เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
รีวิวชีวิตฉันนี่แหละhbrxnct
รีวิวไปคอนนักร้องเกาหลีที่ญี่ปุ่น - Day3
  • ผ่านมาเกินครึ่งปีแล้วทริปนี้ก็ยังเขียนไม่เสร็จสักที เอาล่ะ มาเริ่มวันที่ 3 กันเลย

    วันที่ 3 นี้เราตื่นสาย จำได้ว่าตื่นเกือบ ๆ 11 โมงเลยเพราะไม่ต้องรีบไปต่อคิวซื้อของหน้าคอนเหมือนเมื่อวาน (เมื่อวานในที่นี้ = เมื่อวานที่เป็นวันที่ 2 ของทริป) กว่าจะได้ฤกษ์ออกจากห้องก็ปาไปเที่ยงกว่า ๆ

    เพราะเมื่อวานเรารู้แล้วว่ากาแฟที่ร้านอาหารไม่ถูกปากเรา เพราะงั้นก่อนจะขึ้นบัส เราเลยแวะคาเฟ่ที่อยู่แถวนั้นเพื่อหากาแฟสำหรับเช้าวันนี้ดื่ม ด้วยความคาดหวังว่ามันน่าจะถูกปากเรามากกว่ากาแฟในร้านอาหารแบบเมื่อวาน ก่อนจะพบว่าความจริงแล้วรสชาติก็ยังคงไม่ถูกปากเราเท่าไหร่ เหมือนกาแฟที่ญี่ปุ่นจะติดเปรี้ยว คือเป็นกาแฟสดที่หอมแหละ แต่เปรี้ยวอะ แล้วพอใส่ไซรัปใส่นม รสชาติก็ยิ่งแปลกแปร่งไปใหญ่สำหรับเราที่กินกาแฟติดขมหน่อย ๆ มาเกือบทั้งชีวิต แอบเศร้านิด ๆ ที่การหากาแฟถูกปากที่นี่เป็นเรื่องค่อนข้างยากกว่าที่คิดเอาไว้

    (ไม่ได้ถ่ายรูปกาแฟมาเพราะรีบดูดรีบลุกออกจากคาเฟ่)

    วันนี้เราเลือกเดินทางด้วยวิธีเดิม ก็คือขึ้นบัสนั่นแหละ แต่วันนี้มีประสบการณ์เยอะแล้ว ไม่เด๋อแล้ว เราไปถึงหน้าคอนประมาณบ่ายโมงกว่า ๆ พอถึงแล้วก็จัดแจงเดินไปต่อแถวรับการ์ดหน้าคอน (โดยใช้เมมเบอร์ของเพื่อน) เหมือนเมื่อวานอย่างรู้งาน จากนั้นก็เดินสายหาแลกการ์ดต่อจนเริ่มรู้สึกหิว

    คอนวันนี้เปิดให้เข้าตอนบ่าย 3 โมง เราเลยมีเวลากินข้าวน้อยกว่าเมื่อวาน ร้านอาหารที่เลือกเข้าก็คือร้านเดิมนั่นล่ะ แต่วันนี้ขอเปลี่ยนเมนูหน่อย ไม่เอาราเมงแล้ว

    (คัทสึคาเรกับสลัดที่อร่อยยย และกาแฟเปรี้ยวที่มาพร้อมกับเซ็ตอาหาร)

    หลังจากจัดการอาหารเสร็จสรรพก็ใกล้จะได้เวลาเข้าคอน วันนี้เราเข้าคอนเลท เพราะต้องรอเข้าคอนพร้อมกับลูกค้าอีกคนของแม่ค้าที่ขายบัตรให้เรา

    งงปะ มา เราจะอธิบายใหม่

    คือแม่ค้าที่ขายบัตรคอนให้เราเขามีบัตร 2 ใบ/วัน แล้วตอนแม่ค้าเขาส่งต่อบัตรคอนมาให้เรา เขาเลือกส่งมาให้ทางอีเมล เพราะไม่ได้นัดมาเจอหน้ากัน แล้วเหมือนพอเลือกส่งทางอีเมลมันเลยแยกไม่ได้อะว่าจะส่งให้คนนี้แค่ใบเดียว มันมาหมด บัตรก็เลยมากองอยู่ที่เราคนเดียวหมดทั้ง 4 ใบ ทำให้เราต้องรอเข้าพร้อมลูกค้าอีกคนที่เขาซื้อบัตรวันเดียวกับเราอีกที ไม่อย่างนั้นเขาจะเข้าคอนไม่ได้เพราะเขาไม่มีบัตร

    ระหว่างที่รอก็ขอแชะบงกับอารีน่าสักหน่อย

    (ท้องฟ้าวันนี้สวยมาก โล่ง โปร่งไปหมด)

    พอลูกค้าอีกคนมาถึงก็ได้เวลาเข้าคอน และด้วยความที่มันสุ่มที่นั่ง เรากับเขาก็เลยแยกกันเพราะได้ที่นั่งคนละโซน

    (วันนี้เราได้ที่นั่งไกลกว่าเมื่อวาน จริง ๆ แอบเสียดายเพราะอยากลองนั่งในหลุมดู แต่ก็ไม่เป็นไรหรอก ตรงนี้ก็ได้แหละ)

    วันนี้เราสนุกกับคอนได้ไม่เต็มร้อยเท่าไหร่ เพราะมีปัญหากับแอปของธนาคาร คือแอปมันล็อกเอ้าท์ออกเองโดยที่เราไม่รู้ตัว (แล้วแอปก็ไม่แจ้งเตือนเราด้วยว่าทำการล็อกเอ้าท์ออก) แล้วทีนี้เราล็อกอินใหม่ไม่ได้เพราะเวลาที่ล็อกอินธนาคารจะต้องส่ง otp มาให้ทางเบอร์โทรศัพท์ แต่คือตอนนี้เราอยู่ญี่ปุ่นไง ก็เป็นเรื่องเลยเพราะมันส่ง otp มาไม่ได้ ซึ่งวันนี้เป็นวันเงินเดือนของเราออกและเราก็จำเป็นต้องทำธุรกรรมทางการเงินอะ

    จริง ๆ คือเราส่งเมลไปหาธนาคารตั้งแต่เมื่อคืนแล้วแหละ (รู้ตัวว่าล็อกอินเข้าแอปไม่ได้ตั้งแต่เมื่อคืน) แต่เหมือนธนาคารไม่ตอบเมลกลับเราสักที เราค่อนข้างร้อนใจเลยทักแชทเพจของธนาคารไปตั้งแต่ช่วงเที่ยงของวัน  ก็ไม่มีใครตอบอะไรกลับมาทั้งนั้นจนช่วงที่คอนเริ่มอะ ก็ไม่รู้ว่าแอดมินเพจจะมาแอคทีฟอะไรเอาตอนที่เราจะดูคอน ก่อนหน้านี้ที่เรานั่งกินข้าว รอส่งต่อบัตรให้คนอื่นอยู่ตั้งนานสองนานไม่ยักจะแอคทีฟ เราก็เลยดูคอนไปหัวร้อนใส่แอดมินเพจของธนาคารไป

    เอาจริง ๆ คือรู้สึกแย่มาก ๆ เพราะเราตั้งใจจะมาสนุกกับคอนอะ แต่ก็ดันสนุกไม่สุด

    สิ่งเดียวที่พอทำให้ใจสงบลงได้บ้างคือน้องโดยอง ถึงเราจะไม่ได้มีสติอยู่กับคอนอย่างเต็มร้อย แต่เราไม่เคยพลาดช่วงเวลาที่น้องโดยองขึ้นเวทีเลยแม้แต่วินาทีเดียว

    เมื่อไหร่ที่น้องขึ้น เราจะเก็บมือถือ และตั้งใจดูน้องแสดง

    วันนี้น้องก็ยังคงสดใสเหมือนทุกครั้ง และน้องก็ยังคงทำให้เรายิ้มตามน้องได้ตลอดเหมือนทุกทีที่ผ่านมา

    น้องทำให้ความรู้สึกแย่ของเราลดลงไปเยอะมาก ๆ คือไอ้ความรู้สึกแย่ที่เกิดขึ้นกับเราน่ะมันหายไปไม่หมดหรอก (เพราะเรายังคงตบตีกับทางธนาคารจนเกือบหมดวัน) เหมือนอารมณ์เราติดลบอยู่ -100 แต่น้องงัดมันให้ขึ้นมาเป็น +40 , +50 ประมาณนั้น ไม่เต็มร้อยเหมือนเมื่อวาน แต่อย่างน้อย ๆ ก็ไม่ติดลบเหมือนช่วงที่เริ่มคอน

    วันนี้คอนจบลงด้วยความรู้สึกเสียดายของเรา เสียดายที่วันนี้เราสนุกกับคอนได้ไม่เต็มที่ เสียดายที่วันนี้อารมณ์เราไม่ดีเท่าที่ควร มันไม่ได้อิ่มเอมแบบเมื่อวานทั้งที่มันควรจะเป็นแบบนั้น และไอ้ปัญหาล็อกอินแอปธนาคารไม่ได้ก็คาราคาซังมาจนจบคอน (แน่นอนว่าเราหงุดหงิดธนาคารมาก และเหวี่ยงใส่แอดมินที่ตอบไปไม่น้อยเลย)

    วันนี้เราไม่ได้ตรงกลับที่พักเลยทันทีหลังคอนจบเหมือนเมื่อวาน แต่ตัดสินใจไปเดินหาของฝากที่ห้างตรงสถานีรถไฟเพราะกลัวว่าพรุ่งนี้จะมีเวลาไม่พอ

    ตอนไปถึงห้างก็ค่อนข้างค่ำมากแล้ว เกือบ 2 ทุ่มเห็นจะได้ ทำให้มีเวลาเดินดูไม่เยอะเท่าไหร่ ตัวเราเองก็ไม่ค่อยรู้เรื่องของฝากอะไรมากนัก เลยแชทถามเพื่อนบ้าง สุ่ม ๆ หยิบอันที่ดูน่าสนใจมาบ้าง

    (ชั้นขนมในร้านของฝาก)

    (อันนี้เป็นชั้นสาเกที่มีเยอะมากกก หลากรูปแบบหลายยี่ห้อ)

    เพื่อนเราบอกว่าของขึ้นชื่อของฟุกุโอกะคือเมนไทโกะ แล้วน้องโดยองก็ชอบกินด้วย เราเลยลองเดิน ๆ หาดู ร้านขายเมนไทโกะที่นี่มีเยอะมากกก คือมีหลายร้าน แล้วแต่ละร้านก็มีหลายแบบ หลายสูตร ทั้งแบบเป็นชิ้น ๆ ก้อน ๆ แบบหลอดบีบ สูตรไม่เผ็ด เผ็ดน้อย เผ็ดมาก ผสมมาโย ฯลฯ

    (ตู้ขายเมนไทโกะ ก็คือเยอะมากจริง ๆ)

    สุดท้ายเราตัดสินใจซื้อแบบหลอดมาลอง รสชาติแบบไข่ปลา เค็ม ๆ มัน ๆ หลอดที่เราซื้อมาแอบเผ็ดนิดหน่อย เราไม่รู้คนอื่นเขากินกันยังไงบ้างนะ แต่เราชอบบีบกินกับแครกเกอร์อะ ละคืออร่อยมากกก

    (เมนไทโกะแบบหลอดบีบที่ซื้อมา อร่อยยย)

    หลังจากที่ภารกิจซื้อของฝากเสร็จสิ้นก็ได้เวลาตามหามื้อค่ำ เราเดินสุ่ม ๆ ขึ้นไปบนชั้นที่เป็นชั้นของร้านอาหาร ซึ่งหลายร้านก็กำลังจะปิดเพราะมันก็เริ่มดึกแล้ว เราเดินหาร้านที่จะกินอยู่พักใหญ่ และในที่สุดก็มาจบที่ร้านซูชิร้านหนึ่ง

    และก็เลือกสั่งเซ็ตซูชิกับข้าวหน้าปลาดิบรวมมา ซึ่งในเซ็ตมีปลาทูน่าด้วย ปกติเราไม่ค่อยชอบกินปลาทูน่าสักเท่าไหร่ คือกินได้แหละ แต่ถ้าให้เลือกก็ไม่กินดีกว่า เพราะเคยกินที่ไทยแล้วมันมีกลิ่นคาวเลือด แต่ของที่นี่ไม่มีกลิ่นแบบนั้นเลย ประทับใจ เรื่องปลาดิบนี่ต้องยกให้ญี่ปุ่นเลยจริง ๆ

    (ทั้งหมดนี้คืออร่อยมากกก มาก ๆ ๆ ๆ ๆ)

    ระหว่างที่เรากำลังรออาหาร พนักงานธนาคารก็ติดต่อกลับมา เราก็คุยธุระไปรออาหารไป บทสรุปคือเราไม่สามารถล็อกอินเข้าแอปธนาคารและทำธุรกรรมต่าง ๆ ได้จนกว่าจะกลับถึงไทย ซึ่งพอถึงตอนนั้นเราก็เริ่มปลงแล้วแหละ และก็ขอพูดตรงนี้เลยแล้วกันว่าแอปของธนาคารธนชาติเป็นแอปที่ห่วยแตกจริง ๆ (เนี่ย จนถึงตอนนี้นึกย้อนไปแล้วก็ยังโมโหอยู่เลย)

    หลังจากอิ่มหนำ ก็ได้เวลาเดินกลับโรงแรม

    ใช่...เดิน...

    ระยะทางจากสถานีรถไฟไปโรงแรมสิริรวมแล้วก็เป็นกิโลอยู่ แต่เราเดินได้เรื่อย ๆ แบบไม่หอบไม่เหนื่อยเลย อาจเพราะอากาศเย็นด้วยส่วนหนึ่ง แล้วก็เรื่องถนนหนทาง ฟุตปาธที่ทำให้เดินได้สะดวกมาก ๆ ด้วยอีกส่วน

    ก่อนกลับก็แอบแชะต้นคริสมาสต์หน้าห้างสักหน่อย

    (ของจริงคือทั้งสูงแล้วก็ใหญ่ ฟีลเดียวกับที่เคยเห็นในอนิเมะญี่ปุ่นเลย คนค่อนข้างเยอะด้วย)

    หลังจากกลับมาถึงโรงแรมก็อาบน้ำ แพ็คของลงกระเป๋าเตรียมตัวเดินทางกลับในวันพรุ่งนี้

    หลังจากที่จัดการทุกอย่างเสร็จสรรพก็ได้เวลานอน

    บ้ายบายวันที่แสนจะหัวร้อน

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in