Day 3: 28 April 2019
หลังจากเมื่อวานที่ไม่เชื่อเจ้าของที่พัก วันนี้ก็ซื้อทริปไป Jade Dragon mountain หรือ ภูเขาหิมะมังกรหยกกับเจ้าของที่พัก โดยเค้าจะคุยกับทัวร์ที่พาไปให้ ซึ่งเป็นกลุ่มเล็ก ไม่เกิน 15 คน คนละ 600 หยวน ซึ่งจะได้เที่ยว blue moon valley ตั๋วขึ้นภูเขาหิมะ ดูโชว์ Impression Lijiang รวมทั้งข้าวกลางวันและรถรับส่งทั้งไปและกลับ กระป๋องออกซิเจน เสื้อสีแดงกันลม
จริงๆแล้ว สามารถเหมารถและไปซื้อตั๋วเองได้ท้้งหมดนะ อันนี้แล้วแต่คนเลยว่าจะทำแบบไหน แต่เราคิดว่าราคานี้เราโอเคแล้ว ไม่งั้นต้องหารถ สุดท้ายก็ต้องเหมารถไปอยู่ดี แล้วตั๋วเข้าสถานที่ต่างๆ ก็ต้องไปต่อแถวซื้อ เรียกว่าซื้อความสบายระดับนึง เดี๋ยวยังไงก็ต้องไปลำบากตอนปีนภูเขาอยู่แล้ว
ภาพระหว่างทางไป blue moon valley
blue moon valley
การเดินทางในนี้สะดวกเพราะเราจะขึ้นรถไปตามจุดต่างๆ ก็คือเดินตามคนอื่นได้เลยไม่ต้องคิดอะไร อยากถ่ายรูปตรงไหนก็เดินไปถ่าย แต่การเดินรถจะเป็นทางเดียว นั่งย้อนกลับไม่ได้ ที่นี่อากาศดีมาก เดินสบายๆ และวิวก็สวย ในรูปว่าสวยแล้ว ของจริงสวยกว่านี้มาก
ภาพที่เห็นคือภูเขาจะสะท้อนในน้ำ
ตรงนี้ก็เป็นทางเดิน ถ่ายรูปสวย มีคนมาถ่าย pre wedding หลายคู่
ช่วงบ่ายมาดู Impression Lijiang คือถ้ามาแล้วแนะนำให้ดูนะ เป็นโชว์อลังการมาก ละเค้ามี subtitle ภาษาอังกฤษอยู่ เป็นการแสดงเล่าเรื่อง เนื้อหาของการแสดงตามที่เราเข้าใจก็คือจะแบ่งเป็น 6 ตอน การแสดงจะสะท้อนวิถีชีวิตของชนกลุ่มน้อยและความเชื่อเกี่ยวกับความศักดิ์สิทธิ์ของเทพในภูเขาหิมะมังกรหยก (Jade dragon snow mountain) พร้อมกับฉากหลังคือภูเขาหิมะแบบนี้
หลังจากดูโชว์เสร็จ ต่อไปคือเดินทางไปภูเขาหิมะมังกรหยก ระหว่างทางก็จะเห็นภูเขาหิมะใกล้ๆ และอากาศก็เริ่มเย็นขึ้นเรื่อยๆ
ต่อแถวนั่งกระเช้าขึ้นมาก่อน และต่อไปจะเป็นทางบันไดให้เดินขึ้นไปเรื่อยๆ ตอนเดินสำหรับเราก็จะแบบหายใจไม่ค่อยออก ละ heart rate สูงมาก ต้องพ่นออกซิเจนทุก 10 ขั้นบันได แต่ถ้าเป็นคนออกกำลังกายมา คิดว่าไม่มีปัญหา แต่เราแบบไม่ได้ออกเลยช่วงก่อนมาเที่ยว
ทางขึ้นกระเช้า
รอบๆ เป็นภูเขาหิมะทั้งหมด
บันไดที่เดินขึ้นมาที่ระดับสูงสุด
พอขึ้นมาถึงก็สวยมาก มองลงไปก็สวยจริงๆ แต่บนนี้หนาวมากๆ แบบลมก็แรงสุดๆ คือหน้าชา ขนาดใส่ถุงมือก็มือแข็งมือชา แบบไม่รู้สึกอะไรแล้วววว ถุงร้อน Hot hand ที่เอาไปก็ไม่ช่วย
ระดับ 4680 m จากระดับน้ำทะเล
เรากะเวลาเดินลงไปตอนประมาณ 4 โมงครึ่ง เพื่อไปสถานีกระเช้าที่เพื่อนนั่งรออยู่ ตอนนั้นแบตโทรศัพท์ใกล้หมดเพราะอากาศเย็น เลยต้องเริ่มเดินลง และกระเช้าก็มีเวลาปิดด้วย ตอนเดินลงไม่เหนื่อยเท่ากับตอนขึ้นและใช้เวลาน้อยกว่า
หลังจากลงเขา ก็กลับมาแวะ old town อีกรอบ หาข้าวกินกัน ตอนกลางคืนเปิดไฟสวยมากๆ ชอบตรงที่เค้าคุมโทนร้านค้าให้เหมือนกันหมด
Old town ตอนกลางคืน
รูปนี้เป็นรูปที่เราชอบ เพราะเป็นของฝรั่งอะ pizza กับ starbuck แต่ต้องอยู่ใน old town จีน ก็คือปรับภาพลักษณ์แนวโรงเตี้ยมย้อนยุคไปอีก ข้างในก็ตกแต่งเป็นแนวจีนๆ เหมือนกัน พวกเราก็เดินเล่นแปบนึง ก็นั่งรถเมล์กลับที่พัก พรุ่งนี้ไปแชงกรีล่าต่อ เย้
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in