มีโอกาสได้ไปเยี่ยมแม่และพ่อเลี้ยงในรอบ ... สี่ปีได้ละมั้ง
ปกติไม่ค่อยได้ติดต่อที่บ้านนัก เพราะตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม เรากับแม่ก็ใช้ชีวิตแบบต่างคนต่างดิ้นรน
อยู่ด้วยกันบ้าง ห่างไกลกันบ้าง แม้ไม่ได้สนิทสนมกัน แต่ก็ตระหนักแก่ใจว่า
แม่คือญาติที่เกี่ยวข้องทางสายเลือดเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ที่เราพอจะเรียกได้ว่าเป็นครอบครัว
แต่วันนี้ไม่ได้จะมาบันทึกเรื่องแม่หรอก แม่ก็อยู่สุขสบายตามประสาดี แก่ตัวลงไปบ้างตามกาลเวลา
กลับบ้านรอบนี้สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดคือ เวลาได้พาชีวิตสัตว์เลี้ยงในบ้านไปจนเกือบหมดแล้ว
เหลือสุนัขอยู่ตัวเดียวคือ นิกกี้
เจอกันเมื่อสี่ปีที่แล้วนิกกี้ยังดูสดใสร่าเริง แต่ตอนนี้นิกกี้แก่ขึ้นอย่างน่าใจหาย
ไม่รู้ว่าเพราะเราปลงกับชีวิต (?)
หรือเพราะเราคิดมากไปด้วยความจิตดิ่ง
หรือเพราะเราสังเกตแนวโน้มชีวิตตัวเองได้เลาๆ
ถึงได้มีความคิดแว้บขึ้นมาว่า นี่อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เราได้เจอกัน
จริงๆ ความสัมพันธ์และการปฏิบัติแบบครอบครัว-เครือญาติถือเป็นเรื่องลี้ลับสำหรับเรา
ด้วยความที่ "ครอบครัวของเรา" เปลี่ยนหน้าเปลี่ยนตากันไปหลายครั้ง
พอทราบข่าวว่าญาติคนไหนเสีย
ก็จะเป็นตอนที่ครอบครัวเราไม่ได้เกี่ยวข้องกับครอบครัวฝ่ายนั้นไปเสียแล้ว
บางครั้งก็คิดนะว่าถ้าแม่เสียนี่จะจัดงานให้ยังไง
เพราะเราน่าจะเป็นญาติเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่
ถ้าตอนตัวเองเสียนี่คิดไว้ว่าปล่อยไปได้เลย ไม่ต้องให้ใครมาจัดงาน
แต่กรณีของแม่นี่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเป็นอย่างไร
... ถึงวันนั้นก็คงรู้เอง
สรุปจะพูดเรื่องแม่หรือเรื่องหมาเนี่ยเรา บ้าจริง
เอาเถอะ ก็อยู่ใต้หลังคาบ้านเดียวกันนี่เนอะ
ขอบคุณนิกกี้ที่อยู่เป็นเพื่อนแม่
ทำหน้าที่ได้ดีกว่าเราที่เป็นลูกเสียอีก
... สักวันเราคงคิดถึงช่วงเวลาเหล่านี้แล้วร้องไห้
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in