เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
I LOVE NOT MAN THE LESS, BUT BOOKS MORE PT. IIรั่วชิงบ้านสกุลหาน
(Book) รีวิว ทะเลคลั่งภวังค์วิปลาส เล่ม 1
  • 📗 REVIEW: #ทะเลคลั่งภวังค์วิปลาส
    ผู้เขียน : เหลียงฉาน
    ผู้แปล : mykLiu
    #EverY
    4 เล่มจบ
    .


    *รีวิวนี้มีการเปิดเผยเนื้อหาบางส่วน*
    .
              บนโลกที่มีทั้งมนุษย์ธรรมดาและมนุษย์พิเศษอาศัยอยู่ปะปนกัน แน่นอนว่าในบรรดามนุษย์พิเศษที่มีความสามารถเหนือคนธรรมดาย่อมต้องมีผู้ดูแลรักษากฎ และนี่คือบทบาทของหน่วยงานที่ชื่อว่า ‘สำนักงานวิกฤตการณ์’
    .
              "ฉินเกอ" คือไกด์ที่จัดว่าเป็นมนุษย์พิเศษประเภทหนึ่งซึ่งทำงานอยู่ในสำนักงานแห่งนี้ เดิมทีเขาประจำอยู่ที่ห้องเก็บเอกสารด้วยจุดประสงค์บางอย่าง หลังทำงานอย่างสันโดษกับกองเอกสารมาสักระยะ ในที่สุดก็มีคนเล็งเห็นความสามารถของเขา นั่นทำให้เขาได้เลื่อนตำแหน่งขึ้นเป็นหัวหน้าแผนกที่เกี่ยวข้องกับสภาพทางจิต โดยแผนกที่ก่อตั้งขึ้นใหม่นี้มีชื่อว่า ‘แผนกปรับสมดุลทางจิตเวช’ และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาได้พบกับ "เซี่ยจื่อจิง" เซนติเนลมากความสามารถที่เกิดปัญหาบางอย่างภายใน ‘อาณาเขตทะเล’ หรือเขตแดนจิตวิญญาณจนถูกสั่งพักงาน ทว่าเมื่อพวกเขาได้เจอหน้ากันครั้งแรกอีกฝ่ายกลับเอ่ยปากทักฉินเกอว่า... “ฉันเป็นแฟนเก่าของนายไง”
    .
              ทุกคน มันดีมาก *อุดปากกรี๊ด* 

              คือตอนซื้อมาไม่ได้คาดหวังเลย เพราะส่วนตัวเฉยๆ กับแนวเซนติเนล/ไกด์ + อ่านตัวอย่างไปไม่กี่ตอน + อ่านหลางตี๋ (งานเขียนเก่าคุณนักเขียน) ไม่จบ แต่ชอบปกมาก เพราะคิดว่าปกนิยายวายไม่จำเป็นต้องเอาตัวละครมนุษย์มาขึ้นปกอ่ะ พอมาแหวกแนวแบบนี้แล้วหยิบเอามนุษย์ไปทำเป็นจิบลิแถมในเล่มมันเลยรู้สึก เออ น่าสนใจ
    .
              พออ่านแล้วสิ่งแรกที่รู้สึกได้คือ นี่มันเป็นเซนติเนล/ไกด์ที่ยำรวมทุกอย่างมาเลย ซอมบี้ มนุษย์หมาป่า อะไรพวกนี้มาหมด คือเป็นโลกที่มีมนุษย์พิเศษเดินท่อมๆ ไปมาก็ว่าได้แหละ ตัวเซนติเนลและไกด์เองก็มีสิ่งที่คล้ายๆ พวกร่างจิตเป็นสัตว์แทนตัวเองอะไรแบบนี้ ซึ่งของฉินเกอเป็นกระต่ายขี้กลัวน้ำตาแตกง่าย (แต่น้องชอบดูหนังยิงหัวซอมบี้??) แตกต่างจากตัวฉินเกอสุดๆ ส่วนพี่เซี่ยเป็นสิงโตบาร์บารีที่ก็ค่อนข้างแตกต่างจากความแด๊ดแด๋ของพี่เค้าเหมือนกัน (ชอบนอน ชอบทำหน้าเมื่อย มุแง)
    .
              ฉินเกอได้ย้ายจากงานในห้องเอกสารมาอยู่ในแผนกปรับสมดุลทางจิตเวชที่นอกจากตัวฉินเกอแล้วยังมี "ไป๋เสี่ยวหยวน" กับ "ถังชั่ว" และไอ้หนุ่มแซ่เซี่ยที่เพิ่งถูกพักงานและสั่งย้ายมาหมาดๆ เป็นสี่หน่อในแผนกปรับสมดุลฯ ที่ต้องทำงานเกี่ยวกับสภาพจิตใจคนโดยเฉพาะ เนื้อหาน่าจะเป็นเคสๆ ไป ซึ่งในเล่มแรกก็โผล่มาประมาณเคสครึ่ง เท่าที่วัดดู ตัวอย่างทดลองอ่านที่ทางสำนักพิมพ์ลงให้อ่านน่าจะปาไปเกือบๆ ครึ่งเล่มได้เลย...
    .
              ต้องบอกว่าสิ่งที่ทำให้เราชอบคือบรรยากาศในเรื่อง นิยายแนว guide verse พวกนี้ที่เคยอ่านพระเอกจะเป็นแบบพวกจอมพลไม่ก็องค์จักรพรรดิอะไรทำนองนี้ซะเยอะ ออกไปรบออกไปตีกับดาวอื่นแล้วก็ให้นายเอกที่เป็นไกด์ช่วยปรับสมดุลสภาพจิต แต่อันนี้ให้อารมณ์แบบหน่วยงานที่ต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับความผิดปกติทางจิตของใครสักคนแล้วก็ดำดิ่งลงไปในความลับดำมืดที่ซ่อนอยู่ ซึ่งมันก็พูดได้แหละว่ามีเรื่องของจิตวิทยาเข้ามาเกี่ยวด้วยเยอะทีเดียว แนะนำว่าพลิกไปดู TW ของเรื่องตรงหลังเล่มก่อนก็ดีเพราะถ้าอ่านแบบไม่รู้เรื่องรู้ราวก็อาจจะ triggered ได้
    .
              แต่ส่วนตัวเราชอบเนื้อหาแนวๆ นี้มากเลย การทำงานของไกด์ในเรื่องหรือก็คือฉินเกอคือการเข้าไปสำรวจจิตสำนึกของฝ่ายตรงข้าม เราชอบศัพท์ที่ผู้เขียนหยิบมาใช้มากคือ "การดำน้ำ" ซึ่งก็แบ่งย่อยไปเป็นการดำน้ำตื้น/ลึก การล่องเรือ สึนามิ อภิธานศัพท์มีแจ้งให้ตั้งแต่หน้าแรกที่อ่าน และเราพบว่ามันเท่มากกับศัพท์ที่ใช้ในเรื่องและมันเข้ากันดีสุดๆ กับพล็อตโดยรวมทั้งหมด
    .
              คุณเข้าไปในจิตใจคนอื่นก็เหมือนคุณเข้าไปดำน้ำ ตื้นหน่อยไม่เป็นไรมาก แต่ถ้าลึกไปก็อาจอันตราย และคุณก็เสี่ยงจะเจอสึนามิคือถูกสภาพจิตใจของฝ่ายตรงข้ามกระทบกระเทือนถั่งโถมเข้าหาคุณซึ่งนั่นอาจทำให้คุณเดี้ยงได้เลยอะไรทำนองนี้ รวมๆ แล้วคือนี่เป็นการทำงานของตัวละครใน guide verse ที่เท่ที่สุดเท่าที่เคยเจอมา เท่โดยที่คุณไม่ต้องไปออกรบกับเซิกร์หรือมนุษย์ต่างดาวอะไรที่ไหน คุณก็อยู่ที่นี่แหละ แค่สภาพมนุษย์มันเปลี่ยนไปและคุณสามารถเข้าถึงจิตใจเขาได้เท่านั้น
    .
              อีกอย่างคือเราชอบประเด็นที่ว่า ไกด์อาจพยายามทำเรื่องไม่ดียามเข้าไปดำนำนั่นคือการพยายามควบคุมและครอบครองความคิดหรือสภาพจิตใจของคนคนนั้น ตรงนี้น่าสนใจมากและคิดว่าน่าจะเป็นซับพล็อตที่่น่าติดตามต่อไป ซึ่งไม่แน่ว่ามันอาจจะสอดคล้องไปกันกับความผิดปกติบางอย่างของตัวเอกและพระเอกก็ได้
    .
              ฉินเกอมั่นใจมากว่าตัวเองไม่รู้จักเซี่ยจื่อจิง แต่เซี่ยจื่อจิงบอกว่าเราเคยคบกันนะ ฉันว่าฉันมั่นใจ ฉินเกอคิดว่าสมอง (จิตใจ) เจ้าคนแซ่เซี่ยมีปัญหาเลยไม่ถือสามาก แต่เขาก็ค่อยๆ ค้นพบและนึกสงสัยว่าไม่แน่เขาเองต่างหากที่อาจเป็นฝ่ายลืมเซี่ยจื่อจิงไปเอง
    .
              เทนชั่นของสองคนนี้หนักหนาหนักหน่วงมากแม่เจ้า เล่มแรกก็จูบกันแล้วเพราะจูนกันติดมากเว่อร์ แต่อดีตของสองคนนี้ยังเป็นปริศนาว่าแท้จริงแล้วมีเบื้องลึกเบื้องหลังอะไรหรือไม่ รวมถึงการจับคนสี่คนมารวมตัวกันเพื่อทำงานในแผนกปรับสมดุลทางจิตเวช แท้จริงแล้วแค่การสรรหาคนมาส่งๆ หรือเป็นการตั้งใจพยายามโยงคนสี่คนที่อาจมีความเกี่ยวข้องกันในเรื่องบางเรื่องเข้าหากันหรือเปล่า เนี่ย แค่พิมพ์ก็ตื่นเต้นแล้ว
    .
              ตอนที่เราอ่านจบ สำนักพิมพ์ก็ปล่อยเล่ม 2 ต่อมาพอดี ซึ่งถูกใจเรามาก actually เพราะส่วนตัวคิดว่าค่อนข้างค้าง คือดีดดิ้นอยากอ่านต่อ โชคดีที่ไม่เว้นระยะห่างกันร่วมเดือน ตอนนี้เราเลยตื่นเต้นมากที่จะได้อ่านเล่มต่อไป ส่วนหนึ่งอาจเพราะมีคู่รองโผล่มา (แหะๆ) เป็นน้องแพนด้าถังชั่วที่เราชอบและเอาใจช่วยว่าน้องจะหาแฟนได้อย่างที่ตั้งใจไว้มั้ย (และไอ้หนุ่มคนนั้นที่โผล่มาก็ดูอันตรายมาก แต่ลูกเราดันคิดว่านี่เขาลวนลามทางวาจาเราอยู่หรือเปล่านะ แต่เราชอบนี่นา เพราะงั้นคงไม่นับว่าเป็นการลวนลามล่ะมั้ง โธ่ หนูขาหนูลูก) เพราะงั้นตอนนี้เลยนับวันรออยากอ่านเล่ม 2 ต่อแล้ว
    .
              ถามว่าข้อเสียคืออะไร...คือบางค่ะ 55555 มีแปลแปลกๆ อ่านแล้วไม่สมูธอยู่บ้าง กับเล่มที่รู้สึกว่าแอบบางๆ อ่านแวบเดียวจบแล้วมันไม่หนำใจ ภาวนาให้สำนักพิมพ์อย่าทิ้งช่วงออกเล่มไปนานนัก เพราะสำหรับเรานี่น่าจะเป็นหนังสือของ EverY ที่เราชอบที่สุดเท่าที่ออกมาในปีนี้เลย
    .


    contact me


เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in