มีใครเคยได้รับคำทำนายว่า เป็นคนอาภัพรัก บ้างไหมคะ?
...มีคนยกมือประปราย (มโนล้วนๆ)
ศาสตร์แห่งการทำนายนั้นมีหลายแขนงด้วยกันค่ะ แตกต่างกันไปตามแต่ละท้องถิ่น แต่ละภาษา อย่างไรก็ดี เชื่อได้ว่า ในทุกๆศาสตร์การทำนาย จะต้องมีคนกลุ่มหนึ่ง ที่ถูกตราหน้าจากหมอดูว่า เป็นคนอาภัพรัก
ศาสตร์ที่เราศึกษาอยู่ คือ โหราศาสตร์ไทย นั้น ก็มีหลักอยู่เช่นกันว่า คนแบบใดจึงเป็นคนอาภัพรัก หลักๆจะมีอยู่สองแบบ
แบบแรก เป็นคำแช่งชักหักกระดูกมาแต่โบราณ ที่เชื่อกันเอาเองโดยไม่ดูตาม้าตาเรืออะไรเลยว่า ใครก็ตามที่เกิดในราศีกันย์ พิจิก และมีน จะต้องอาภัพรักแน่นอน
บาปแท้...แช่งมั่วๆ
แบบที่สอง คือดูตามลักษณะดวงของแต่ละคน กล่าวคือ ดูว่าดาวที่แทนคู่ครอง และ/หรือดาวที่แทนความรัก มีคุณภาพแย่ หรือตกที่เสีย หรือไม่ หากใช่ ก็มีแนวโน้มที่จะได้คู่ไม่ดี
ยัยแม่หมอคนนี้เชื่อแบบที่สอง
นี่คือการสรุปย่อๆของความอาภัพรักนะคะ ถ้าลงรายละเอียดเดี๋ยวจะยาวเกินไป
เมื่อมีปัญหาก็ต้องหาทางแก้ แน่นอน การอาภัพรักก็มีวิธี(ที่เขาว่าสามารถ)แก้ได้เหมือนกัน ขอเจาะเฉพาะวิธีทางโหราศาสตร์ก่อนนะ
ว่ากันว่า หากได้รับคำทำนายว่าอาภัพรัก คุณมีวิธีเลือกจัดการชีวิตรักของตนเอง ดังนี้
1. รักตัวเอง ตัดอกตัดใจ อยู่คนเดียวไปไม่ต้องมีคู่
2. หาแฟนที่อยู่ไกลกัน มีแฟนแล้วต้องไม่ได้เจอกันบ่อยๆ เป็นการแก้เคราะห์ที่ดีอย่างหนึ่ง
3. หาคู่ครองที่คุณภาพระดับรองลงมา...
งงไหม คืออย่างนี้ค่ะ ในทางโหราศาสตร์เนี่ย เขาถือว่า คู่ครองเกรดพรีเมี่ยม ซึ่งคนที่จะได้ต้องเป็นคนวาสนาดีเรื่องรักเท่านั้น มีอยู่สามประเภท หนึ่งคือเป็นคนชาติเดียวกัน ถ้าปรับตามสถานการณ์ก็คือ เป็นคนไทย สองคืออายุไล่เลี่ยกันหรือห่างกันไม่เกินห้าปี และสาม คือคนที่ไม่เคยมีแฟนหรือไม่เคยผ่านการแต่งงานมาก่อน(ถ้าเป็นสินค้าก็เรียกว่า มือหนึ่ง ใหม่กริ๊บ)
และด้วยหลักนี้ คู่ครองคุณภาพลำดับรองลงมาก็จะมีสามประเภท
- เป็นคนต่างชาติ
- อายุต่างกันมากๆ คือเด็กหรือแก่กว่าเกินห้าปีขึ้นไป
- เป็นพ่อหม้าย/แม่หม้าย หรืออย่างน้อยก็เคยผ่านการมีแฟนมาก่อน (ถ้าเป็นสินค้าก็คือ ของมือสอง)
เคยเล่าวิธีแก้ตามข้อ 3. ให้เพื่อนซึ่งได้รับคำทำนาย(จากเราเนี่ยแหละ) ว่าต้องหนักใจเรื่องรัก ให้เพื่อนฟัง เพื่อนตั้งข้อสังเกตว่า
"เราเลือกได้ไหม? ถ้าเราไม่อยากได้คนแก่ ไม่อยากได้คนเคยแต่งงาน เราขอเลือกคนต่างชาติ ได้หรือเปล่า?"
...ก็น่าคิด...
และเนื่องจากเป็นพวกเวลาดูบอล(ต่างชาติ)ก็นั่งเหล่นักบอลไปด้วย นี่ก็แอบเห็นด้วยกับความคิดเพื่อนนะ
แต่หากคุณเป็นผู้ได้รับคำทำนายจากโหราศาสตร์ไทยว่ามีดวงความรักที่ดี ก็อย่าเพิ่งดีอกดีใจไป
โลกนี้ยังมีศาสตร์การทำนายอีกหลายแขนง...ที่พร้อมยัดเยียดความเป็นคนอาภัพรักให้คุณ
เราก็โดนเหมือนกัน
จู่ๆแม่ก็เอาดวงเราไปให้นักพยากรณ์ผู้ทำนายตามตำราโหราศาสตร์จีนดู(คนเดียวกับที่เขียนถึงในตอน Role Model จะ follow up เพื่อ??) หมอดูก็บอกว่า
"ลูกคุณ ถ้าจะมีแฟน ต้อง Second hand เท่านั้นจึงจะดี ต้องอายุมากกว่าเกิน 7 ปี ด้วย ถ้ามีแฟนที่อายุไล่เลี่ยกันหรือไม่เคยมีแฟนมาก่อน จะสร้างความเดือดร้อน"
นี่ก็ฟังแล้วไม่แน่ใจว่า เลือกได้ไหม หรือต้องทั้งแก่ทั้งหม้าย???
อารายว้า เปลี่ยนศาสตร์ทำนายก็กลายเป็นคนอาภัพรัก
ถ้าเป็นเมื่อก่อนเจอคำทำนายแบบนี้คงจะรู้สึกแย่ โวยวายโน่นนี่ ตอนนี้ สิ่งที่ตอบแม่ไปคือ
"ไม่เป็นไร ไม่ชอบคนอายุน้อยกว่าอยู่แล้ว"
คิดว่าสาเหตุที่ไม่ได้ร้อนรนอะไรคงเพราะ
หนึ่ง รู้ว่าตัวเองชอบคนอายุมากกว่า หรืออย่างน้อยก็ต้องอายุเท่ากัน เพราะเราก็มีความเป็นเด็กในตัวไม่น้อย ขืนอยู่กับเด็กคงตีกันตาย
ส่วนอายุห่างกันมากก็ไม่เป็นไร ตอนนี้เราได้ Role Model มาแล้วว่า คนแก่ไม่จำเป็นต้องหงำเหงือก แก่แล้วดูดีก็มีถมไป ก็แค่เลือกซักคนที่ราศีเข้ากันได้(ต้องจับผูกดวงก่อน!) มีอุดมการณ์ในชีวิตไปในทิศทางเดียวกัน นิสัยไปกันได้ อะไรแบบนี้
สอง ความปลง คือรู้สึกช่างแม่ง มีก็มีไม่มีก็ไม่เป็นไร ตอนนี้เตรียมการอยู่คนเดียวยามเกษียณไว้คร่าวๆแล้ว เราเล่าเรื่องนี้ให้พี่สาวที่ทำงานฟัง แล้วเธอก็บอกว่า
พี่ : อะไร เธออายุสามสิบกว่าๆคิดถึงที่อยู่ตอนแก่แล้ว
เรา : ไม่ได้สิ มันต้องวางแผนล่วงหน้า
พี่ : พี่หาแฟนให้เธอดีกว่า
เรา : ไม่เอา!!
เล่นหมากรุกยังต้องคิด เดินหมากชีวิตไม่คิดได้ไง จริงมั้ย
กล่าวโดยสรุป ถ้าคุณได้รับคำนายว่าตัวเองอาภัพรัก ก็มีทางเลือกในชีวิตสองทางหลักๆ ในกรณีที่ไม่ต้องการจะได้ความรักที่มีแนวโน้มจะเฮงซวย เอ๊ย จะชอกช้ำ
หนึ่ง เลือกที่จะไม่รัก
สอง เลือกรักกับคนที่มีความเสี่ยงที่รักแล้วจะทุกข์มากกว่าคนทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นทุกข์จากความคิดถึง(เลือกคนที่อยู่ไกลกัน หรือนานๆเจอกันที) ทุกข์จากการคุยกันไม่รู้เรื่อง(คนต่างชาติต่างภาษา) ทุกข์จากช่องว่างระหว่างวัย(แก่หรือเด็กกว่ามากๆ) หรือทุกข์จากคำครหาว่า คนโสดๆมีตั้งเยอะ ไปคว้าคนมีตำหนิมาทำไม(หม้าย)
แต่เท่าที่ดู ก็มีเพื่อนที่(ตามดวงแล้ว)อาภัพรักที่เลือกแต่งงานกับต่างชาติ เธอก็ดูแฮปปี้ดีนะ แล้วก็มีเพื่อนซึ่งแฟนอายุห่างกันเป็นสิบปี(แต่คนนี้เราไม่เคยดูดวงให้นะ) นี่ก็กำลังจะมีลูก ดูมีความสุขเช่นกัน
การมีแฟนไม่พรีเมี่ยมก็ไม่เห็นต้องทุกข์เลย
หรือ อีกที อันนี้เป็นทางแก้ตามหลักพุทธศาสนา ในหนังสือคุณดังตฤณบอกว่า ให้ตั้งจิตอธิษฐานว่าจะรักษาศีลห้าให้ครบเท่านั้นเท่านี้เดือน ขอบุญบารมีในการรักษาศีลจงส่งคนที่ศีลเสมอกันมาเป็นคู่ครอง
...จริงๆควรต้องรักษาศีลไปเรื่อยๆ น่าจะดีกว่านะ
...ใครจะลองนำไปใช้ก็ได้ ใช้แล้วได้ผลมาบอกด้วย จะเก็บเป็นสถิติ เอิ้ก
เคยมีน้องถามเราว่า "พี่ ถ้าเราดูดวงสองศาสตร์แล้วเขาบอกไม่ตรงกัน เราควรเชื่ออันไหนดี"
ตอบน้องไปว่า "ศาสตร์ไหนดูว่าเราดวงดี ให้เชื่อศาสตร์นั้น"
หลักการของคำตอบก็คือ คุณต้องเชื่อว่าตัวเองมีดี เชื่อว่าตัวเองเอาดีได้ และเชื่อว่าตัวเองคู่ควรกับสิ่งดีดี และความเชื่อเช่นนี้แหละ ที่จะผลักดันให้คุณไปสู่จุดที่ต้องการได้
เรื่องอาภัพรักนี่ก็เช่นกัน เราอาจไม่สามารถเสกแฟนในฝันได้ แต่เราสามารถทำตัวให้คู่ควรกับรักดีๆ รักและเห็นค่าในตัวเอง และมีความสุขกับทุกๆวันในชีวิตได้ ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะใดก็ตาม
ไม่ว่าจะได้รับคำทำนายแบบใด หรืออยู่ในสถานะไหน ขอให้ทุกคนรักและเคารพตัวเอง และมีความสุขในทุกๆวันของชีิวิต
แม่หมอขออวยพร
ท้ายเรื่อง ที่ไม่เกี่ยวกับเรื่อง
- หนึ่ง เราบังเอิญได้ทราบว่า วันนี้(25 มกราคม) เป็นวันคล้ายวันเกิดของผู้ประกาศข่าวท่านหนึ่งที่เราชมข่าวเขาประจำทางโทรทัศน์ ซึ่ง..เรียนจบที่เดียวกัน(คนละคณะ และห่างกันหลายปี) มีอุดมการณ์บางอย่างไปในทางเดียวกัน และคิดอะไรได้...คล้ายๆกัน (เช่น ไม่ใช่ไอโอ เนี่ย ไอแอม) ช่องนี้จึงเป็นหนึ่งในไม่กี่ช่องข่าวที่เราติดตามเสมอๆ และยังแอบให้กำลังใจนักข่าวผู้มีอุดมการณ์คล้ายๆกันทุกๆคน
และแฟนคลับคนไกลๆ คนนี้ จึงอยากอวยพรวันเกิดจากมุมไกลๆของตัวเองตรงนี้ เป็นหนึ่งกำลังใจเล็กๆที่เจ้าตัวไม่จำต้องทราบ และก็ไม่ได้หวังว่าจะทราบ เพียงขอเขียนไว้ในที่ของตัวเองก็พอใจ
สุขสันต์วันคล้ายวันเกิดค่ะ ขอให้มีสุขภาพแข็งแรง และมีความสุขมากๆนะคะ
...อาจารย์กบ...
- สอง วันนี้พบว่าคุณบุญเกื้อ ปุสสเทโว กำลังต่อสู้กับโรคมะเร็งอยู่ และได้เขียนอำลาทุกคนไว้ล่วงหน้าในเฟสบุ๊ค
คนอ่านเลยเอามั่ง ขอใช้พื้นที่เล็กๆในบล็อก ส่งกำลังใจให้กับคุณบุญเกื้อ
ไม่ว่าสถานการณ์ในร่างกายเป็นอย่างไร ก็ขอเอาใจช่วยและเป็นกำลังใจให้นะคะ
ก่อนจบ ขออนุญาตประชาสัมพันธ์ เนื่องจากตั้งแต่ประมาณ 2 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นต้นมา ทาง minimore เปลี่ยนรูปแบบเว็บใหม่ ผลที่เกิดขึ้นคือ งานเขียนเรา...ไม่มีคนอ่านเลย (คาดว่าหาเจอยาก)ตั้งแต่วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นต้นไป เราจึงตัดสินใจกลับไปเขียนเรื่องราวในบล็อกเดิมของเราแทน คุณผู้อ่านที่ถูกจริตในงานเขียนของเรา สามารถติดตามไปอ่านได้ที่
https://alwaysfay.blogspot.com/2023/02/blog-post.html ขอบพระคุณสำหรับการติดตาม และขอบคุณทาง minimore ที่ให้พื้นที่เราได้ขีดๆเขียนๆเรื่องราวตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้
จนกว่าจะพบกันใหม่
สวัสดีค่ะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in