เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
May I Borrow Your Pen & Paperrichinsoup
บันทึก
  • ช่วงฤดูร้อนเมื่อสามปีก่อนเป็นช่วงเวลาที่ผมได้พบเจอกับรุ่นพี่คนหนึ่ง เธอเป็นผู้หญิง

     

    ครั้งแรกที่เราเจอกัน เธอกำลังซ้อมไวโอลินอยู่ที่สวนสาธารณะ เธอยิ้มให้กับคุณยายที่ดูเหมือนว่าจะเป็นผู้ชมและรับฟังเธออยู่

     

    ครั้งที่สองที่เราเจอกัน ผมกับเธอเดินสวนกัน ผมกำลังจะก้าวขึ้นขบวนรถไฟ ส่วนเธอเดินออกมาจากขบวนรถไฟ

     

    ครั้งที่สามที่เราเจอกัน ขณะที่ผมกำลังเดินทางไปห้องสมุดในมหาวิทยาลัย ผมเจอเธอเข้าลอว์สันเพื่อซื้ออาหารกระป๋องมาให้สุนัขจรจัดที่นอนหนาวสั่นอยู่ข้างตึกศิลปะ

     

    ครั้งที่สี่ เธอมอบร่มของเธอให้คุณตาที่กำลังเดินหาร้านขายปลาในตลาดในวันที่แดดจ้า

     

    ครั้งที่ห้า ผมเห็นเธอนั่งอยู่คนเดียวริมแม่น้ำ สีหน้าของเธอไม่ค่อยสู้ดีนัก ราวกับว่าเธอเพิ่งประสบพบเจอเรื่องราวร้าย มา

     

    ผมเจอเธออีกในหลาย ครั้งถัดมา จนกระทั่งได้รู้ว่าเธอเป็นรุ่นพี่ในคณะที่เพื่อนผมเรียน จากนั้นผมก็คาดหวังว่าจะได้พบเธอมาตลอด

     

    ผมตั้งใจว่าถ้ามีครั้งถัดไปผมจะเดินเข้าไปทักเธอ อยากที่จะทำความรู้จักกับเธอ

     

    เวลานั้นมาถึงโดยที่ไม่ได้ตั้งใจดั่งเคย ก่อนหน้านี้กรมอุตุฯ พยากรณ์เอาไว้ว่าพายุฤดูร้อนจะเข้าเมืองที่ผมอาศัยอยู่ แม่เลยถือโอกาสที่โทรศัพท์มาถามไถ่ชีวิตประจำวันผมบอกกล่าวผมให้ทราบล่วงหน้า อย่าลืมพกร่มติดตัวล่ะ

     

    ผมเข้าไปปรึกษาเรื่องทำโปรเจ็กต์กับอาจารย์ในช่วงสาย วันนี้ผมยังไม่ได้เจอเธอเลยในตอนเช้า

     

    เพื่อนเก่าสมัยมัธยมปลายเพิ่งโทรศัพท์มาชวนผมไปร้านหนังสือที่เพิ่งเปิดใหม่ สมัยเรียนอยู่ด้วยกัน เราสองคนสนิทกันมาก มักจะชวนกันไปห้องสมุดชุมชนเป็นประจำ

     

    พอถึงเวลาที่ต้องเข้ามหาวิทยาลัย โชคร้ายที่เราสองคนไม่ได้เรียนมหาวิทยาลัยที่เดียวกัน แต่ทั้งผมและเพื่อนก็รู้สึกมีความสุขกับสิ่งที่ตนเองเลือกดี

     

    เมื่อความสัมพันธ์ของพวกเราเลือนรางไปบ้าง จาก็มักจะมาเยี่ยมผมโดยการโทรศัพท์มาหาอย่างไม่ให้ผมได้ทันตั้งตัวเป็นประจำ

     

    ผมกับจาใช้เวลาอยู่ในร้านหนังสือประมาณหนึ่งชั่วโมงก่อนจะชวนกันไปกินไอศกรีมร้านคุณตาที่ผมชอบไปอุดหนุนแกเป็นประจำ เนื่องจากร้านไอศกรีมอยู่ใกล้กับสถานีที่รถโดยสารประจำทางวิ่งผ่าน

     

    คุณตายังใจดีเหมือนเคย ลีลาควงที่ตักไอศกรีมทำให้จาถึงกับตาค้าง สำนวนการขายก็ไม่ธรรมดา จาถึงกับบอกว่าชอบมาก ไว้จะมาอุดหนุนทุกครั้งที่มาหาผม

     

    จากับผมแยกย้ายกันกลับบ้านหลังจากกินไอศกรีมหมด เราถ่ายรูปเล่นกันอีกนิด ก่อนที่จาจะขึ้นรถโดยสารกลับที่พัก

     

    ผมเลื่อนโทรศัพท์เพื่อเช็คตารางเวลาที่รถโดยสารจะมาถึงสถานี คงอีกสักครึ่งชั่วโมงเป็นอย่างน้อย

     

    ฉิบหายละ ผมลืมร่มไว้ที่ร้านหนังสือ

     

    ทุกครั้งที่ผมมาที่นี่ ผมมักจะเดินเลียบซอยเล็ก ที่เต็มไปด้วยร้านขายดอกไม้เพื่อไปถึงร้านขายอุปกรณ์วาดภาพ แต่ฝนดันมาตกหนักเสียก่อน ผมเลยทำได้แค่นั่งรอรถโดยสารอยู่ที่สถานี

     

    ผมได้ยินเสียงเพลงเล็ดลอดมาจากหูฟังของผู้หญิงที่เพิ่งเข้ามานั่งหลบฝนตรงป้ายสถานี

     

    เธอคือรุ่นพี่คนนั้น

     

    เธอนั่งฟังเพลงอยู่เป็นเวลาประมาณสองนาทีได้ ผมคิดว่าเธอคงรอให้เพลงที่กำลังเล่นอยู่จบเสียก่อน ก่อนที่เธอจะม้วนสายหูฟังอย่างลวก แล้วหย่อนมันลงไปในกระเป๋าผ้าสะพายข้างสีเหลืองส้ม

     

    เราสองคนนั่งฟังเสียงฝนอยู่อย่างนั้นสักพัก ก่อนที่เธอจะเอ่ยประโยคที่ทำให้ผมรู้สึกประหลาดใจขึ้นมานิดหน่อย

     

    คิดว่าวันนี้จะไม่ได้เจอกันเสียแล้ว

     

    ผมอึ้งไปสักพัก พลางคิดอยากทึ้งหัวตนเองที่ไร้ความกล้ามากพอที่จะทักเธอก่อน

     

    คุณรู้จักผมด้วยเหรอครับ

     

    รู้จักสิ

     

    จริงเหรอครับ

     

    จริงสิเธอขำ เธอยิ้มให้ผม รอยยิ้มนั่นดูสดใสเหลือเกิน ในขณะเดียวกันแววตาของเธอดูเศร้าเราเคยเห็นน้องมาหาเพื่อนที่คณะ

     

    อ๋อ ครับ

     

    เราชื่อรินนะ

     

    ผมธันว์ครับให้ตายเถอะ ผมปอดแหกเกินไป ตั้งแต่ที่ไม่กล้าทักเธอก่อนแถมยังกลืนประโยค ยินดีที่ได้รู้จัก ลงคอไปอย่างนั้น

     

    หลังจากวันนั้นเราได้เจอกันบ่อยขึ้น สนิทกันมากขึ้น โดยที่ผมมักจะลืมสังเกตสิ่งรอบตัวไปหลายครั้ง

     

    เธอชวนผมไปปั่นจักรยานริมแม่น้ำ ออกตัวเลี้ยงขนมปังแฮม แนะนำหนังที่เธอชอบ เพลงโปรด สถานที่ที่เธออยากไป

     

    ทุก สุดสัปดาห์เธอมักจะชวนผมไปชมทิวทัศน์บนเนินเขาเล็ก ๆ ที่มีต้นไม้ใหญ่ผลิใบอยู่หนึ่งต้น เราอยู่ด้วยกันในความเงียบ มีเพียงเสียงธรรมชาติเคลื่อนไหว ตึกระฟ้าในเมืองดูห่างออกไปราวกับอยู่คนละโลก

     

    ครั้งล่าสุดเธอชวนผมไปที่เนินเขาเช่นเคย ครั้งนี้เธอพกสมุดเล่มขนาดพอดีมือมาด้วย

     

    เธอนั่งลง เอนหลังพิงต้นไม้ มือเล็ก ของเธอพร่ำเขียนอะไรเป็นระยะ ๆ หลังจากที่เธอได้เหม่อมองสิ่งรอบตัว ส่วนผมก็มักจะพกสมุดสเก็ตซ์ไปด้วยเกือบทุกครั้ง

     

    ใครจะไปรู้ว่านั่นจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมจะได้พบเธอ

     

    แย่เสียไปกว่านั้น ผมไม่มีช่องทางการติดต่อเธอเลยแม้แต่น้อย เรามักจะเจอกันโดยบังเอิญเสมอ ไม่ว่าครั้งไหน ทั้งผมและเธอต่างอาศัยการชักชวนกันในช่วงเวลาบังเอิญเหล่านั้น

     

    เช้าวันหนึ่งในฤดูร้อนปีถัดมา ผมได้รับจดหมายฉบับหนึ่งสอดเอาไว้ในกล่องไปรษณีย์หน้าห้องพัก

     

    ผมเปิดจดหมายในวันถัดมา

     

    วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่เราจะได้เจอกัน เราเห็นธันว์ตั้งใจสเก็ตซ์ภาพอยู่เลยไม่ค่อยอยากกวนเท่าไร เราเป็นคนใจแข็งไม่พอที่จะพูดบอกลาธันว์ตรง

    วันที่ธันว์ได้อ่านจดหมายฉบับนี้คงเป็นวันที่เราไม่อยู่แล้ว เรารู้สึกขอบคุณที่เราสองคนได้มารู้จักกัน เราดีใจที่ได้ใช้เวลาร่วมกันกับธันว์

    ริน

     

    แม้ว่าเวลาจะผ่านไปนานในระดับที่ความทรงจำบางส่วนอาจเลือนหายไปบ้าง แต่เธอก็ยังคงอยู่ในความทรงจำของผมมาตลอด

     

    หญิงสาวผู้ที่มีรอยยิ้มสดใส ขัดกับแววตาแสนเศร้า นักไวโอลินผู้บรรเลงเพลงเพราะ ในสวนสาธารณะ

     

    หญิงสาวผู้มีความเสียสละ ผู้ที่พร้อมจะมอบความรักให้แก่บุคคลอื่น

     

    ยินดีที่ได้รู้จัก



Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in