เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
รีวิวชีวิตฉันนี่แหละhbrxnct
รีวิวทริปเกาะล้าน - Day1
  • ที่รีบเขียนทริปญี่ปุ่นให้จบเพราะกำลังจะไปทริปนี้นี่แหละ แต่สุดท้ายก็ดองทริปนี้อยู่ดี ดราฟไว้ตั้งแต่หลังจบทริปนี้ได้ไม่นานแต่ก็ดองเพราะขี้เกียจหารูป 555555555555555 และที่รีบมาเขียนก็เหตุผลเดิมค่ะ เพราะอีกไม่กี่วันที่จะถึงนี้เรากำลังจะมีทริปเชียงใหม่กับเพื่อน(ซึ่งจริง ๆ ก่อนนี้ก็มีไปแล้วรอบนึงแต่คือมันเป็นทริปที่ไปกับทัวร์ของบริษัท ซึ่งก็ไปกับเพื่อนคนเดียวในทริปที่จะถึงนี้นี่แหละ ไว้ถ้ายังพอมีเวลาก่อนเริ่มทริปเชียงใหม่เราอาจจะได้มาเขียนเป็นพรีทริปเชียงใหม่สั้นๆก่อนไปกันเอง ไรงี้)

    ทริปนี้เกิดขึ้นได้เพราะน้องที่รู้จักกันในทวิตเตอร์(คือรู้จักกันนานละ 4-5ปีได้ ตั้งแต่สมัยยังตามกัซแค่วงเดียว)บอกว่าอยากไปทะเล อยากไปเกาะล้าน แล้วเราเองก็อยากไปทะเลอยู่เหมือนกัน ประกอบกับช่วงปลายเดือน(25-28 July 2020)เป็นวันหยุด 4วันพอดี ก็เลยคิดว่าไปกันสัก 3วัน2คืน น่าจะเหมาะ เหลือวันนึงไว้ให้พักผ่อนเตรียมตัว แต่เรายังต้องรอบริษัทที่ทำงานคอนเฟิร์มมาก่อนว่าหยุดจริง ก็เลยยังไม่ได้จองที่พัก(นี่แหละชีวิตมนุษย์เงินเดือน ฮือออ TT^TT)

    เราก็รอ...ร๊อ...รอ...รอให้บริษัทเราคอนเฟิร์มสักทีว่าวันที่ 25-28 กรกฎาคมนี้จะหยุดนะ จนในที่สุดก่อนที่จะถึงวันหยุดยาว 4วัน นี้ประมาณหนึ่งสัปดาห์ บริษัทเราก็คอนเฟิร์มค่ะว่าหยุดแน่ แต่ ๆ ๆ แต่เหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัดวิบัติซ้อน เพราะช่วงที่เรากำลังจะหยุด ก็ดันเจอข่าวทหารอียิป แขก VIP ของทางรัฐบาลที่ติดโควิด-19แล้วดันจะเดินร่อนไปร่อนมาทั่วระยอง จนคนที่มีแพลนจะไปเที่ยวระยองอกสั่นขวัญแขวนแคนเซิลทริปกันจนระยองเศรษฐกิจล่ม

    ด้วยความที่ชลบุรีอยู่ติดกับระยอง เราก็แอบใจตุ้ม ๆ ต่อม ๆ ว่าจะมีข่าวแขก VIP ของรัฐบาลมาแวะพักแถว ๆ ชลบุรีโผล่ออกมาอีกหรือเปล่า แต่ท่ามกลางความไม่แน่นอนที่ค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นในใจของเรานั้น มือและสายตาเราก็เริ่มทำการเสิร์ชหาที่พักและกดจองค่ะ 555555555555555

    ก็อยากไปเที่ยวอ้ะะะ อยากพักผ่อนนน !!!

    ก็นั่นแหละ ทริปเริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาทันใดเมื่อได้ที่พัก จะมามัวลังเลไม่ได้แล้วนะเพราะเสียเงินไปแล้ว สุดท้ายก็ไม่มีข่าวอะไรที่ชลบุรีหลุดออกมา เราก็พอจะโล่งใจขึ้นบ้าง

    พอใกล้ถึงวันเราก็คุยกับน้องว่าจะเจอกันที่ไหน จะเดินทางยังไง สุดท้ายเลือกมาเจอกันที่บีทีเอสหมอชิตตอน 10โมงเช้า นั่งแท็กซี่ไปขึ้นรถตู้ต่อที่ขนส่งหมอชิต2 แล้วค่อยนั่งเรือจากท่าเรือแหลมบาลีฮายไปยังท่าเรือหน้าบ้านที่เกาะล้านค่ะ

    มาเรียบเรียงลำดับการเดินทางใหม่เพื่อความเข้าใจง่ายกัน
    1.) นัดเจอกันที่ BTSหมอชิต/MRTสวนจตุจักร
    2.) นั่งแท็กซี่จาก BTSหมอชิต/MRTสวนจตุจักร ไปยัง วินรถตู้หมอชิต2
    3.) ขึ้นรถตู้ กรุงเทพ-ชลบุรี บอกคนขายตั๋วและคนขับรถตู้ไปเลยค่ะว่าลงที่ท่าเรือแหลมบาลีฮาย
    4.) นั่งเรือจาก ท่าเรือแหลมบาลีฮาย(พัทยา) ไปยัง ท่าเรือหน้าบ้าน(เกาะล้าน)

    ADVERTISEMENT

    (ท่าเรือแหลมบาลีฮาย)

    (ท่าเรือหน้าบ้าน)

    ในที่สุดก็ถึงเกาะแล้ววว !!!

    ด้วยความที่ที่พักของเราอยู่ไม่ไกลจากท่าเรือหน้าบ้าน ใช้เวลาเดินไม่นานนัก ประมาณ 6-7นาที เรากับน้องก็เลยตัดสินใจเดินค่ะ เพื่อจะไปรู้ตอนถึงที่พักแล้วว่าทางที่พักมีบริการรถรับส่งระหว่างที่พัก-ท่าเรือ เรากับน้องก็มองตากันปริบ ๆ แล้วหัวเราะ ก็ไม่รู้อะ ในเว็บจองไม่เห็นมีบอกเลยนี่นา

    เมื่อถึงที่พักแล้วเราก็ทำการเช็คอิน แล้วก็พักผ่อนค่ะ เพราะช่วงที่มาถึงเกาะก็เป็นเวลาบ่ายเกือบจะเย็น เรากับน้องเองก็เหนื่อยจากการเดินทาง เลยขอนั่ง ๆ นอน ๆ ตากแอร์ในห้องก่อนแล้วกัน

    พอเริ่มหายเหนื่อยขึ้นมาได้นิดนึงน้องก็บอกว่าไปคาเฟ่กันมั้ย คือบนเกาะล้านเนี่ยมีคาเฟ่เยอะมาก ๆ เยอะจนน่าตกใจ ระหว่างทางที่เราเดินมาจากท่าเรือจนถึงที่พักคือผ่านคาเฟ่มาแล้ว 4-5ร้าน เห็นจะได้ เอาจริง ๆ เราไม่ใช่สายคาเฟ่ แล้วก็แอบอยากไปหาดช่วงเย็นมากกว่า แต่ถ้าน้องอยากไปคาเฟ่งั้นเราไปคาเฟ่ก็ได้แหละ

    คาเฟ่แต่ละร้านบนเกาะมีธีมต่างกัน ที่แรกที่น้องกับเราเลือกเข้าเป็นคาเฟ่ชื่อ Sea You Again Kohlarn เป็นคาเฟ่สไตล์ 2D ซึ่งสำหรับเรา(ที่ไม่ใช่สายเข้าคาเฟ่เลย)ก็รู้สึกว่าเก๋ดี พื้นที่กว้างขวาง มีมุมถ่ายรูปเยอะ ตลอดระยะเวลาที่นั่งทานอาหารไม่รู้สึกแออัดเลยถึงแม้ว่าในร้านจะมีลูกค้าคนอื่นค่อนข้างเยอะ

    (คาเฟ่ Sea You Again Kohlarn)

    อาหารสำหรับเราถือว่ากลาง ๆ เครื่องดื่มอร่อย แต่สปาเก็ตตี้โบโลเนสยังไม่ถูกปากเราเท่าไหร่ เราชอบซอสที่ทำจากมะเขือเทศสดมากกว่า ไม่ก็มะเขือเทศกระป๋องก็ได้ แต่ของร้านนี้ซอสออกแนวเค็ตชัปอะ ซึ่งส่วนตัว(ย้ำนะคะว่าส่วนตัวมาก ๆ)เราไม่ชอบสปาเก็ตตี้ที่ใส่เค็ตชัป อีกอย่างที่รู้สึกว่าไม่ค่อยถูกปากเราคือบลูเบอรี่ชีสพาย เรารู้สึกว่าส่วนของชีสพายเปรี้ยวเกินไปค่ะ เปรี้ยวมากเลย เราทานเค้กไม่หมดด้วย แอบรู้สึกเสียดายเพราะชิ้นนึงราคาก็ไม่ได้ถูก แต่จะให้กินต่อจนหมดเราก็ฝืนไม่ได้จริง ๆ

    แต่สปาเก็ตตี้อีกจานที่น้องเราสั่งมาถือว่าอร่อยเลยแหละ

    (บลูเบอรี่ชีสพายกับเครื่องดื่มที่สั่งมา)

    (สปาเก็ตตี้โบโลเนส กับครีมผักโขม มั้งนะ...)

    หลังจากทานอาหารและของหวานเสร็จสรรพ ในที่สุดก็ถึงเวลาถ่ายรูปค่ะ เรากัับน้องได้รูปจากที่คาเฟ่แห่งนี้เยอะพอสมควรเพราะมุมถ่ายรูปมีเยอะมาก ๆ และแน่นอนว่าคนที่มาถ่ายรูปก็มีเยอะด้วย ก็คาเฟ่เขาสวยอะเนอะ สวยจริง ๆ อันนี้ยอมให้เลย

    จบจากคาเฟ่เรากับน้องก็เดินไปหาอะไรน่าสนใจกินกันต่อที่ตลาดหน้าวัดใหม่สำราญ แต่เพราะเรายังอิ่มจากสปาเก็ตตี้อยู่เลยได้มาแค่ไข่หมึกทอดกับโค้ก ซึ่งไข่หมึกทอดอร่อยมาก ๆ น้ำจิ้มคือดจีย์! ถูกปากเราที่สุด เปรี้ยว ๆ เค็ม ๆ เผ็ดนิดหน่อยและไม่ติดหวาน ร้านไม่มีชื่อ(หรือมีแต่เราไม่เห็นก็ไม่รู้) แต่เป็นร้านเดียวที่มีไข่หมึดทอดกับกระทะในตลาดแห่งนี้ค่ะ ใครมีโอกาสมาก็อยากแนะนำให้มาลอง

    (ไข่หมึกทอดซึ่งอร่อยมากกก เรคคอมเมนด์!)

    หลังจากเดินตลาดได้ของกินกันมาเรียบร้อยแล้วก็กลับที่พักค่ะ เรานั่งเล่นมือถือต่ออีกพักใหญ่ก่อนจะลุกไปอาบน้ำ แล้วก็ปีนขึ้นเตียงด้วยความล้า คือวันนี้เดินทางเกือบทั้งวันอะตั้งแต่เช้าจนเกือบเย็น เราเหนื่อยมาก ๆ ก็เลยหลับไวสุด ๆ

    เวลาสุดท้ายของวันที่จำได้คือประมาณ 3ทุ่มครึ่ง

    บายเวิร์ล

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in