อยู่ๆก็อยากเขียนบล็อกเป็นของตัวเอง แต่ก็ยังไม่รู้จะเขียนอะไรดี จะเขียนรีวิวหนังก็ไม่ได้ดูหนังบ่อยขนาดนั้น จะเขียนฮาวทูแต่งหน้าก็ไม่ได้เบ้าดีจนกล้าโชว์ จะเขียนบันทึกชีวิตประจำวันก็ไม่มีอะไรจะเขียนเพราะตื่นมาก็กินเรียนนอน ครั้นจะแต่งนิยายสักเรื่องภาษาตัวเองก็ไม่ได้ดีอะไรมาก บางทีพูดกับเพื่อนยังไม่เข้าใจ
ระหว่างกำลังนั่งคิดนอนคิดตีลังกาคิด(?)อยู่ตาก็เหลือบไปเห็นเสื้อกันหนาวเน่าๆที่วางอยู่บนโต๊ะ(เพราะใส่แล้วไม่ยอมเอาไปเก็บลงตะกร้---) ก็กลับมานั่งคิดกับตัวเองว่า เฮ้ย ทำไมใส่เสื้อตัวนี้บ่อยจังวะ? แล้วเสื้อผ้าในตู้ทำไมมีแต่ตัวคล้ายๆกันไปหมด? มีเพื่อนหลายคนชอบพูดกับเราว่าใส่เสื้อผ้าขัดกับบุคลิกตัวเอง ทั้งๆที่เป็นคนหน้ามึนตลกหน้าตาย แต่กลับชอบใส่เสื้อผ้าหวานแหววฟรุ้งฟริ้ง
.
.
.
เอ้อออออ มันก็จริง แต่จริงๆแล้วเราไม่รู้ตัวหรอกว่าเราชอบทำหน้านิ่ง ก็มันไม่มีอะไรให้ขำอ่ะ แล้วก็ไม่ค่อยเข้าใจว่าคนปกติเค้ายิ้มตลอดเวลากันเหรอ /ครุ่นคิด
หลังจากมองตัวเองเสร็จก็นั่งคิด(อีกแล้ว)ถึงสไตล์การแต่งตัวของเพื่อนคนอื่นบ้าง บางคนก็แต่งตัวแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง บางคนก็มีไอดอลไว้แต่งตาม บางคนไม่ได้เป็นเอกลักษณ์แค่การแต่งตัวแต่รวมถึงการแต่งหน้าด้วย
อืมมม คนเราจำเป็นต้องแต่งตัวให้เข้ากับบุคลิกตัวเองเสมอไปเลยเหรอ แล้วการแต่งตัวมันบอกอะไรได้บ้าง แล้วการที่เราแต่งตัวไม่เข้ากับบุคลิกจะแปลกชาวบ้านเขาไหม?
มองย้อนกลับมาที่ตัวเองอีกครั้ง จริงๆแล้วในใจเราไม่ใช่คนนิ่งๆแบบที่เราแสดงออกไปหรอก มันมีอะไรอีกหลายๆด้านที่บางทีเราก็เลือกให้แค่เราหรือคนสนิทที่เห็น เพราะฉะนั้นการที่เราแต่งตัวฟรุ้งฟริ้งแต่หน้านิ่งเหมือนหินตายายก็เพราะจิตใจของเราฟรุ้งฟริ้งไงล่ะ!
เอาจริงๆเสื้อผ้าก็เป็นสิ่งบ่งบอกตัวตนลึกๆของเรา แต่บางครั้งเราก็ใช้เสื้อผ้ามาปกปิดตัวตนของเราไว้เหมือนกัน หลายครั้งที่เราเลืกซื้อเสื้อผ้าแบบที่ไม่ใช่ตัวเรา เราใส่ได้2-3ครั้งแรกๆเสื้อตัวนั้นก็กลายเป็นผ้าขี้ริ้--
เห็นไหม ไม่มีอะไรปิดบังตัวตนเราได้หรอก อะไรที่ไม่ใช่สุดท้ายก็ไม่ใช่อยู่ดี
[talk]
ฮืออออ คลอดแล้วว บล็อกแรกของชีวิต พิมพ์ผิดพิมพ์ตกผิดพลาดอะไรติชมได้นะคะ ขอบคุณที่หลงกดเข้ามาอ่านและอ่านจนจบนะคะ จริงๆอยากเขียนบล็อกจิปาถะบ่นไร้สาระแต่ไม่รู้ทำไมสุดท้ายต้องลงแบบมีข้อคิดทุกที ฮืออ หวังว่าจะชอบกันนะคะ ฝากติดตามและบอกต่อกันด้วย ขอบคุณค่าาา ????
สำนวนน่ารักดีค่า แนวคิดก็สนุก เขียนต่อนะคะ ไว้จะแวะมาอ่านอีก