คู่มือการเอาตัวรอดของนักกิน เล่ม 1-3 (จบ)ผู้เขียน : เข่อเล่อเจียงทัง
ผู้แปล : เสี่ยวหวา
อรุณ
3 เล่มจบ
*รีวิวนี้มีการเปิดเผยเนื้อหาบางส่วน*
ต้องบอกว่าช่วงนี้ติด reading slump อ่านอะไรก็ไม่หนุกไม่รอดสักเรื่อง เมื่อคืนไม่รู้นึกไงหยิบเล่มนี้มาอ่านดู สรุปรอดเฉย ขำตั้งแต่สี่หน้าแรก จากนั้นก็เออ อ่านต่อเถอะ (แม้จะประหลาดใจนิดๆ ว่าอ่านนิยายอาหารทีไรทำไมชอบหยิบมาอ่านตอนกลางคืนตลอด มันหิว!)
เรื่องนี้เรียบๆ เบาๆ เป็นนิยายที่มีธีมหลักเป็นอาหาร ดังนั้นทั้งสามเล่มมันเลยจะเต็มไปด้วยอาหาร ใครที่ชอบแนวนี้น่าจะอ่านเพลินเพราะบรรยายละเอียดมากจนแอบคิดว่าคนเขียนน่าจะเป็นคนชอบกินอยู่ไม่ใช่น้อย
เนื้อเรื่องพูดถึง เจียงซูเหย่า ฟู้ดบล๊อกเกอร์ชื่อดังที่ตื่นมาอีกทีก็อยู่ในร่างคุณหนูสกุลเจียง เดิมทีคุณหนูผู้นี้ชื่อเสียงไม่ดีเพราะรู้กันทั่วว่าบ้าผู้ชาย เพิ่งไปวางอุบายตกน้ำจนตกคุณชายที่ได้ชื่อว่าโดดเด่นที่สุดในเมืองหลวงอย่าง เซี่ยสวิน คุณชายสามจวนกั๋วกง แถมบีบให้เค้าขอตัวเองแต่งงานให้ได้
ตอนที่เจียงซูเหย่าคนใหม่เพิ่งตั้งตัวติดก็ถูกหามเกี้ยวเข้าจวนกั๋วกงแล้ว คนอื่นๆ ไม่มีใครชอบนาง สามีหมาดๆ หนีไปนอนที่ห้องหนังสือตั้งแต่คืนแรก นางก็ไม่สนใจ ชั้นหิว ชั้นเบื่อ ชั้นขอเปิดครัวเล็กทำอาหารของชั้นไปละกัน
ตามตำรับนิยายแนวนี้คือใช้อาหารล่อเหยื่อเหมือนเก็บโปเกมอน เก็บทีละคนสองคนสุดท้ายก็โดนอาหารล่อจนตกเป็นทาสหมด เซี่ยสวินก็เป็นหนึ่งในนั้น เป็นคนแรกๆ เลยด้วยที่รู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ก็นับว่าเข้าท่านี่หว่า แม้จะกระโดกกระเดกไปหน่อยแต่อาหารที่ทำกลับอร่อยแถมแปลกใหม่ เป็นโปเกมอนที่ถูกเจียงซูเหย่าเก็บได้เป็นตัวแรกๆ ของทัวร์นาเม้นต์นี้
นอกจากนี้ยังมีขวัญใจของเราคือหลานๆ ในจวนอย่าง เซี่ยเจา และ เซี่ยเย่า สองแฝดจากบ้านใหญ่ที่โดนอาหารตกก่อนใคร ต้องวิ่งมากินที่จวนสามตลอด น้องน่ารักมาก แบบเป็นชั้นชั้นก็แพ้ลูกอ้อนลูกชนแบบนี้ ชอบซีนที่เจียงซูเหย่าให้เด็กๆ ผลัดกันชมตัวเอง ใครชมได้เพราะได้เลิศจะให้ขนมกิน 5555
เป็นนิยายที่ไม่มีดราม่า ไม่มีตัวร้าย มีแต่ตัวโจ๊ก กระทั่งพระเอกที่บรรยายว่าเป็นคนเงียบๆ เคร่งขรึมนี่กลับทำให้เราหลุดขำบ่อยมาก ให้กินอะไรพี่ก็กิน กินหมดเกลี้ยง แรกๆ ห่วงภาพลักษณ์อยู่บ้าง หลังๆ เอาเถอะ แทะเป็นแทะวะ
ที่ชอบคือมันไม่มีซีนแบบพระเอกรังเกียจรังงอน พ่นคำไม่น่าฟังใส่ ใช้อคติเป็นฟิลเตอร์ในการมองคนอะไร ส่วนนางเอกก็ไม่น่ารำคาญ เรื่องเดียวที่จะซูๆ ไปหน่อยคือออกแบบพวกอุปกรณ์นั่นนี่เพื่อช่วยทุ่นกำลังในทำอาหารได้ง่ายไปนิด แต่นอกนั้นก็ไม่มีอะไร
ดราม่าหนึ่งเดียวในเรื่องคือชีวิตรักของ โจวซื่อ สะใภ้รองของบ้าน เป็นหนึ่งในตัวละครที่เราชอบแล้วรู้สึกว่าเค้าน่ารักแต่ก็น่าสงสารมากกก ทั้งเรื่องคือเสียน้ำตาเพราะตัวละครนี้คนเดียวเลย และเราดีใจที่สุดท้ายแล้วโจวซื่อก็เลือกหนทางที่เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุดนะ
เรารู้สึกว่าถึงจะเป็นนิยายอาหารที่เน้นการทำอาหารแทบจะทุกๆ สามหน้า คนไม่ใช่สายนี้มาอ่านอาจรู้สึกว่ามีแต่น้ำไม่มีเนื้อ แต่เรารู้สึกว่ามันมีประเด็นครอบครัวที่น่าสนใจแทรกอยู่ อย่างเรื่องโจวซื่อที่ต้องทนใช้ชีวิตตามแบบแผนของหญิงในเมืองหลวงจนลืมความร่าเริงแบบเด็กสาวชาวโม่เป่ยของตัวเองไป หรือเรื่องลูกชายที่สุขภาพไม่ดีของบ้านใหญ่ มีจุดหนึ่งที่นิยายบอกเล่าได้น่าสนใจมากคือการรับมือกับเด็กที่ไม่ค่อยชอบพูดนั้น ต้องพยายามถามเขาและให้เขาพูดออกมาให้มากหน่อย ยิ่งข้างๆ มีเด็กที่ร่าเริงแจ่มใสอยู่ หลายๆ คนจึงมักจะมองข้ามความต้องการของเด็กคนที่พูดน้อยไปโดยอัตโนมัติ ซึ่งมาคิดๆ ดูแล้วก็จริง
ปกติเราไม่ใช่สายนิยายทำอาหาร แต่อ่านแล้วก็รอดนะ ไปต่อได้ยาวๆ เพราะอย่างที่บอกไปว่ามันมีเนื้อหาครอบครัวแทรกเข้ามาให้ติดตามด้วย แม้พล็อตมันจะคลิเช่ เดาได้ว่าเดี๋ยวต้องเปิดร้านอาหาร เปิดแล้วต้องมีคนมาก่อกวนไรงี้ แต่ในภาพรวมแล้วค่อนข้างรู้สึกว่าสนุกเกินคาด เพราะมีมุกตลกแทรกเข้ามาให้ขำ ตัวนางเอกก็ชิลมาก เอาจริงคือความสัมพันธ์พระนางสองเล่มแรกเหมือนเพื่อนที่คอยซัพพอร์ตกันเลย คู่นี้แบบเฮลท์ตี้มาก
รวมๆ คือเป็นนิยายที่เหมาะกับคนที่อยากได้อะไรเบาๆ อ่าน คนที่ไม่ใช่สายดราม่า ไม่มีตัวร้ายมาทำให้หวั่นใจ ออกแนวบ้านนี้มีรัก (และมีอาหาร) น่าจะชอบ
contact me
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in