ตรงข้ามร้านกาแฟแฟรนไชส์มีร้านขายข้าวโพดต้มอยู่หนึ่งร้าน ทุกคนแถวนั้นรู้จักร้านนี้ดี เพราะพ่อค้าเป็นคนน่ารัก พูดเก่ง และอัธยาศัยดี กลิ่นข้าวโพดร้านนี้จะหอมฟุ้งเป็นพิเศษหลังฝนตกใหม่ ๆ พ่อค้าจึงขายดีมากในช่วงฝนซาตอนเย็นหลังเลิกงาน
ร้านนี้เป็นร้านรถเข็นเล็ก ๆ ตั้งอยู่บนฟุตบาทใกล้ตีนสะพานและริมถนน คนที่เดินลงมาจากสะพานลอยและต้องเดินผ่านร้านนี้จะต้องทำตัวเล็ก ๆ หน่อย แต่ถ้าคุณหาร้านนี้ไม่เจอขอให้คุณมองหาตู้จดหมายสีแดงสุดคลาสสิค นั่นแหละ ใกล้กันเลย
นอกจากตู้จดหมายก็คงเป็นมนุษย์วัยกลางคนคนหนึ่งที่นั่งอยู่หน้าเสาข้างตู้จดหมาย สภาพมอมแมม หัวยุ่งเหยิง และมีแก้วพลาสติกอยู่หน้าเขาหนึ่งใบ เขามานั่งที่นั่นเกือบทุกวัน แต่บางวันผู้คนก็ไม่เห็นเขา บ้างเล่าว่าเขาจะมานั่งตรงนี้ช่วงตอนกลางวัน และพอถึงกลางคืนเขาจะเอาเงินที่ผู้คนสงสารจ่ายค่ารถเมล์สภาพผุ ๆ เพื่อไปใต้สะพานใหญ่ละแวกนั้นและไปตั้งวงเหล้ากับเพื่อนฝูง จึงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมถึงมีคนที่มองเขาทั้งในสายตาที่สงสาร สมเพช และเหยียดหยามปนกัน
วันหนึ่งชายคนนี้สร่างเมา น่าจะกำลังกลับมานั่งที่ประจำของตัวเอง แต่มีชายแต่งตัวสะอาดสะอ้าน ใส่เสื้อสีขาวแขนยาว กับกางเกงตัวเก่า ๆ ที่ดูดีกว่าเขาหลายเท่ามานั่งอยู่ตรงที่เขา สภาพแก้วในมือของชายคนนี้ดูแข็งแรงและใหม่กว่า
ชายเจ้าของที่เริ่มอาละวาด เขาโวยวายให้ชายคนใหม่ออกไปจากพื้นที่ของเขา ชายคนใหม่ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องออกไป ในเมื่อตรงนี้เป็นที่สาธารณะใครจะมานั่งหรือยืนขอทานก็ได้ เขามีสิทธิ์
เสียงโวยวายเริ่มดังขึ้น รอบข้างเริ่มให้ความสนใจ ร้านขายพวงมาลัยที่ตั้งอยู่หน้าร้านกาแฟเริ่มรู้สึกกระวนกระวาย สุดท้ายก็เริ่มมีการลงไม้ลงมือ ไม่มีใครมองทันว่าฝ่ายไหนเริ่มก่อน ทั้งสองตะลุมบอนจนคนแถวนั้นสัญจรไม่ได้ แม่ค้าร้านขายพวงมาลัย เริ่มลี้ภัยไปอยู่หน้าร้านกาแฟแฟรนไชส์
หลังจากเสียงเตะต่อยกันผ่านไปไม่กี่นาที ก็มีเสียงเหมือนแก้วแตกดังขึ้น ชายเสื้อแขนยาวสีขาวคว้าขวดเหล้าของชายเจ้าของที่ฟาดไปที่หัวล้านของเขา เลือดเริ่มไหลออกมาเป็นทางจากหัวของเขา ชายเจ้าของที่ไม่ทันได้เจ็บดี ชายเสื้อขายยาวก็รีบจ้วงขวดเหล้าที่แตกและมีรอยแหลมเขาไปที่หัวของคู่ต่อสู้ไม่ยั้ง จากนั้นเขาก็รีบหลบหนีไป ทิ้งเพียงชายเจ้าของที่นั่งจมกองเลือดอยู่ใกล้ริมถนน การต่อสู้ครั้งนี้มีพยานหลายคนเพราะถัดจากเสานั้นไปก็เป็นป้ายรถเมล์...พื้นที่ตรงนั้นมีแต่รอยเลือด
พ่อค้าขายข้าวโพดต้มไม่สามารถตั้้งร้านข้าง ๆ กองเลือดได้ เขาจึงปิดร้านหนึ่งวัน เขาหวังว่าจะมีคนมาเช็ดล้างรอยเลือดนั้นในวันพรุ่งนี้ แต่มีเพียงรอยน้ำยาล้างจานจากร้านอาหารอีกฝั่งที่ราดมาโดนรอยเลือดส่วนใหญ่ ส่วนรอยเลือดที่เหลือนั้่นยังอยู่ไปอีกหลายอาทิตย์ จนกว่าพายุจะเข้าแล้วชำระล้างให้
ชายเจ้าของที่ยังคงนั่งอยู่ที่เดิม ทำทุกอย่างเหมือนเดิม ต่างจากเดิมตรงที่เขามีรอยแผลเป็นใหญ่อยู่บนศีรษะ หลังจากนั้นสามเดือน เขาหายไป และไม่มีใครเจอเขาอีกเลย
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in