เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
รีวิวชีวิตฉันนี่แหละhbrxnct
รีวิวทริปดำน้ำเกาะเต่า-เกาะนางยวน
  • ตอนแรกว่าจะไม่เขียนบันทึกทริปที่ไปมาวันนี้แล้วเพราะขี้เกียจ แต่พอนั่งคิดนอนคิดอีกทีมาเขียนไว้สักหน่อยก็น่าจะดี เผื่อวันข้างหน้าเราหากเราเผลอหลงลืมความประทับใจอะไรไปจะได้ย้อนกลับมาอ่าน แล้วก็นึกถึงมันได้อีก

    คือเราไม่ใช่คนถ่ายรูปเก่ง จริง ๆ คือไม่ค่อยชอบถ่ายรูปเลย เพราะงั้นเวลาไปเที่ยวที่ไหนเลยไม่ค่อยมีรูปเก็บไว้ดูอะ ทริปที่ไปวันนี้ก็มีรูปอยู่ไม่ถึงสิบรูปด้วยซ้ำมั้ง แต่เดชะบุญที่เป็นคนชอบเขียน

    เพราะงั้น เราจะถนอมความทรงจำทุกอย่างเอาไว้ด้วยการเขียนบันทึกนี่แหละ

    เท้าความก่อนว่าเราได้มีโอกาสมาทำงานที่เกาะพะงัน ซึ่งก็มาอยู่ได้เกือบสามสัปดาห์แล้วแหละ(ณ วันที่ไปทริปนะ) แล้วคือเราแทบไม่ได้พักเลย ปกติตอนอยู่กทม.เราทำงานเสาร์เว้นเสาร์ แต่พอมาเกาะคือทำทุกเสาร์เลยเพราะมันไม่รู้จะไปไหนจริง ๆ แล้วที่พักเราอยู่หลังเขาอะ คือหลังเขาแบบที่ต้องข้ามเขาทั้งลูกมาเลย ซึ่งมันหารถไปเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ บนเกาะยากมากกกกกกกกกกกกก

    พอถึงวันอาทิตย์ที่เป็นวันหยุดเดียวก็เลยเอาแต่นอน นอนมันทั้งวันเพราะเหนื่อยมากจริง ๆ เราเลยแบบ ไม่ได้แล้ว มาอยู่เกาะนี่ใจคอจะไม่ได้พักไม่ได้ไปเที่ยวไหนเลยจริง ๆ เหรอ ก็เลยตัดสินใจหาทริปดำน้ำตื้นดูเพราะเคยรู้มาว่าที่เกาะเต่าที่อยู่ไม่ไกลจากเกาะพะงันเท่าไหร่มีแหล่งดำน้ำอยู่

    อีกอย่างคืออยากหนีงานด้วยแหละ ถ้าเราไม่ไปเที่ยวสุดท้ายแล้วก็ไม่พ้นไปนั่งทำงานอยู่ดี เลยไปเที่ยวดีกว่าเนอะถ้าอย่างนั้น

    พอตัดสินใจได้แล้วว่าเอาล่ะ! ฉันจะไปดำน้ำเกาะเต่าวันเสาร์นี้ เราก็บอกคนในแผนกเลยว่าวันเสาร์นี้เราไม่อยู่นะ ตอนแรกพี่ในแผนกแนะนำให้ไปค้างที่เกาะเต่าสักคืนแล้วก็เช่ารถมอเตอร์ไซค์ขี่เที่ยวรอบ ๆ เกาะ แต่ด้วยความที่เราขี่รถมอเตอร์ไซค์ไม่เป็น ขับรถก็ไม่เป็น ทำอะไรไม่เป็นเลย นั่งได้อย่างเดียว ไอ้การจะไปค้างบนเกาะมันเลยดูลำบากลำบนเกินไปสำหรับเรา เลยตัดสินใจว่าหาทริปเถอะ เพื่อความสบายและไม่เหนื่อย

    เราก็เสิร์ชกูเกิ้ลไปโง่ ๆ เลยว่าทริปดำน้ำเกาะเต่า ทีนี้ก็จะมีเว็บจองทัวร์ผุดขึ้นมาเป็นสิบ ก็นั่งจิ้ม ๆ ๆ เลือก ๆ ๆ โน้ตเอาไว้ว่าของเว็บไหนน่าสนใจบ้าง

    ทีนี้ด้วยความที่ที่พักของเรามันอยู่หลังเขา การเดินทางจะไปท่าเรือที่ต้องขึ้นเรือมันลำบาก เราก็เลยมีเงื่อนไขเพิ่มมาอีกอย่างหนึ่งว่าต้องเลือกทริปที่มีรถมารับถึงที่พักนะ

    เราก็เลือกดูรายละเอียดทริปของแต่ละเว็บ จนมาเจอของลมพระยาที่เขียนบอกเอาไว้ว่ามี mini bus & boat transfer รวมอยู่ในทริป แต่ด้วยความที่เราไม่แน่ใจว่า mini bus ของเขาต้องไปขึ้นตามจุดนัดหรือว่าเขาจะมารับถึงหน้าที่พักกันแน่ เพื่อนที่แผนกเลยให้เราลองโทรไปถามที่บ.ทัวร์ดู เราก็เลยโทรไป

    ต้องบอกก่อนนะว่าเราไม่เคยมีประสบการณ์ไปทริปดำน้ำตื้นแบบนี้เลย นี่เป็นครั้งแรกในชีวิต รวมถึงการโทรไปหาบ.ทัวร์ด้วย แต่พนักงานที่รับสายเขาให้คำแนะนำดีมาก เราถามเขาว่าถ้าจะให้รถมารับถึงที่พักต้องจ่ายค่าอะไรเพิ่มเติมหรือเปล่า เขาก็บอกว่าไม่ต้องค่ะ ทางบ.มีบริการไปรับถึงที่พักอยู่แล้ว แล้วคือเขาพูดเพราะ อธิบายดี เราเองก็เลยโอเค เราจะจองของบ.นี้แหละ ก็ถามต่อเขาไปอีกว่าเราต้องจองยังไง จองผ่านทางโทรศัพท์ไหมหรือว่าจองผ่านเว็บได้เลย(เพราะตอนนั้นเปิดหน้าเว็บอยู่) พนักงานก็บอกว่าจองผ่านเว็บได้เลยค่ะ เราก็โอเคคค ขอบคุณมากนะคะ วางสายไปแล้วก็จัดการจองทริปเลย

    พอจองเสร็จจ่ายเงินเสร็จเรียบร้อยก็เหลือแต่การเตรียมตัวไปเที่ยว อันที่จริงเราแอบมีปัญหาเกี่ยวกับการจองนิดหน่อยคือเราจ่ายเงินไปแล้ว เงินในบัญชีเราตัดไปเรียบร้อยแล้วแต่สถานะการจองในเว็บเป็นล้มเหลว เราก็เลยโทรไปที่บ.ทัวร์อีกครั้ง เขาก็จัดการทุกอย่างให้ เราเลยรู้สึกชอบการให้บริการของเขา

    แล้วหลังจากนั้นเขาก็จะโทรมาแจ้งเวลาที่รถจะมารับ แล้วก็บอกว่าเราต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง ซึ่งก็ไม่ได้วุ่นวายอะไรเลย มีแค่ใบจองทริปกับบัตรประชาชนที่ต้องใช้ตอนขึ้นเรือแค่สองอย่าง



    พอวันรุ่งขึ้น เราตื่นตั้งแต่ 6.20น. เอาจริง ๆ ปะ ตื่นไปทำงานยังไม่เช้าขนาดนี้เลยยย แน่นอนว่าเราง่วงมาก มากมากมาก พอรถมารับตอน 7โมงกว่าเราก็หลับ หลับตลอดทางจนไปถึงจุดรับบัตรทัวร์ เราก็เอาใบจองทริปของเรานี่แหละยื่นให้เขาไป แล้วก็จะได้สายรัดข้อมือสีดำมาติดอยู่บนข้อมือเพื่อให้พนักงานคนอื่น ๆ รู้ว่าเรามากับทัวร์นะ

    เราก็นั่งรอให้เรือมาอยู่พักหนึ่ง พอขึ้นเรือก็จะมีไกด์ท้องถิ่นมาแนะนำตัว แล้วเขาก็ให้เซ็ตมื้อเช้ามาหนึ่งถุง ข้างในมีครัวซองต์กับเดนิสชิ้นไม่เล็กไม่ใหญ่ กล้วยหอม แตงโม 2ชิ้น แล้วก็ชา

     (ในรูปคือเรากินครัวซองต์กับดื่มชาหมดไปแล้วเพราะชามันร้อนมาก ไม่มีที่วาง กลัวหกเลยต้องรีบกิน)

    เอาจริง ๆ เห็นนิด ๆ หน่อย ๆ แบบนั้นแต่ก็อยู่ท้องเลยแหละ พอเรากินเสร็จปุ้บก็หลับ คือเรือมันโคลงแล้วเราเป็นพวกเมารถเมาเรือง่ายอะ เลยต้องชิงหลับก่อนจะอ้วก แต่ก็ไม่ได้หลับสนิทนักหรอก ก็มันเป็นเรืออะเนอะ จะให้สบายเหมือนนอนบนเตียงคงไม่ได้

    พอตื่นมาอีกทีก็พบว่าตัวเองมาถึงเกาะนางยวน ซึ่งเป็นจุดต่อเรือที่จะไปยังเกาะเต่า ซึ่ง ๆ ๆ ๆ ซึ่งน้ำทะเลที่นี่ใสมากกก มากมากมาก ใสจนแค่เราเห็นก็รู้สึกตื่นเต้นแล้วอะ มันใสจนเห็นหินเห็นทรายด้านล่างเลย


    ยืนมองพวกปลาตัวเล็กตัวน้อยในน้ำทะเลใส ๆ ได้ไม่นานเรือที่จะพาเราไปยังเกาะเต่าก็มาถึง เราก็จัดแจงพอกครีมกันแดดอย่างหนาเพราะกลัวแดดเผา แล้วไกด์เขาก็จะมาแนะนำตัว แนะนำไกด์คนอื่นในทริป แล้วก็แนะนำเกาะเต่าแบบคร่าว ๆ ว่ามีประวัติมีหมู่บ้านอะไรบ้าง อ่าวที่เราจะไปดำน้ำกันคืออ่าวอะไร ใส่สน็อกเกิลดำน้ำยังไง หากต้องการความช่วยเหลือให้ทำอย่างไร ไกด์เอนเตอร์เทนดีมาก เพราะงั้นคนที่ไปเที่ยวคนเดียวไม่ต้องกลัวเลยว่าจะเฉา ๆ เหงา ๆ (ใช่ค่ะ เราไปทริปนี้คนเดียวแหละะะ)

    ก่อนลงน้ำไกด์บอก don't talk with fish and don't feed fish เหมือนห้ามเลยนะอันนี้ ห้ามให้อาหารปลาเหรอ ใช่ แล้วก็ห้ามพูดกับปลาด้วย เพราะนอกจากจะพูดกันไม่รู้เรื่องแล้วน้ำมันจะเข้าสน็อกเกิ้ลแล้วเราจะสำลักน้ำทะเลเอาได้

    พอถึงเวลาลงน้ำก็จะเริ่มตื่นเต้น เราแบบ ตื่นเต้นมากกก เรือจะจอดห่างจากทุ่นที่กั้นแนวปะการังประมาณ 500-600เมตร อันนี้คือเราไม่รู้ระยะทางที่แน่นอนนะ เรากะเอาจากสายตาอะ แต่กว่าจะว่ายน้ำจากเรือไปถึงทุ่นก็เหนื่อยอยู่ แต่คือน้ำใสมากจริง ๆ แล้วพอมองลงไปด้านล่างอะมันก็จะเห็นแสงที่ส่องผ่านน้ำแล้วก็สะท้อนลงไปทนพื้นทราย ซึ่งแค่นี้ก็สวยแล้วอะ ขนาดยังไม่เห็นปลาเลยนะ

    แล้วพอว่ายน้ำไปใกล้ ๆ ทุ่นก็จะเริ่มเห็นปลา เราตื่นเต้นมากจริง ๆ ปลาเป็นฝูงเลย ฝูงใหญ่ด้วย ปลาพวกนั้นจะว่ายน้ำอยู่ใกล้ ๆ ปะการังอะ แล้วก็จะชอบว่ายจากปะการังขึ้นมาบนผิวน้ำ แล้วก็ว่ายกลับลงไปที่ปะการัง ว่ายแบบนี้วนไปวนมาจนสงสัยว่าไม่เหนื่อยบ้างรึไงน้าาา เราก็ว่ายไปใกล้ปลาเรื่อย ๆ แล้วคือปลาไม่กลัวคนเลยอะ เฉยชากับเรามาก แต่จับไม่ได้นะ เราลองเอื้อมมือจะไปแตะ ๆ ดูปรากฎว่าว่ายหนีไม่ยอมให้จับอะ

    ก็คือว่ายน้ำเล่นกับฝูงปลาอยู่พักใหญ่ด้วยอินเนอร์ของแอเรียล ฉันเป็นนางเงือก ฉันเป็นเพื่อนกับปลาพวกนี้ จนเราเหนื่อย ไม่ว่ายละ ปล่อยให้ตัวเองนอนคว่ำหน้าลอยเท้งเต้งไปกับทะเล ปรากฎว่าเกิดอะไรขึ้นรู้ปะ ปลาที่ปกติเวลาเราเอื้อมมือไปหาแล้วว่ายหนีอะ พวกนางค่อย ๆ ว่ายมาหาเราเว้ย คือพวกนางก็ว่ายขึ้นว่ายลงระหว่างปะการังกับผิวน้ำปกติของพวกนางนี่แหละ แต่แทนที่จะว่ายเลี่ยงตัวเราไป พวกนางว่ายผ่านหน้าเราไปเลยอะ แบบ เฉียดแก้ม เฉียดตัวเราอะ แล้วมีตัวนึงว่ายมาตอดแขนเราด้วย

    เราเลยได้ทริคในการดำน้ำตื้นมาข้อหนึ่ง(ซึ่งพิสูจน์แล้วด้วยตัวเอง) ว่าเราต้องอยู่นิ่ง ๆ แล้วปลาจะมาหาเราเองโดยที่เราไม่ต้องเหนื่อยเลย

    (ไม่ได้ถ่ายรูปตอนดำน้ำมาเพราะเอาโทรศัพท์มือถือลงน้ำไม่ได้ เลยวาดรูปมาแปะแทนนะ)

    เราก็ลอยเฉย ๆ แล้วปล่อยให้ปลาว่ายผ่านเราไปพักใหญ่จนรู้สึกเวียนหัว แบบพอเราลอยตัวนิ่ง ๆ ตัวเราก็จะโคลงไปตามคลื่นทะเลอะ และใช่ เราเวียนหัว แบบจะคลื่นไส้

    นาทีนั้นคำพูดของไกด์ที่ว่า don't feed fish นี่รีพีทย้ำในหัวเราซ้ำ ๆ เราเลยแบบ กลับขึ้นเรือเถอะ ไกด์เขาบอกห้ามให้อาหารปลา เพราะงั้นเราจะอ้วกในทะเลไม่ได้!

    สุดท้ายก็เลยตัดสินใจกลับขึ้นเรือดีกว่า กลับมาล้างเนื้อล้างตัว สักพักคนอื่น ๆ ก็ทยอยตามขึ้นเรือมา บนเรือก็มีพวกเครื่องดื่ม น้ำเปล่าน้ำอัดลมให้ดื่ม แล้วก็มีแตงโมมม แตงโมที่หวานมากกก ฉ่ำมากกก อร่อยมากกก ไม่รู้ว่าเพราะเหนื่อยและอยู่แต่ในน้ำเค็มหรือเปล่า พอมาเจออะไรหวาน ๆ สดชื่น ๆ เลยรู้สึกว่ามันอร่อย

    พอทุกคนมากันครบก็กลับไปที่เกาะนางยวนเพื่อกินมื้อกลางวัน และด้วยความที่เราไปกับทัวร์ เราเลยได้กินข้าวบุฟเฟต์ที่นั่น อาหารวันที่เราไปก็มีพวกผักสลัด ข้าวเปล่า ข้าวผัด ทอดมัน ผัดผักรวม แล้วก็แกงกะหรี่ไก่แบบไทย ซึ่งเราอะชอบแกงกะหรี่ไทยอยู่แล้ว มื้อนี้เลยค่อนข้างแฮปปี้

    พอทานมื้อเที่ยงเสร็จไกด์ก็พาขึ้นไปยัง view point ของเกาะนางยวน ซึ่งเหนื่อยมากเพราะเป็นทางขึ้นเขาและมันแอบน่ากลัวนิด ๆ ตรงที่ต้องปีนหินขึ้นไปอีกต่อหนึ่ง เราได้แผลที่เข่ามาด้วยนิดหน่อยเพราะปีนพลาด วิวสวยมากนะ แต่มันเหนื่อยแล้วก็คนเยอะอะ


    แล้วความเด๋อของเขาก็คือ เราทำโทรศัพท์มือถือตกลงไปในร่องหินอะ จริง ๆ เรียกว่าเราทำครึ่งหนึ่งดีกว่า คือเราอะจะไปถ่ายรูปตรงหินที่หันออกไปทางทะเล เราเลยเอามือถือเราวางไว้บนหินก้อนใหญ่ ๆ ที่อยู่ตรงเขา แต่มันก็ไม่ได้มีแค่มือถือของเราอย่างเดียวนะ เพราะก็มีพวกหมวก พวกสน็อกเกิลของนักท่องเที่ยวคนอื่นวางอยู่ด้วยเหมือนกัน แล้วทีนี้เหมือนมีนักท่องเที่ยวคนหนึ่งเขาจะหยิบของ ๆ เขา แต่มันดันเขยื้อนมาถึงโทรศัพท์เรา เท่านั้นแหละ มันร่วงลงไปในร่องหินเลยจ้าาา บุญเหลือเกินที่มันไม่ร่วงตกเขาไป ไม่งั้นก็บ้ายบาย ซื้อเครื่องใหม่ ไม่ต้องตามหาแล้วซากมือถืออะ

    (ร่องหินตรงกลางนั่นแหละที่โทรศัพท์มือถือเราร่วงลงไป)

    พอลงจาก view point ก็มีดำน้ำต่อ เพราะที่เกาะนางยวนเองก็มีจุดดำน้ำเหมือนกัน แต่เราไม่ไหวแล้วเลยขอหลบมานั่งพักดื่มโค้กให้สดชื่นที่ร้านอาหารดีกว่า อีกอย่างเราไม่สู้แดดด้วยเพราะมันเป็นช่วงบ่ายแล้ว แดดกำลังจัดเลย เรากลัวแดดเผาแล้วมันจะแสบอะเลยไม่ไป แต่พี่ที่ไปเขาบอกว่าที่เกาะนางยวนมีหอยเม่นเยอะมากกก เราเลยคิดว่าถ้ามีโอกาสมาอีกรอบจะมาดำน้ำที่เกาะนางยวนด้วย อยากไปเห็นหอยเม่นตัวเป็น ๆ ปกติเจอแต่ชิ้นส่วนที่อยู่บนหน้าซูชิ แอ่ะ ๆ ๆ

    แต่น้ำที่เกาะนางยวนใสมาก ๆ เลย เนี่ย ดูดิ จากใจเลยนะเราเคยไปเที่ยวทะเลมาแล้วหลายที่ ไม่ว่าจะภูเก็ต พังงา กระบี่ ตรัง สงขลา แต่ไม่มีที่ไหนที่น้ำจะใสจนเห็นทุกอย่างด้านล่างเหมือนเกาะนางยวนเลย มันแบบ ประทับใจมากจริง ๆ

    (น้ำทะเลเป็นสีฟ้าอะ สวยมากกก)


    (ใสจนเห็นหินในน้ำเป็นก้อน ๆ เลย)

    หลังจากที่นั่งพักนั่งดูวิวไปได้พักใหญ่ก็ถึงเวลากลับ อ้อ เราจะบอกว่าห้องน้ำบนเกาะนางยวนน่ะไม่มีน้ำสำหรับล้างก้นนะ แล้วก็ไม่มีกระดาษให้ด้วย เราแนะนำให้พกทิชชู่เปียกกับกระดาษทิชชู่ไปเอง แล้วก็น้ำตรงอ่างล้างหน้าน่ะ ถ้าจะล้างหน้าก็ห้ามลืมตาเด็ดขาดเลย เพราะว่ามันเป็นน้ำทะเล ฮื่อออ คงเป็นจุดนี้จุดเดียวแหละมั้งที่เราแบบ แอบเซ็งนิดนึง เพราะเราอยากได้น้ำจืดมาล้างหน้าล้างตัวมากกว่าอะ แต่ก็เข้าใจนะว่ามันเอาขึ้นเกาะมายาก เลยโอเค น้ำทะเลก็น้ำทะเล

    ขากลับก็ไม่มีอะไรมาก นั่งเรือเล็กไปที่เกาะเต่า แล้วก็ขึ้นเรือเกาะเต่ากลับมายังเกาะพะงัน ขึ้นรถจากท่าเรือกลับที่พักของเรา เป็นอันจบทริป

    ทริปนี้เราออกจากที่พักประมาณ 7.10น. กลับมาถึงที่พักประมาณ 17.20น. เป็นสิบชั่วโมงที่ดีต่อใจมาก ๆ คุ้มค่ามาก ๆ สำหรับเรา เราประทับใจมากจริง ๆ และคิดว่าถ้าได้อยู่พะงันจนถึงวันเสาร์ที่เราหยุดครั้งต่อไป เราก็คงไปซ้ำทริปนี้อีก ฮื่อออออ มันดจีย์!




    รายละเอียดและค่าใช้จ่ายในทริปนี้ :

    - ทัวร์ดำน้ำตื้นเกาะนางยวน โดยคาตามารัน(เกาะพะงัน) ของลมพระยา 2000฿
    - โค้ก(บนเกาะนางยวน) 45฿

    รวมทั้งหมด 2045฿

    คุ้ม! มาเถอะ!!!

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in