เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
lyrics translationtofu
3. Bad Boy - Dan Croll

  • "เนื้อหาเพลง Bad Boy พูดถึง 'การเติบโตในช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านสู่การเป็นผู้ใหญ่' ซึ่งเป็นธีมของอัลบัมนี้ครับ ผมคิดว่าเวลานั้นเป็นช่วงที่น่าจะทำให้หลายๆ คนรู้สึกอินด้วยได้ เพราะต่างก็มีประสบการณ์ร่วมกัน เป็นช่วงเวลาที่บุคลิกลักษณะจริงๆ ของเราก่อตัวขึ้นน่ะครับ ซึ่งผมว่าบุคลิกแบบ 'แบดบอย' เนี่ยก็เป็นหนึ่งในนั้นเหมือนกันนะ อย่างตอนวัยรุ่น เด็กผู้หญิงต่างก็อยากลองเดทกับหนุ่มร้ายๆ ดู เด็กผู้ชายเองก็อยากมีคาแรกเตอร์แบบนั้น เหมือนเป็นเรื่องปกติของวัยรุ่นทั่วไป พอมองย้อนกลับไปตอนนั้นแล้วตลกดีครับ"

    แดน โครล ให้สัมภาษณ์ใน Clash Magazine*







    I hear your life is feeling pretty dull
    ผมได้ยินมาว่าชีวิตคุณจืดชืดซึมเซาน่าดู

    You want something satisfying that'll make it fun
    คุณอยากแต่งแต้มสีสัน หวังให้มีอะไรสนุกๆ เกิดขึ้นบ้าง

    You wanna change but
    อยากเปลี่ยนแปลงตัวเอง

    Your mum and dad don't want to ever see you escape the norm
    แต่ขืนเฉออกนอกกรอบจริงๆ พ่อแม่คุณคงไม่ปลื้มแน่ใช่ไหมล่ะ


    Stuck in a city unable to travel
    อุดอู้อยู่แต่ในเมือง ไม่ได้ไปเที่ยวเปิดหูเปิดตาที่ไหน

    You want your hair to unravel and
    คุณอยากปล่อยผมให้ปลิวสยายเป็นอิสระ

    Feel the loosening of the chains you feel
    อยากปลดโซ่ที่คอยเหนี่ยวรั้งคุณไว้

    Society is placed on the path it chose ahead of you
    แต่ก็เหมือนโดนผูกมัดให้ต้องเดินไปตามทางที่สังคมมองว่าดีใช่ไหมล่ะ


    So you take a bad boy, take a bad boy home to see
    สุดท้ายคุณเลยตัดสินใจลองไปเดทกับหนุ่มร้ายๆ ดูสักคน

    If he makes you feel special, maybe gives you that self-belief
    เผื่อจะรู้ว่าเขาทำให้คุณรู้สึกแปลกไปจากเดิมได้บ้างไหม ทำให้คุณเชื่อมั่นในตัวเองขึ้นรึเปล่า

    Yeah you take a bad boy, take a bad boy home to see
    นั่นล่ะ คุณเลยลองควงหนุ่มร้ายๆ สักคนขึ้นห้องดู

    If he makes you feel special, makes you feel like a rebel in need
    จะได้รู้ว่าทุกอย่างต่างไปจากเดิมบ้างไหม เหมือนได้แสดงความขบถในตัวออกมาใช่รึเปล่า


    Street lights, late nights
    แสงไฟจากท้องถนนยามค่ำคืน

    He wants to take you for a ride on his motorbike
    เขาพาคุณซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์แล้วซิ่งไปทั่ว

    You finally got the chance to feel alive and let go tonight
    คุณเลยมีโอกาสได้ทำอะไรโลดโผน ปลดปล่อยตัวเองดูสักที

    He watches James Dean on movie screens
    เขาน่ะเป็นแฟนตัวยงของ เจมส์ ดีน เชียว**

    Smokes straights, wears leather and tight jeans
    ทั้งสูบบุหรี่ สวมเสื้อหนังกับกางเกงยีนส์รัดรูป

    He's the man that you need in your dreams when you're sleeping tonight
    เป็นชายในฝันแบบที่คุณเฝ้าละเมอเพ้อถึงเลยใช่ไหมล่ะ


    So you take a bad boy, take a bad boy home to see
    สุดท้ายคุณเลยตัดสินใจลองไปเดทกับหนุ่มร้ายๆ สักคน

    If he makes you feel special, maybe gives you that self-belief
    เผื่อจะรู้ว่าเขาทำให้คุณรู้สึกแปลกไปจากเดิมได้บ้างไหม ทำให้คุณเชื่อมั่นในตัวเองขึ้นรึเปล่า

    Yeah you take a bad boy, take a bad boy home to see
    นั่นล่ะ คุณเลยลองควงหนุ่มร้ายๆ สักคนขึ้นห้องดู

    If he makes you feel special, makes you feel like a rebel in need
    จะได้รู้ว่าทุกอย่างต่างไปจากเดิมบ้างไหม เหมือนได้แสดงความขบถในตัวออกมาใช่รึเปล่า


    Pick yourself up, dust yourself off, take the time to realise it never works out
    ฉุดตัวเองขึ้น ปัดฝุ่นที่เลอะตามร่างออก เสียเวลาไปมากมายเพื่อให้รู้ว่าที่ทำไปไม่เวิร์กเลย

    Pick yourself up, wipe your tears dry, try to find the confidence you're holding inside
    พยายามลุกขึ้นใหม่ ปาดน้ำตาที่รินไหล แล้วค้นหาความมั่นใจที่ซ่อนอยู่ที่ไหนสักแห่งในตัวคุณ

    Pick yourself up, dust yourself off, take the time to realise it never works out
    ฉุดตัวเองขึ้น ปัดฝุ่นที่เลอะตามร่างออก เสียเวลาไปมากมายเพื่อให้รู้ว่าที่ทำไปไม่เวิร์กเลย

    Pick yourself up, wipe your tears dry, try to find the confidence you're holding inside
    พยายามลุกขึ้นใหม่ ปาดน้ำตาที่รินไหล แล้วค้นหาความมั่นใจที่ซ่อนอยู่ที่ไหนสักแห่งในตัวคุณ

    Pick yourself up, dust yourself off, take the time to realise it never works out
    ฉุดตัวเองขึ้น ปัดฝุ่นที่เลอะตามร่างออก เสียเวลาไปมากมายเพื่อให้รู้ว่าที่ทำไปไม่เวิร์กเลย

    Pick yourself up, wipe your tears dry, try to find the confidence you're holding inside
    พยายามลุกขึ้นใหม่ ปาดน้ำตาที่รินไหล แล้วค้นหาความมั่นใจที่ซ่อนอยู่ที่ไหนสักแห่งในตัวคุณ


    So you take a bad boy, take a bad boy home to see
    สุดท้ายคุณเลยตัดสินใจลองไปเดทกับหนุ่มร้ายๆ สักคน

    If he makes you feel special, maybe gives you that self-belief
    เผื่อจะรู้ว่าเขาทำให้คุณรู้สึกแปลกไปจากเดิมได้บ้างไหม ทำให้คุณเชื่อมั่นในตัวเองขึ้นรึเปล่า

    Yeah you take a bad boy, take a bad boy home to see
    นั่นล่ะ คุณเลยลองควงหนุ่มร้ายๆ สักคนขึ้นห้องดู

    If he makes you feel special, makes you feel like a rebel in need
    จะได้รู้ว่าทุกอย่างต่างไปจากเดิมบ้างไหม เหมือนได้แสดงความขบถในตัวออกมาใช่รึเปล่า




    * อ้างอิงบทสัมภาษณ์จาก: https://www.clashmusic.com/features/in-conversation-dan-croll

    ** เจมส์ ดีน (James Dean) เป็นนักแสดงชายชาวอเมริกันที่โด่งดังและเปรียบเสมือนไอคอนของวัยรุ่นชายในยุค 60s ค่ะ (อาจจะพอคุ้นหูชื่อของดีนกันมาบ้างจากเพลง Style ของเทย์เลอร์ สวิฟต์เนอะ) โดยถ้าพูดถึงสไตล์ของดีนแล้วก็เหมือนที่เพลงบรรยายเลยค่ะ เสยผมทรงวินเทจ สวมเสื้อยืดขาว ใส่แจ็กเก็ตหนังกับกางเกงยีนส์รัดรูป สูบบุหรี่ มาพร้อมลุคแบดๆ ที่เป็นสเน่ห์ครองใจวัยรุ่นหนุ่มสาวทั้งหลายสมัยนั้นเลย




    เพลงนี้เป็นเพลงที่เราฟังครั้งแรกก็ติดหูเลยค่ะ ทำนองเพลงสนุกแต่ก็แอบแฝงอารมณ์เศร้าๆ เหงาๆ ไว้ เนื้อหาพูดถึงช่วงเวลาวัยรุ่นที่หลายคนต่างอยากระบายความขบถในตัวออกมา อยากแสดงอัตลักษณ์ของตัวเอง อยากรู้อยากลองหลายๆ อย่าง อยากทำอะไรนอกกรอบสวนทางกับสังคม เหมือนที่แดนให้สัมภาษณ์ไว้เลยว่าเป็นช่วงเวลาที่วัยรุ่นหลายๆ คนน่าจะรู้สึกรีเลตด้วยได้เนอะ นึกย้อนกลับไปถึงตัวเองช่วงนั้นแล้วก็ตลกจริงๆ ค่ะ
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in