เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
L.Wilson's Childhoodwallflowerblu
#101046


  • 1996


    ลีวาน วิลสัน เกิดมาพร้อมกับคำอธิษฐานของครอบครัว 


    ท่ามกลางวันคริสต์มาสอีฟ บันทึกฝากครรภ์ระบุว่าเขามีน้ำหนักแรกเกิด 3200 กรัม พ่วงด้วยข้อเท้าเล็ก ๆ ที่งอขึ้นมาเกือบจะเหนือหน้าแข้ง — ด้านนอกกระจก ใสลีลีฟโอบกอดผู้เป็นพ่อ พลันส่ายหัวทั้งน้ำตา ว่าหมอจะช่วยให้น้องชายกลับมาสมประกอบได้ไหม,  เมื่อเวลาผ่านไป รูปร่างข้อเท้าที่เคยผิดรูปกลับคลายตัว กลายสภาพเป็นปรกติ ราวภาพจำก่อนหน้าเป็นเพียงฝันร้าย เธออ้อนวอนต่อพระผู้เป็นเจ้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า แม้บางครั้งจะเข้าใจว่าพวกเขาคงไม่ว่าง กระทั่งหลีกมาฟังเสียงเล็ก ๆ ของเด็กหญิงวัย 7 ขวบ แต่อย่างน้อย พ่อกับแม่ของเธอก็ได้ยินมันชัดเจน และช่วยปลอบโยนด้วยถ้อยคำแสนสั้น หากแต่ทุเลาอาการหวั่นใจเสียกว่าคำอธิษฐานเป็นไหน ๆ , พวกเขาวิเศษกว่าพระเจ้าซะอีก

     


    ฤดูหนาวปีที่แล้ว ลีลีฟจำได้ว่าแม่ทำเบเกอรี่และอบไก่งวงตามธรรมเนียม ส่วนตัวเธอกับพ่อก็ออกไปปั้นหิมะเล่นกันหน้าบ้าน หลังตระเตรียมต้นคริสต์มาสตั้งตระหง่านในห้องนั่งเล่นเรียบร้อยและปล่อยให้พ่อทำหน้าที่จุดเตาไฟ 


    สโนบอลทั้งสามตัวถูกบรรจงปั้นเป็นก้อนกลมขนาดพอดีบนฝ่ามือเล็ก ๆ ของเธอ พ่อเดินมาต่อเติมบางส่วนที่ขาดหายให้พอดีกับรูโหว่ เพราะลีลีฟปั้นได้ไม่นานพอ เด็กหญิงยื่นก้านไม้ยาวแก่จาเมส เขาหัวเราะแล้วว่าชิ้นส่วนมันดูเก้งก้างไม่สมกับเป็นตัวแทนของเธอ อย่างน้อยต้องหักออกครึ่งหนึ่ง ก่อนเสียงโวยวายเคล้าเสียงหัวเราะทุ้มกังวานของผู้เป็นพ่อเริ่มดังขึ้น ไม่นานนัก แม่ก็เปิดประตูเรียกทั้งสอง ตุ๊กตาหิมะตั้งเรียงกันสามตัวถูกทิ้งไว้ โดยยังเหลือกิ่งก้านอีกหนึ่งชิ้นที่จะทำให้ตุ๊กตาหิมะตัวเล็กสุดสมประกอบ ทว่ากลับขาดหายไป และถูกแทนที่ด้วยผ้าพันคอสีเขียวเข้มที่แม่ของเธอถักทอให้เป็นของขวัญวันคริสมาสต์ปีก่อน

     


    ฤดูหนาวปีนี้ ลีลีฟถือตะกร้าผลไม้พร้อมดอกสแตติสสีม่วงช่อใหญ่ออกเดินทางแต่เช้าตรู่ เด็กหญิงไม่ลืมพกผ้าพันคอสีเขียวของแม่ติดมือ เธอนั่งคล้องผ้าให้พอเหมาะกับคอเสื้อโค้ตอยู่บนรถเสียนาน ระยะทางจากบ้านถึงโรงพยาบาลห่างกันปะมาณ ไมล์ สองข้างทางครึกครื้นเสียงเพลง สีแดงสดดูมีชีวิตชีวา ประกอบฉากหลังด้วยการตกแต่งเฉลิมฉลองเทศกาล ก่อนอื่น คงต้องขอบคุณนักร้องประสานเสียง หนูกะแล้วว่าเมแกนต้องอยู่ที่นี่ ลีลีฟชี้นิ้วเคาะซ้ำ ๆ บนกระจกรถไปยังวงร้องประสานเสียงหน้าร้านพิซซ่าโฮมเมดของเจฟ  ชายเจ้าของร้านวัยกลางคนที่จากบ้านเกิดในสวีเดนมาแสวงชีวิตเรียบง่ายในไอดาโฮแทน เขาถูกยกให้เป็นผู้เลื่องลือรสมือการทำเปปเปอโรนี และขนานนามอยู่บ่อยครั้งในย่านนี้,  เธอเหลียวหลังมองตามเด็กหญิงผมเปียสีแดงเนิ่นนาน จนผู้เป็นพ่อต้องปรามนิสัยชั่วคราว เพราะเขาไม่สามารถให้ความสำคัญของเสียงเซ้าซี้ มากกว่าละสายตาจากถนนที่คราคร่ำไปด้วยผู้คน 

     


    ลีลีฟไม่ได้โทษใครอื่นที่ทำให้วันสำคัญหมดสนุก, ถึงบ้านจะหลงเหลือแค่เตาผิงไฟที่มอดดับกับต้นคริสต์มาสตั้งโง่ ๆ เท่านั้น

     


    เธอรู้ดีว่าคริสต์มาสปีหน้าน้องชายจะมีอายุครบ 1 ปี เขาคงร้องอ้อแอ้ในห้องนั่งเล่นกับเธอ ถึงแม้ไม่ได้ออกไปปั้นตุ๊กตาหิมะเหมือนปีที่ผ่านมา สิ่งสำคัญกว่านั้นคือ ของขวัญชิ้นใหญ่ในวันคริสต์มาสจากใครบางคนปีนี้ ถูกส่งมอบแก่ครอบครัวของเธอแล้ว — นับตั้งแต่ตอนนี้



Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in