เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
เมื่อวันที่ข้าพเจ้าป่วยเป็นโรคซึมเศร้า (Depression Diary)Tongg Pongsathorn
ซึมเศร้า Diary (3) จุดเปลี่ยน
  • เรามีลูกสาวอยู่หนึ่งคน ปัจจุบันเธออายุสามขวบกว่าๆ เรามีเธอตอนที่เราเพิ่งเริ่มทำงานไม่กี่เดือน น่าจะอายุประมาณ 25 ปี ตอนนั้นเราไม่ได้คิดว่าการมีเธอเป็นเรื่องของการไม่พร้อม เราพร้อมที่จะมีเธอ ตัดกลับมา เมื่อเรากลับมาบ้านเราดุลูกมากขึ้น ตวาดใส่ลูกมากขึ้น เนื่องจากเราเหนื่อยจากงานและต้องกลับมาเตรียมตัวเธอเข้านอนทุกวัน สิ่งที่ทำให้เราหงุดหงิดคือลูกสาวเรามักจะทำในสิ่งที่เราไม่ได้ดั่งใจ เช่น การไม่ยอมเลิกอาบน้ำ การไม่สนใจแต่งตัว การไม่ยอมเข้านอน การไม่กินยาเมื่อไม่สบาย เราจะตวาดใส่ลูกอย่างรุนแรงทุกครั้ง เมื่อเตือนครั้งที่ 1 2 3 ไม่ฟังก็จะเริ่มทันที เราจะยกลูกออกมาแล้วดุว่าทำไมไม่ฟัง ทำไมห่วงแต่เล่น เหนื่อยนะรู้ไหม บังคับป้อนยาแล้วตะโกน กินๆๆๆ ลูกเราก็จะร้องไห้ ยิ่งร้องงอแงมากขึ้นเราก็จะอารมณ์เสียมากขึ้นและตะคอกแข่งกับเสียงร้องของลูก ลูกของเราเลยระแวงทุกครั้งที่เราเรียกชื่อ สิ่งที่เราบีบคั้นลูกคือสิ่งที่เราแค่ต้องการให้เข้านอนตรงเวลา แต่ในเหตุการณ์ตอนนั้นๆเราควบคุมตัวเองไม่ได้เลย อารมณ์แบบปรี๊ดสุดและระเบิดออกมา เมื่อจบเราก็มานั่งเสียใจว่าทำไมเราต้องทำแบบนี้ เรารู้สึกผิดมาก หรือหากวันไหนเราเลิกงานดึกกลับมาบ้านเห็นลูกยังไม่ได้อาบน้ำกินข้าวเราก็จะหงุดหงิดคนในบ้าน และทำโครมคราม เพราะในความรู้สึกเราคิดแต่ว่าแค่นี้ทำไมดูแลแทนให้หน่อยไม่ได้วะ เราไม่ได้อยู่กับแฟนเพราะแฟนเราต้องไปทำงานข้างนอก อาทิตย์จะได้กลับมาเจอกันครั้งนึง คนที่ดูแลลูกเราช่วงที่ไม่อยู่ก็คือ พ่อ แม่ และน้องสาวเรา ซึ่งขนาดเขาช่วยดูแลเรายังอาละวาดใส่ได้แย่จริงๆ

    จนวันนึงแฟนบอกว่าลองไปหาหมอดูไหม เผื่อเป็นอะไรจะได้มาปรับแก้ไขให้ดีขึ้น วันที่แฟนเห็นเราแย่คือวันที่ลูกเราไม่สบายอ้วกทั้งคืน จนเราหงุดหงิดเพราะนอนหลับไม่ได้ เราเช็ดตัวเช็ดหน้าให้ลูกแรงมาก เพราะความหงุดหงิด และวันที่ลูกเราเป็นไข้สูงมากแต่เราตัดสินใจไม่ได้เมื่อพาลูกไปที่โรงพยาบาลว่าจะแอดมิดหรือไม่ เราเอาแต่คิดว่าทำไมลูกต้องป่วยด้วยวะ ต้องมาคำนวณเรื่องเงิน ค่าห้อง หรือถ้ากลับบ้านจะดีกว่าหรือไม่ จนเหตุการณ์ผ่านไปเราก็เลยมานั่งคิดว่าจริงๆแล้วเรารักลูกสาวของเราเองจริงๆหรือเปล่า...

    หลังจากที่โทรไปนัดหมอโรงพยาบาลแถวราชวิถีแล้ว ก่อนถึงวันนัดสามสี่วัน หมอก็โทรเข้ามาขอให้เราเป็นเคสศึกษาโดยจะมีการบันทึกภาพและเสียงโดยเปลี่ยนจากการนัดตอนเช้าเป็นช่วงบ่าย ซึ่งตอนนั้นเราคิดว่าไม่มีอะไรจะเสียอยู่แล้ว หากเราแย่มากจริงๆหมอคงเอาไปปรึกษากับหมอคนอื่น..

    //ครั้งหน้าจะมาเล่าถึงการพบหมอครั้งแรกครับ

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in