ย คือเมื่อข้ามมาฝั่งนี้ก็จะมีร้านแมคโดนัล และสวนสาธารณะ เราก็เดินตรงไปเรื่อยๆๆ จำไม่ได้ว่าไกลมั้ย แต่เดินไปเดินมาก็รู้สึกว่าใกล้กันนะ
เดินหามาเรื่อยๆก็เจอPhuong trang และThe Sinh Tourist ซึ่งอยู่ใกล้ๆกัน ซึ่งตลอดทริปเราใช้บริการรถบัสไปเมืองต่างๆจากบริษัทนี้ทั้งหมด เพราะเมื่อเทียบราคาแล้วถูกสุดในตัวเลือกที่มีจย้าาา แต่อาจไม่ฟูลเซอร์วิสเหมือนบริษัทอื่นๆนะ ใครชอบความสะดวกสบายอาจใช้บริการของ Phuong trang และ Vietsea Tourist เพราะมีรถรับส่ง มีที่ฝากกระเป๋า ของThe Sinh Tourist ก็มีที่ฝากกระเป๋านะ(เพิ่งรู้วันกลับว่าฝากที่นี่ได้ ฮรืออ แบกให้หนักตั้งนาน) จัดการจองรถเรียบร้อย และซื้อ half day trip ที่มุยเน่ จากที่นี่หมดเลย ส่วนดาลัตเราใช้บริการของเวียตซี (ค่าใช้จ่ายแปะให้ในพาร์ทสุดท้ายนร๊าาา)
'ร้อนกว่าไทยแลนด์ ก็ดินแดนโฮจิมินห์นี่แหละ' เราตั้งชื่อนี้เพราะหลังจากที่จองตั๋วเสร็จ แล้วเดินหาที่พักไว้วางกระเป๋ากับอาบน้ำเพื่อขึ้นรถนอนไปดาลัตตอน 3 ทุ่ม หึ!! ซึ่งการเดินหาที่พักนั้นไม่ง่ายเลยเพราะแพงกันหมดทุกที่ เขาบอกเป็นช่วงปีใหม่ถ้าไม่ได้จองมาก็แพง นักท่องเที่ยวเยอะด้วย ประเด็นหลักก็คือเราไม่รู้ว่าตรงไหนดี ไม่ดี แต่อยากได้ใกล้บริษัทที่จองรถไรงี้ เอาเข้าจริงๆคือเดินหาเป็นชั่วโมง บวกกับกระเป๋าที่สะพายอยู่ ซึ่งตอนแรกไม่หนัก พอปะทะกับความร้อนที่นี่เข้าไปนั้นจากชิวๆทำเอาเซกันถ้วนหน้าเลยจร๊าาา....walk walk walk ยังคงหากันต่อไป จนได้ที่พักแต่ต้องเดินไปไกลเหมือนกัน เล่นเอาเกือบร้องห้ายยยยย พีคกว่าที่พักไกล คือแอร์ไม่เย็น หนีร้อนมาเจอร้อนกว่า จ๊ะ ทำดี!! ตัดภาพไป...ทุกคนอาบน้ำ ต้มน้ำใส่มาม่าคัพ(อาหารมื้อแรก F*uk) แถม!!! ร้อนเด้อ ปล.เราจำชื่อที่พักไม่ได้แล้ว แต่ไม่ได้บอกว่าไม่ดีนร๊าาา เราแค่บังเอิญได้ห้องที่แอร์ไม่เย็นแค่นั้นเอง...
...เราทนความร้อนมาสักพัก จนได้เวลาออกไปเดินเที่ยวในเมือง เหมือนได้หลุดออกจากนรกยังไงหยั่งงั้น ดีใจมากถึงมากที่สุด ซึ่งการเดินไปที่แลนด์มาร์คต่างๆนั้นเราก็อาศัยแผนที่ที่ได้จากโรงแรม เดินตามไปมั่วๆ โดยขั้นแรกก็เดินไปที่วงเวียนเราลงรถครั้งแรกนั่นแหละ จะบอกว่าเดินระวังๆรถกันด้วยนาจา 'เดินไม่ยาก แค่มั่นใจเดินไปเลยไม่ต้องหยุด' เค้าบอกกันมาแบบนี้ แต่เอาเข้าจริงมันก็ทำยากเหมือนกันนะตอนแรกๆ แต่เดินไปเรื่อยสกิลความกล้าก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน อ่ะะเดินไปเรื่อยเหนื่อยก็ต้องเดิน ไม่แน่ใจว่ามาถูกทางมั้ยก็ถามคนแถวนั้นไปเรื่อยๆ พูดอังกฤษได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่เขาก็พยามยามที่จะช่วยเราเหมือนกัน ระหว่างทางเราจะเจอคาเฟ่เยอะมากทั้งที่อยู่ตามริมทางเดิน เข้าตรอกเข้าซอย บนดาดฟ้า(ดูมาจากรีวิวอื่นมา ไม่ได้ไปเองเพราะไปไม่ถูก 55) แต่ยอมรับว่าคาเฟ่ที่นี่เยอะและดีจริงๆ น่านั่งทุกร้าน เหมาะกับคนแบบพวกเราเหลือเกิ๊นน...หันมองดูเงินที่แลกมาแล้วสับขาไปต่อ ไม่แวะ ไม่แวะ ไปหาแลนด์มาร์คก่อน จริงจังเบอร์ไหนกับแลนด์มาร์ค ระยะทางที่เดินไม่ก็ไม่ไกลนะ เดินได้เรื่อยๆ#หลงได้เรื่อยๆว่างั้น (จะบอกว่าเรากระจ๊อกก็ได้ ยอมรับ) เดินๆไปลุงๆป้าๆก็แวะมาทักทายกลัวเราร้อน "ซื้อแว่นกันแดดมั้ย มีหมวกด้วยนะ" กลัวเราหิว "ลองกินอันนี้มั้ย อร่อย บลาๆๆๆ" อยากขอบคุณสำหรับน้ำใจที่เป็นห่วงเรา ตัดภาพมาที่หน้าทุกคนที่แว่นพร้อม หมวกพร้อม เพิ่งกินมาม่ากันมา แต่อาจจะย่อยหมดตั้งแต่เดินออกจากโรงแรมก็เลยสอยกล้วยปิ้งแผ่นๆมารองท้องเบาๆ บอกตรงๆว่า 'อะโหร่ยยยมากเลย' เติมพลังไปพร้อมๆกับการใช้พลัง
ใกล้ถึงสิ่งที่ตามหาแล้ว ต่อไปเป็นช่วงเก็บแต้มแลนด์มาร์ค(แค่ไหนแค่นั้น) แต่ไม่ครบทุกที่หรอกนะ เราไปที่ที่ใกล้ๆกัน แค่ไหนแค่นั้นจริงๆไม่มีมาเก็บเพิ่มทีหลัง คุุ้มมั้ยถามใจดู!! ไปค่ะ...
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in