นิยายเรื่องนี้เป็นการสรุปเนื้อเรื่องที่เราได้อ่านและความคิดเห็นหรือความรู้สึกส่วนตัวของตัวเราเองหลังจากที่เราได้อ่านจบนะคะ ซึ่งอาจจะมีการ
เนื้อเรื่องย่อ :
“ จิ๋นเย่ว์ ” คุณชายบุตรของจิ๋นหมิงจ้าวหรือแม่ทัพจงเจาผู้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสุดยอดแม่ทัพของต้าอวี่และองค์หญิง ยามเกิดเขาเกิดที่กองทัพรักษาการณ์ชายแดนซีเป่ยในเมืองเฟิงหู จนกระทั้งอายุได้ 6 -7 ปี ได้ถูกรับตัวกลับไปยังเหลียงจิง ยามที่อายุเขาครบ18 ปี ได้ถูกส่งตัวมาเป็นตัวประกันระหว่างต้าอวี่และเป่ยหรง โดยมีมูลเหตุว่าสองเมืองนี้ทำศึกมานานหลายปีจนกระทั่งเมื่อจักรพรรดิเป่ยหรงที่กำลังยุ่งกับการจัดการเผ่าต่างๆภายในเป่ยหรงทำให้บ้านเมืองสงบชั่วคราว ไร้ศึกใดๆ ทั้งสองเมืองได้มาตกลงสงบศึกและเป็นพันธมิตรกันในเมืองผิงโจวต้าอวี่ได้ยกเมืองสามเมืองให้แก่เป่ยหรงและจะส่งผ้าแพรพรรณให้แก่เป่ยหรงจำนวนแสนผืนในทุกๆปีเพื่อแลกเปลี่ยนกับเหล็กกล้าและวิธีการตัดเย็บผ้าแพรพรรณของเป่ยหรงอีกทั้งยังส่งตัวประกันอย่างจิ๋นเย่ว์ที่จักรพรรดิเป่ยหรงไปเพื่อแสดงให้เห็นถึงความจริงใจของต้าอวี่โดยการเดินทางมายังเป่ยหรงในฐานะตัวประกันนั้น เขาได้มาพร้อมกับไป๋หนี่แม่ทัพหญิงและทหารจำนวนหนึ่งที่ถูกจักรพรรดิต้าอวี่ส่งมาให้คอยดูแลในการเดินทางมาครั้งนี้เขาได้พบเจอกับ “ เฮ่อหลานเฟิง ”ที่กำลังถูกรังแกจากชาวเป่ยหรงด้วยกันระหว่างการแวะพักขบวนเขาได้ช่วยเหลือเฮ่อหลานเฟิงเอาไว้ อีกทั้งยังมอบเสื้อขนสัตว์ให้ก่อนที่เขาเฮ่อหลานเฟิงจากไปและมุ่งหน้าเดินทางไปยังเป่ยหรงต่อ แต่คนคำนวณมิสู้ฟ้าลิขิต เมื่อเรื่องราวต่างๆที่ไม่คาดคิดได้เกิดขึ้นแม่ทัพจงเจาที่อยู่ไป๋เซวี่ยกวนนั้นถูกเป่ยหรงกับจินเชียงร่วมมือกันตลบหลังต้าอวี่ตามแผนการเพื่อให้แม่ทัพจงเจายอมมาเป็นพวกตนได้เสียชีวิตอย่างปริศนาทำให้จิ๋นเย่ว์นั้นหมดประโยชน์ที่จะเป็นตัวประกันแล้วแต่ด้วยผลประโยชน์มากประการทำให้จักรพรรดิเป่ยหรงให้เขาอยู่ที่เยี่ยไถในฐานะทาสภายใต้การดูแลของเฮ่อหลานจินอิง พี่ชายของเฮ่อหลานเฟิง
“เฮ่อหลานเฟิง ” ชนเผ่าเกาซินที่เป็นทายาทของหัวหน้าเผ่าที่มีสายเลือดชาวฮั่นที่ได้จากแม่ที่อาศัยที่เยี่ยไถของเป่ยหรงพร้อมกับพี่ชาย(เฮ่อหลานจินอิง)และน้องสาว(จัวจัว)เพียงลำพังสามคนโดยพี่ชายและเขาเองได้มีตาดุจหมาป่า ทำให้ไม่ค่อยมีใครอยากคบค้าสมาคมด้วยเนื่องจากผู้คนเชื่อว่าสาเหตุที่พ่อแม่ของพวกเขาตายนั้นเป็นเพราะตำนาน (แต่ก่อนชาวเกาซินได้เดินทางมาจากทางซีเป่ยที่เต็มไปด้วยภัยพิบัติต่างๆก่อนจะถูกปราบดวงตาสีเขียวเป็นสิ่งยืนยันว่าเป็นคนของเผ่าเกาซินที่ถูกเทพเจ้าหมาป่าลงโทษโดยการซ่อนวิญญาณร้ายของหมาป่าภายใต้แววตาชาวเผ่าเกาซินดวงตาคู่นี้จะค่อยๆกลืนกินชีวิตของพ่อแม่พี่น้องหรือลูกๆของพวกเขาอีกทั้งยังนำพาภัยพิบัติร้ายแรงเข้ามา) โดยความฝันของเฮ่อหลานเฟิงคือการเป็นนักธนูที่เก่งที่สุดในเป่ยหรงที่ได้รับเกาทัณฑ์หมาป่าจากจักรพพรดิเป่ยหรง โดยเกาทัณฑ์หมาป่านั้นมีลักษณะที่คันธนูจะถูกแกะสลักลายนกกระจอกมากมายนับไม่ถ้วนกำลังโบยบินท่ามกลางหมู่เมฆตัวลูกศรธนูนั้นที่ปลายนั้นแหลมคมอย่างมากทำจากเพชรที่ดีที่สุด ลักษณะเรียบง่ายสีดำปลายธนูจะเป็นขนสีขาวซึ่งผู้คนที่จะได้ครอบครองเกาทัณฑ์หมาป่านั้นจะมีด้วยกันสองกลุ่มคือกลุ่มองค์รักษ์ของจักรพรรดิเป่ยหรงและนักแม่นธนูที่เก่งที่สุดในเป่ยหรง
เรื่องราวทั้งหมดได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อทางด้านจักรพรรดิเป่ยหรงได้ทราบข่าวถึงการตายของแม่ทัพจิ๋นหมิงจ้าวในไป๋เซวี่ยกวนและตัวจิ๋นเย่ว์ที่มาถึงเป่ยหรงได้ตกเป็นทาสภายใต้การดูแลของเฮ่อหลานจินอิงโดยที่เขายังไม่รู้ตัวทำให้เขาได้พบกับเฮ่อหลานเฟิงอีกครั้งโดยที่ครั้งแรกที่พบเจอกันระหว่างทางเฮ่อหลานเฟิงไม่ต้องการที่จะผูกมิตรกับเขาเท่าไหร่เพราะเฮ่อหลานเฟิงนั้นไม่ชอบชาวต้าอวี่แต่ในครานี้พวกเขาได้ทำความรู้จักกันมากยิ่งขึ้น เขาจึงสนิทกับจัวจัวน้องของเฮ่อหลานแล้วหลอกถามเรื่องราวของพี่น้องเฮ่อหลานทำให้รู้ว่าพี่ชายของเฮ่อหลานเฟิงกำลังจะออกไปทำสงคราม เมื่อตอนกลางคืนมาถึงเฮ่อหลานจิงอิงกลับมาจากสงครามอย่างกะทันหันพร้อมตำแหน่งที่สูงมากขึ้นก่อให้เกิดความสงสัยแก่พี่น้องเฮ่อหลานกระทั่งเขาได้เจอกับเฮ่อหลานจินอิงทำให้ได้รู้เรื่องที่พ่อของเขา(จิ๋นหมิงจ้าว)ตายและได้ทราบว่าไป๋หนี่กับผู้ดูแลของตนหลบหนีออกไปจากเป่ยหรงโดยทิ้งตนไว้เพียงลำพังเขาไม่เชื่อ เฮ่อหลานจินอิงจึงเริ่มอธิบายไม่ใช่เพราะนางได้รับคำสั่งจากฮ่องเต้ว่าให้พาเขามาส่งที่เป่ยหรงและให้แน่ใจว่าเขาอยู่ภายใต้คนเป่ยหรงสำเร็จหรอกหรอเพราะตัวจิ๋นเย่ว์เองนั้นก็ไม่ได้มีค่ามากพอที่จะถูกส่งมาเป็นตัวประกัน แต่เขาดันเป็นลูกชายแม่ทัพที่ฝั่งเป่ยหรงต้องการนั้นเองทำให้เขาเริ่มนึกตอนนี้เขากลายเป็นทาสภายใต้ความดูแลของพี่น้องเฮ่อหลานตามคำสั่งของจักรพรรดิเป่ยหรงเสียแล้วอีกทั้งทางด้านจักรพรรดิเป่ยหรงเองก็ไม่ได้มีความหวาดระแวงต่อต้าอวี่แล้วเพราะต้าอวี่ได้เสียแม่ทัพเก่งกาจไปเรียบร้อย จิ๋นเย่ว์ที่ทนรับความจริงอันโหดร้ายนี้ไม่ไหวจึงได้พยายามแอบหลบหนีออกมาเพื่อกลับไปยังบ้านเกิด แต่ก็หนีได้ไม่สำเร็จโดยถูกชาวเป่ยหรงทำร้ายแต่ได้เฮ่อหลานเฟิงมาช่วยเอาไว้เสียก่อนและพากลับไปรักษาความสัมพันธ์ของพวกเขาจึงค่อยๆเริ่มดีขึ้นเฮ่อหลานจินอิงจึงบอกให้เฮ่อหลานเฟิงเข้าไปตีสนิทกับจิ๋นเย่ว์ เพื่อหลอกถามข้อมูล จิ๋นเย่ว์จึงได้สอนภาษาชาวฮั่นให้แก่ เฮ่อหลานเฟิงและวาดแผนที่เหลียงจิง(ฉบับปลอม)ให้แก่เขา และทำให้เรารู้ว่าเฮ่อหลานจินอิงต้องการแผนที่เพราะเกี่ยวข้องกับชีวิตของตัวจิ๋นเย่ว์วันเวลาล่วงเลยผ่านไปเรื่อยๆด้านของจิ๋นเย่ว์ก็ได้วางแผนกับหร่วนปู้ฉี(ชาวต้าอวี่อีกคนที่พระเอกรับมาเป็นคนรับใช้)หาทางออกจากเป่ยหรงเพื่อกลับต้าอวี่ ในยามที่เฮ่อหลานจินอิงจะออกเดินทางไปผิงโจว แต่ท้ายที่สุดพวกเขาไม่สามารถออกจากเป่ยหรงไปได้เพราะเกิดอุบัติเหตุ ขึ้นทำให้พวกเขาได้พบกับกวางตัวหนึงและเซียนชุดแดง เซียนชุดแดงคนนั้นคือ“เย่ว์เหลียนโหลว”
หลังจากที่เกิดอุบัติเหตุจิ๋นเย่ว์ก็ได้รับความช่วยเหลือจากผู้ที่ได้รับคำสั่งจากแม่ของเขาให้มาตามหาตัวเขาและพาเดินทางกลับโดยที่เย่ว์เหลียนโหลวนั้นไม่ใช่คนจากราชสำนักโดยเมื่อแม่ของจิ๋นเย่ว์หรือองค์หญิงหลังได้ทราบข่าวการตายของแม่ทัพจงเจาจึงออกเดินทางไปยังไป๋เซวี่ยกวนจากนั้นก็ไร้การติดต่ออีกเลยอีกทั้งจิ๋นเย่ว์ยังได้รู้ว่าจวนสกุลจิ๋นของเขาที่เหลียงจิงนั้นไม่มีอยู่อีกแล้ว เพราะโดนต้องโทษว่าพ่อของเขาไม่สามารถคุมทัพได้เกิดความกลัวต่อศัตรูจนหนีทัพไป ส่งผลให้รบครั้งนี้แพ้อย่างราบคาบถือว่าเป็นโทษหนัก ให้เนรเทศคนในสกุลออกจากเมืองไปแต่โชคร้ายที่ระหว่างเดินทางเกิดเรือล่ม ทำให้ทุกคนตายกันหมด แต่จิ๋นเย่ว์ยังยืนยันที่จะกลับไปเพื่อไปสืบเรื่องพ่อและตามหาแม่ของตนเองซึ่งอาจจะทำให้เขาได้พบคนสกุลจิ๋นที่รอดเหลืออยู่ก่อนอื่นเขาจึงต้องตามหาไป๋หนี่ที่หนีไป จิ๋นเย่ว์จึงได้หารือกับเย่ว์เหลียนโหลวในเรื่องการตามหาไป๋หนี่และชาวต้าอวี่ที่เหลือโดยจะหลอกใช้เฮ่อหลานเฟิงในการช่วยอีกที
แต่ยังคงมีอีกปมหนึ่งของจิ๋นหมิงจ้าวในอดีตที่ตัวจิ๋นเย่ว์เองยังไม่ทราบนั่นคือความลับของลูกธนูของชาวเกาซินที่จิ๋นหมิงจ้าวสงสัย เนื่องจากเขาเองได้มีธนูเกล่านี้ครอบครองอยู่เขาเลยได้ช่วยเฮ่อหลานจินอิงมาเพื่อสอบถามแต่น่าเสียดายที่พวกเขานั้นดันเป็นชาวเกาซินที่เติบโตอยู่ที่เป่ยหรงแต่เด็กแล้ว
พวกเขาทั้งหมดล้วนดำเนินเรื่องราวไปเรื่อยๆจนพวกเขาได้พบเจอกับจูเยี่ยหญิงสาวที่มาจากชนเผ่าเกาซิน ผู้ที่ยังหลงเหลืออยู่ทำให้พวกเขาได้รู้เรื่องราวของเผ่าเกาซินในกาลก่อนมากมายอีกทั้งยังได้ทราบว่าครอบครัวเฮ่อหลานนั้นคือทายาทของหัวหน้าเผ่าอีกทั้งยังได้พบเจอกับอ๋องอวิ๋นโจวหรือหว่าซินถูองค์ชายเพียงหนึ่งเดียวของจักรพรรดิเป่ยหรงที่ปรากฏตัวออกมาอย่างปริศนาพร้อมเกาทัณฑ์หมาป่าโดยได้มอบให้แก่เฮ่อหลานเฟิง หลังจากนั้นทำให้พวกเขาได้เจอกับปัญหาเรื่องราวต่างๆมากมายและได้เจอกับไป๋หนี่ ก่อนที่ความจริงทุกอย่างจะเปิดเผยในตอนท้ายจนพาไปสู้การศึกสงครามระหว่างเผ่าเกาซินและเป่ยหรงครั้งสุดท้ายเมื่อทุกอย่างได้จบลงพวกเขาจึงใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข
จากการคอยเป็นห่วงเป็นใยกันของแต่ละฝ่ายการช่วยเหลือซึ่งกันและกันนำพาเฮ่อหลานเฟิงและจิ๋นเย่ว์ค่อยๆเกิดความรักห่วงหาอาทรภายในก้นลึกของหัวใจอย่างไม่รู้ตัวสุดท้ายพวกเขาก็ไม่สามรถหลบหลีกหัวใจของตนเองได้ จากสหายในวันวานกลายเป็นคนรักของกันและกันและใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขต่อไป
ภาพประกอบนิยายจาดเว่ยป๋ออาจารย์ผู้เขียนค่ะ จิ๋นเย่ว์(ซ้าย) เฮ่อหลานเฟิง(ขวา)
สรุปภาพรวมของนิยาย :
เนื้อหาของนิยายวายเรื่องนี้ผู้เขียนได้กล่าวว่าได้มีการอ้างอิงจากข้อมูลประวัติศาสตร์จีนบางส่วนและเน้นเรื่องราวการศึกสงครามระหว่างชนเผ่าทั้งห้าและความขัดแย้งกันเองภายในแว่นแคว้นโดยมีอ้างอิงจากยุคสมัยราชวงศ์ซ่ง เมื่อเปิดเรื่องมาจะเล่าถึงตัวพระเอกอย่างเฮ่อหลานเฟิงกับชาวเผ่าในเยี่ยไถ่และการเดินทางมายังเป่ยหรงของตัวนายเอกอย่างจิ๋นเย่ว์เป็นจุดที่ตัวละครเอกได้พบเจอกันคราแรก ก่อนที่ปมเรื่องราวต่างที่จะพาไปสู้ตัวประเด็นหลักของนิยายจะค่อยๆเพิ่มเข้ามาเช่นการตายของจิ๋นหมิงจ้าว การตกอยู่ในสถานะทาสของจิ๋นเย่ว์ การหายตัวไปของไป๋หนี่เป็นต้น โดยผู้เขียนเน้นถ่ายทอดเรื่องราวผ่านมุมมองของนายเอกเป็นหลักเนื้อหานิยายจะเริ่มมีความเข้มข้นขึ้นตามปมเรื่องราวต่างๆที่ถูกเฉลยออกมาทำให้ผู้อ่านมีความสนใจที่จะติดตามเรื่องราวและพัฒนาการของตัวละครมากยิ่งขึ้นอีกทั้งผู้เขียนมีการ สอดแทรกความตลก เพื่อลดความตึงเครียดของเนื้อเรื่องในบางส่วนถือได้ว่าสามารถที่จะตอบโจทย์นักอ่านที่ชื่นชอบนิยายจีนโบราณแนวศึกสงคราม ผ่านการเล่าเรื่องแบบโครงเรื่องใหญ่ในนิยายเรื่องนี้มีเหตุการณ์ที่สำคัญต่างๆแบ่งได้ดังนี้
- การที่ต้าอวี่และเป่ยหรงตกลงที่จะสงบศึกและเป็นพันธมิตรกันในเมืองผิงโจว ต้าอวี่ได้ส่งตัวประกันอย่างจิ๋นเย่ว์ที่เป็นลูกชายของแม่ทัพจิ๋นหมิงจ้าวไปยังเป่ยหรงเพื่อแสดงให้เห็นถึงความจริงใจจิ๋นเย่ว์ได้ช่วยเหลือเฮ่อหลานเฟิงระหว่างทางที่เยี่ยไถ่ข่าวการตายของจิ๋นหมิงจ้าวได้มาถึงเมืองเป่ยหรงจักรพรรดิเป่ยหรงทราบจึงให้จิ๋นเย่ว์ไปอยู่ภายใต้การดูแลของครอบครัวเฮ่อหลานในฐานะทาสจิ๋นเย่ว์พยายามหาทางหลบหนีกลับต้าอวี่ยังไงก็ไม่สำเร็จ จึงได้ตกลงร่วมมือกับเย่ว์เหลียนโหลวและหร่วนปู้ฉี
- พวกเขาได้เดินทางไปยังเป่ยโตวเมืองหลวงของเป่ยหรงทำให้ได้พบเจอกับ “จูเยี่ย” หญิงสาวชาวเผ่าเกาซินและ “เฉิงซวง”องค์รักษ์ที่หมิงถังเยี่ยได้มอบให้จิ๋นเย่ว์ ความสามารถของจิ๋นเย่ว์ถูกจักรพรรดิเป่ยหรงและอ๋องอวิ๋นโจวค้นพบเข้าเฮ่อหลานเฟิงยินดีที่จะนำบุญคุณที่เคยช่วยเหลืออ๋องอวิ๋นโจวในครั้งนั้นมาแลกเปลี่ยนเพื่อความปลอดภัยของจิ๋นเย่ว์แต่กลับถูกอ๋องอวิ๋นโจวผู้มากเล่ห์เหลี่ยมผิดคำรับปากประทับตราคนของอ๋องอวิ๋นโจวลงบนตัวของจิ๋นเย่ว์ ทางด้านเฮ่อหลานเฟิงเองก็พยายามหาช่องโหว่ของสัญญาหลังจากที่ครอบครัวเฮ่อหลานสามารถกลับมาเป็นหัวหน้าเผ่าเกาซินได้นั้นก็ได้พยายามตามล้างแค้นกับทางด้านเป่ยหรง โดยได้รับความช่วยเหลือจากจูเยี่ยอีกแรง
- ภูเขาโลหิตหมาป่า สถานที่ที่เฮ่อหลานจินอิงได้เตรียมไว้ให้เฮ่อหลานเฟิงและคนอื่นๆหลบหนีออกจากเป่ยโตวซึ่งเป็นบ้านเกิดของชาวเกาซิน เพื่อที่จะชนะใจชาวเผ่าเกาซินเฮ่อหลานเฟิงจึงได้รับความช่วยเหลือจากจิ๋นเย่ว์จนประสบความสำเร็จเขาได้ทำเครื่องรางจากเขากวางมอบให้แก่จิ๋นเย่ว์ซึ่งเป็นสิ่งของแทนใจของความรักระหว่างพวกเขาทั้งสอง
- เมืองปี้ซานชายแดนของต้าอวี่ จะเป็นจุดที่ต้าอวี่หมดความระแวงต่อเป่ยหรงจินฮ่าวลูกพี่ลูกน้องของจิ๋นเย่ว์ได้เดินมาเจรจาต่อรองกับอ๋องอวิ๋นโจวเพื่อช่วยเหลือจิ๋นเย่ว์ทางด้านเฮ่อหลานจินอิงเองก็ได้ลอบสังหารจักรพรรดิเป่ยหรงเพื่อล้างแค้นได้สำเร็จ ความสัมพันธ์ระหว่างเฮ่อหลานเฟิงและจิ๋นเย่ว์ก็เกิดความเข้าใจผิดซึ่งกันแหละกัน
- จิ๋นเย่ว์ได้เดินทางกลับไปยังต้าอวี่และได้จัดการเรื่องราวภายในต้าอวี่ของพ่อตนเองและเหลียงไท่ซื่อกับองค์ชายสาม ทางด้านเฮ่อหลานเฟิงและพี่ชายได้รวบรวมชาวเผ่าเพื่อที่จะล้างแค้นเป่ยหรงแต่เขากลับรู้สึกเศร้าโศกและคอยคิดถึงจิ๋นเย่ว์
- เมืองเหลียงจิง หลังจากที่จิ๋นเย่ว์ได้เริ่มแผนกำจัดเหลียงไท่ซื่อ ก็ได้เดินทางกลับมายังเหลียงจิงเมื่อเฮ่อหลานเฟิงทราบจึงได้เดินทางมาหาจิ๋นเย่ว์ ทำให้ทั้งสองได้พบเจอกันอีกครั้งก่อนที่ทั้งคู่จะแยกย้ายไปทำหน้าที่ของตน
- หมิงเยี่ยถังกับจิ๋นเย่ว์และผู้คนอื่นๆได้พากันบังคับจักรพรรดิสละราชสมบัติ
- เมืองปี้ซานและเมืองหยางเหอเป็นการสู้รบครั้งสุดท้าย เพื่อการยึดเมืองคืนจากเป่ยหรงในการรบครั้งนี้เฮ่อหลานเฟิงประสบความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่
ความคิดเห็นส่วนตัว :
พล็อตนิยายอาจจะไม่นับว่าแปลกใหม่ทีเดียวนักแต่เนื้อหาของตัวนิยายกลับมีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก การวางปมเรื่องนั้นผู้เขียนทำได้ดีเลยเดียวปมเรื่องล้วนเกี่ยวโยงกันและมีการสลับให้ผู้อ่านได้เห็นถึงมุมมอง ความคิด การกระทำของตัวละครทั้งพระเอกและนายเอกพร้อมๆกับเนื้อเรื่องที่เข้มข้น
- นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายวายที่จบแบบสุขนิยมโดยไม่ได้เน้นความรักของตัวละครหลักเป็นที่ตั้งแต่จะเป็นความรักที่เกิดขึ้นจากการที่ทั้งคู่ได้เดินทางผ่านทุกข์ผ่านสุขและแก้ปัญหาต่างๆร่วมกัน ค่อยๆขยับความสัมพันธ์เข้าหากันมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งตัวเราเองชอบงานเขียนแนวนี้มากๆเลย
- นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายจีนประเภทจีนโบราณแนวสู้ศึกสงครามทั้งในราชสำนักและดินแดนนอกด่านต่างๆเนื้อเรื่องเข้มข้นเป็นอย่างมากทีเดียว มีการอิงข้อมูลทางประวัติศาสตร์บางส่วน เนื้อเรื่องดำเนินอย่างกระชับโดยไม่ทิ้งความสนุกของเรื่องราวภายในเรื่องตอบโจทย์แฟนนิยายจีนที่ชอบเรื่องราวแนวเหล่านี้เป็นอย่างมาก
- ตัวละครในนิยายเรื่องนี้ผู้เขียนได้มีการสร้างขึ้นอย่างมีมิติเป็นตัวละครที่มีทั้งด้านดีและด้านไม่ดีปะปนกันไปและมีความคิดดั่งเช่นมนุษย์คนนึงอาทิ
“ท่านปู่ ท่านพึ่งจะฆ่าหมีตัวนั้นได้ท่านช่วยสอนข้าได้หรือไหม"
"ยังมีสิ่งใดที่ต้องสอนเจ้าอีกล่ะ การลงมือทำในเวลาที่เหมาะหรือการตัดสินใจอย่างเด็ดขาดข้าไม่จำเป็นที่จะต้องสอน เจ้าล้วนเรียนรู้เองได้"
"แต่เจ้ามีความกล้าที่จะช่วยสหายของเจ้าให้รอดพ้นจากอันตรายนี่และคือสิ่งสำคัญที่สุด"
จากฉากที่เฮ่อหลานเฟิงได้ช่วยเหลือสหายเอาไว้
"เพียงเพราะเจ้าไม่ชอบหุนต๋าเออร์ข้าเลยไม่สามารถที่จะคบหุนต๋าเออร์เป็นสหายได้?"
"เฮ่อหลานเฟิง ข้าเป็นทาสของเจ้าแม้กระทั่งข้าจะพูดคุยกับผู้ใด เจ้าก็จะเขามาควบคุมหรอ"
จากฉากที่จิ๋นเย่ว์มีโต้เถียงกับเฮ่อหลานเฟิง
- การกระทำของตัวละครหลักอย่างเฮ่อหลานเฟิงที่มีต่อจิ๋นเย่ว์นั้นพาผู้อ่านประทับใจเป็นอย่างมาก ขอยกตัวอย่าง ตอนที่นายเอกต้องการจะหลบหนีออกมากับตัวละครีกตัวนายเอกหนีไปได้ไกลแล้วกลับเกิดเหตุม้าตกใจเลยวิ่งหนีไป เพราะเหตุนี้นายเอกเลยหนีออกไปไม่ได้แต่ได้อีกคนช่วยไว้พากลับมาที่บ้านพระเอก ตกตอนกลางคืนนายเอกป่วย พระเอกก็ดูแลเช้ามาพานายเอกไปขี่ม้า แล้วให้ทำความรู้จักเอาไว้ รอบหน้าถ้าคิดจะหนีกลับไปจะได้หนีไปได้พร้อมกับม้าตัวนี้
หลังจากที่เราได้อ่านนิยายเรื่องนี้จบโดยเราให้คะแนนเรื่องนี้ 9.5/10 ภาษาและสำนวนการเขียนของนักเขียนท่านนี้ถือว่าดีมากๆเลยนะ มีการยกศัพท์ สำนวนจีนและการพรรณนาสร้างบรรยากาศรูปแบบต่างๆมากมายมาใช้ในงานเขียนชิ้นนี้เพื่อสร้างบรรยากาศให้แก่นักอ่าน ทำให้นักอ่านเมื่ออ่านแล้วสามารถจินตนาการภาพตามเนื้อเรื่องที่นักเขียนต้องการจะสื่อ แต่มีบางช่วงของตัวเนื้อเรื่องที่มีการใช้สำนวนภาษาที่กำกวมหรือศัพท์ยากๆอยู่บ้างแต่ผู้เขียนได้มีการอธิบายให้ผู้อ่านได้เข้าใจอย่างชัดเจน บวกเนื้อเรื่องไม่ยาวมากนักแต่เข้มข้นเอาเรื่องเลย!!!!!!!
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in