Rainbow City (3 เล่มจบ)
💜 YAOI / BL
📚 สำนักพิมพ์: Rose Publishing
✍🏻 เขียน: Chepali
💬 แปล: ตรองสิริ
แนว Survival , วันสิ้นโลก , ซอมบี้ , การเมือง
⚠️ รีวิวนี้มี Spoil ⚠️
มาละ สำหรับสาววายสายเซอร์ไววัล วันสิ้นโลก และซอมบี้!
ไวรัสอดัมก่อตัวขึ้นแพร่เชื้อไปทั่วโลก ผู้ติดเชื้อจะกลายเป็ยซอมบี้ที่ถูกเรียกว่า "อดัม" ทำให้ประเทศต่าง ๆ ล่มสลาย ต่อมาเกิดการก่อตั้งรัฐสหภาพ โดยมีเกาหลีใต้กลายเป็นนครที่ชื่อว่า เรนโบว์ซิตี้ และใช้กองทัพทหารในการปกครอง
จากอดีตจนถึงปัจจุบัน ไวรัสอดัมกลายพันธุ์ดื้อวัคซีนมาหลายครั้ง ปัจจุบันเป็นการกลายพันธุ์ครั้งที่ 7
พันตรี "ควักซูฮวัน" ทหารฝีมือระดับเอสเป็นหัวหน้าหน่วยไร้พ่าย ได้รับคำสั่งให้คุ้มกัน ดอกเตอร์ "ซ็อกฮวา" หัวหน้านักวิจัยผู้อ่อนแอจากเกาะเซจูกลับไปยังเรนโบว์ซิตี้ แลกกับการไม่ต้องเข้าคุกทหารเพราะนิสัยบ้าระห่ำที่ขยันก่อเรื่อง
ควักซูฮวันเจอดอกเตอร์ครั้งแรก กลับพบว่าอีกฝ่ายผิวขาวผ่อง ท่าทางอ่อนแอ แค่โดนลมพัดก็น่าจะปลิว กินข้าวอยู่ก็หน้ามืดได้เฉย ๆ ต้องคอยดูแลอยู่เรื่อย คนนิสัยกวนประสาทอย่างควักซูฮวัน เจอดอกเตอร์ซ็อกที่หน้านิ่ง นิสัยแข็งทื่อไม่รับมุก ก็คอยจะเอาแต่เย้าแหย่อย่างห้ามไม่ได้ เพราะอีกฝ่ายตรงสเปค แถมความเป็นคนมีอารมณ์ทางเพศสูงก็พลอยทำให้เจ้าน้องชายอยากจะตื่นอยู่ร่ำไป
เมื่อซ็อกฮวาได้กลับมายังเรนโบว์ซิตี้ก็พบว่า สาเหตุที่ถูกเรียกตัวเพราะดอกเซอร์โอยังซ็อก หัวหน้านักวิจัยคนก่อนถูกฆาตกรรมในห้องทำงาน จนถึงตอนนี้ยังจับตัวฆาตกรไม่ได้ และตอนที่ต้องไปเอาเอกสารที่บ้านของดอกเตอร์โอยังซ็อก ทั้งสองกลับพบว่าที่ห้องใต้ดินนั้นมีลูกชายของดอกเตอร์ซึ่งกลายเป็นอดัมถูกขังไว้อยู่ สิ่งที่ประหลาดยิ่งกว่านั้นคือ เป็นอดัมที่พูดได้ ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
สิ่งที่ได้พบทำให้ซ็อกฮวาที่ปกติมักจะทำงานโดยไม่มีปากเสียงเริ่มคิดสงสัยขึ้นมาว่าเกิดอะไรขึ้นกับดอกเตอร์โอยังซ็อกกันแน่ ทำไมอดัมถึงเริ่มพูดได้ ซ็อกฮวาพยายามหาคำตอบ ขณะที่ควักซูฮวันก็เตือนให้ดอกเซอร์ทำงานเงียบ ๆ ดีกว่า
นอกจากปริศนา ความไม่ชอบมาพากลต่าง ๆ แล้ว พวกเขายังต้องเจอกับลัทธิสวนเอเดน ฝ่ายกบฎต่อต้านเรนโบว์ซิตี้ เพราะเชื่อว่าเหล่าชนชั้นสูงของเรนโบว์ซิตี้นั้นรีดนาทาเร้นผู้คน และใช้ประโยชน์จากอดัมในการควบคุมประชาชน ซึ่งพยายามลักพาตัวซ็อกฮวาไปด้วยเหตุผลบางอย่าง
โครงเรื่องหลักประมาณนี้ กรุบ ๆ ไม่พูดถึงซอมบี้เพราะต้องหนีตลอดเรื่องอยู่แล้ว
ตอนแรกคิดว่าเรื่องนี้คือแนวซอมบี้ เอาตัวรอดทั่ว ๆ ไป แต่ปรากฎว่าไม่ใช่ สำหรับเราเรื่องนี้หนักไปทางการเมือง โดยที่มีซอมบี้เป็นตัวแปรสำคัญมากกว่า อ่านสนุกประมาณหนึ่ง มีเรื่องราวให้ตามตลอด
พระเอกเรา ควักซูฮวัน เป็นนายทหารที่กวนประสาทมาก บุคลิกไม่เคารพเกรงใจใครทั้งนั้น แล้วก็ยังเป็นพวกมีอารมณ์ทางเพศสูงอีก เปิดมาช่วงแรก ๆ คนอ่านขมวดคิ้วเพราะนางมองหน้าดอกเตอร์แล้วมีอารมณ์ จนจะเอาน้องชายไปแตะปากเขาตอนหลับเพื่อช่วยตัวเอง (เอิ่มมมมมมมม) ลามกทะลึ่งตึงตังมาก เอะอะลากเข้าเรื่องอย่างว่าตลอด ชอบหยอกดอกเตอร์บ่อย ๆ ก็เพราะอยากแกล้ง ถึงหน้าจะยิ้มแต่ก็เป็นพวกยิ้มไม่ถึงดวงตา บุคลิกไม่รู้มาดีหรือมาร้าย จนตอนแรกคนอ่านจะงง ๆ หน่อย ว่าอีตานี้จะเอายังไงกับดอกเตอร์ แต่พออ่าน ๆ ไปเท่านั้นแหละ ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นหมาคลั่งรัก
ฝั่งนายเอก ซ็อกฮวา เป็นคาแรกเตอร์ที่คนละขั้วกับพระเอกเลย ถึงจะฉลาด แต่ก็หน้านิ่ง ไม่รับมุก นิสัยแข็งทื่อ ค่อนข้างบกพร่องทางอารมณ์ ปฏิสัมพันธ์กับคนไม่เก่ง ร่างกายอ่อนแอมากจนเสียวว่าจะเป็นลมอยู่บ่อย ๆ เวลาโดนอีตาพระเอกหยอกเรื่องใต้สะดือเลยไม่ค่อยจะรู้สึกอะไร มีนิสัยหมกมุ่นคือชอบเก็บสะสมหินมาก พระเอกแกล้งเก็บหินลึงค์มาฝาก ปรากฎว่าดอกเตอร์ชอบมาก ถึงขนาดพกติดตัวไปทุกที่ (...) อีตาควักซูฮันเห็นแบบนั้นยิ่งชอบดอกเตอร์เข้าไปใหญ่
เล่มแรกเปิดมาเจอนิสัยพระเอกเข้า ฉันก็คิดว่า ไฮ้หยา จะอ่านรอดเหรอวะ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ มันรอดค่ะท่านผู้ชม
ความสัมพันธ์ของพระ-นายเราช่วงแรกเริ่มทำความรู้จัก ทั้งสองค่อนข้างจะระแวงกันอยู่ ควักซูฮวันถึงจะชอบเย้าแหย่ดอกเตอร์ แต่พอเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังคิดจะทำอะไรก็สลัดคราบเสเพลเป็นจริงจัง ทำตัวร้าย ๆ ทันที ถึงอย่างนั้นทั้งสองก็ยังคงต้องตัวติดกัน ควักซูฮวันเห็นดอกเตอร์อ่อนแอก็อดไม่ได้จะต้องคอยดูแลทุกที ช่วงหลังทั้งสองก็ตกกระไดพลอยโจนไปด้วยกัน พอพระเอกเรามันรู้ใจตัวเองแล้ว ก็แทบจะกระโดดใส่ดอกเตอร์ไม่เว้นแต่ละวัน อยากจะปกป้องทนุถนอมดอกเตอร์ รู้ว่าดอกเตอร์อ่อนแอก็หาอะไรบำรุงอย่างดี อะไรที่ไม่ชอบก็ไม่ทำ อะไรที่ต้องการก็จะไม่ขัด ขี้หึงแล้วแบบต้องออดอ้อนทันที ที่สำคัญ...มันเป็นพระเอกแนวหมาเด็กค่าทุกคน เอ้า ตรงสเป็คเราไปอีก
ฝั่งซ็อกฮวาเองก็รู้สึกว่าการได้มาเจอกับควักซูฮวันเหมือนทำให้ตัวเองหลุดออกจากเซฟโซน เป็นจุดเริ่มต้นของการดิ้นรนตามที่ตัวเองต้องการ ไม่ได้เป็นแค่คนที่โดนล้างสมองเหมือนเมื่อก่อนอีก ซูฮวันทำให้ซ็อกฮวาได้รู้จักความรู้สึกใหม่ ๆ ลองทำอะไรใหม่ ๆ นอกกรอบของตัวเอง แต่ถึงยังไงซ็อกฮวาก็เป็นพี่ที่โดนน้องซูฮวันคาบสายจูงมาให้ค่ะ ซ็อกฮวาเองก็รู้สึกปลอดภัยเวลาพระเอกอยู่ใกล้ ๆ
อดีตของสองคนค่อนข้างขมและเจ็บปวด พอได้มาเจอกันก็เลยเหมือนกับเป็นครึ่งชีวิตของกันและกันเลยค่ะ
เป็นเรื่องที่ฉาก NC แซ่บมาก ๆ เรื่องหนึ่ง ซ็อกฮวาคือฝ่ายรับที่องค์ประกอบครบ รูปร่างเล็ก อ่อนแอ และยั่วยวนแบบไม่รู้ตัว ขณะที่ซูฮวันคือฝ่ายรุกที่อุดมไปด้วยพละกำลัง รูปร่างน่ามองพร้อมที่จะทำให้ฝ่ายรับรู้สึกดีสุด ๆ แต่ด้วยข้อจำกัดด้านร่างกายของนายเอกเรา บอกตรง ๆ อ่านไปก็แอบขำ 5555555 เป็นเรื่องแรกเลยมั้งที่นายเอกถึง ถึงจนสลบ แต่พระเอกทำเท่าไหร่ตัวเองก็ไม่ถึง 555555 โอ้ย สงสาร แต่ความน่าเอ็นดูก็คือ นายเอกไม่ไหวพระเอกก็จะไม่ดื้อทำต่อค่ะ นางจะหยุดให้นายเอกพักเลย ซึ่งเป็นอย่างนี้ทุกครั้ง ร้ายกับคนได้ทั้งโลกแม้แต่เพื่อน แต่กับนายเอกคือพี่จ๊ะ พี่จ๋า น้องรักพี่นะ
เรียกได้ว่าถ้าตัดฉากเอาน้องชายทิ่มปากนายเอกช่วงต้นเรื่องไป พระเอกของเราก็คือพระเอกดี ๆ คนหนึ่งเลย
เนื้อเรื่องว่าไปก็เครียด แต่พระเอกเราเหมือนมาลดทอนความเครียดบางฉากลงโดยการทำตัวแดะแด๋ใส่นายเอกไปวัน ๆ กลายเป็นน่ารักดีซะงั้น มีช่วงเวลาที่บีบคั้นอยู่บ้าง แต่สำหรับเราไม่ได้หนักอะไรขนาดนั้น แล้วสุดท้ายก็จบดีด้วยค่ะ คนอ่านอ่านจบต้องอิ่มแน่นอน
สิ่งที่น่าชื่นชมสำหรับเรื่องนี้อีกอย่างคือ สำนวนการแปลค่ะ ไหลลื่นและน่าอ่านมาก การบรรยายไม่มีสะดุด ฉากตื่นเต้นก็ทำได้ดี แล้วยิ่งการแปลคำพูดของพระเอก เราคิดว่าทำได้ดีมากเลย ทำให้รู้สึกว่าเออ นี่มันเป็นคำพูดที่โคตรจะเหมาะกับควักซูฮวันเลย อาจจะเพราะต้นทางเองก็ทำได้ดีในการถ่ายทอดบุคลิกของพระเอกอยู่แล้ว แต่เราคิดว่าในส่วนนี้คนแปลเองก็ทำได้ดีเช่นกันค่ะ ยิ่งตอนพระเอกเรียกแทนตัวเองว่า "น้อง" นี่งงมากกว่าต้นทางทำมางี้หรือนักแปลปรับเอง แต่ว่าแม่งโคตรแดะแด๋เลย ชอบ 5555
หน้าปกสวยมาก แบบมาก ๆๆๆๆ มารู้ว่าอันนี้เป็นปกของทางเกาหลีเอง (ชื่นชม) ขอบคุณโรสที่ซื้อปกมาด้วย เลอค่าสุด ๆ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in