18 NOV 18
วันสุดท้ายในเชียงใหม่ก่อนที่จะบินกลับกรุงเทพ
เลือกเข้าร้านอาหารเช้า โกปี๊ ตรงนิมมานซอย 9 บรรยากาศดี ๆ ตอนเช้า สั่งอาหารมาตอนแรกก็นึกว่าไม่เท่าไรหรอก ที่ไหนได้ แทบคลานออกมาอีกรอบ เยอะมากกกกก กินไม่หมดด้วยจ้า 5555
แพลนที่วางไว้คือจะไปซื้อของฝากกันที่ตลาดวโรรส (กาดหลวง) เราเลยเรียก Grab ไปเลยสะดวกกว่า แค่ประมาณ 60 บาท พี่ Grab ขับผ่านร้านโน้นร้านนี้ก็แนะนำใหญ่ นี่ก็เลยชวนคุยกันไป เขาบอกว่าช่วงนี้อากาศร้อนขึ้นเยอะมาก ๆ เห็นด้วยเลยค่ะพี่ อุตส่าห์ขึ้นมาเชียงใหม่ช่วงเดือนพฤศจิกายน ก็แอบหวังเล็ก ๆ ว่าจะเจออากาศเย็นบ้าง แต่ในตัวเมืองร้อนมากกกกกก
เดินด๊อก ๆ แด๊ก ๆ สไตล์คนไม่รู้ทางกันสองคน ก็ไปได้น้ำพริกหนุ่ม แคบหมู ของจุกจิกกันมาครบแล้ว ที่แฮปปี้มากคือได้เสื้อคลุมเกร๋ ๆ ผ้าฝ้ายสไตล์ญี่ปุ่นมาในราคา 150 บาท (ที่ภูมิใจสุดเพราะกลับมากรุงเทพเจอคนขายตั้ง 200-500 บาทแหนะ เห็นทีไรก็ยิ้มมุมปากในใจตล๊อด)
แล้วก็ได้ลองของใหม่อีกอย่างนั่นก็คือรถเมล์ที่วิ่งรอบเมืองนั่นเอง เราเดินข้ามจากฝั่งตลาดไปรอรถเมล์ที่ป้าย รอนานหน่อยแต่ชัวร์กว่า (เพราะระหว่างที่ยืนรอรถเมล์ก็โดนรถแดงวอแวหนักมาก แต่ไม่ ฉันใจแข็งพอ)
เป็นรถเมล์ที่ใหม่มาก แต่เราไม่สามารถแนะนำสายให้ได้เพราะก็ไม่รู้เหมือนกัน คันไหนผ่านมาเราก็ถามคนขับทุกคันว่าเข้านิมมานมั้ยคะ 55555555 สุดท้ายแล้วสายที่เข้านิมมานคือสายสีเหลือง จ่ายเงินแบบใช้เหรียญหยอด ถ้าไม่มีเหรียญบนรถก็มีเครื่องแลกเหรียญให้อีกต่างหาก สะดวกสบายมาก คนขับก็ใจดีมีมารยาท รถคันใหม่ แต่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยจะมีคนเมืองนั่งเท่าไร คันที่เราขึ้นก็โล่งมาก ๆ
พอกลับที่พักก็ยังพอมีเวลา เลยไปหาคาเฟ่นั่ง ก็ไปเจอร้านใกล้ ๆ กับที่พัก Charin Pie พายจริณ นิมมานซอย 17 เหมือนเป็นคาเฟ่ที่เอาบ้านเก่ามาทำเป็นร้านขนม ไม่ได้ปรับแต่งอะไรมากมาย แต่เก๋มากกกกก เพราะบรรยากาศแบบบ้านไม้เลย ตอนแรกเรานึกว่าไม่มีคน แต่พอเดินเข้าไปคือคนนั่งเต็มทุกโต๊ะ นั่งกินเล่นบ้าง คุยงานบ้าง ทำงานบ้าง ดูแล้วชิลล์ไปอีกแบบ แถมเค้กกับชาเขียวปั่นอร่อยจุก ๆ ไม่จกตา ประทับใจมาก ใครไปนิมมานอย่าลืมแวะไปนะ
บังเอิญไปเจอรูปพี่นะ พี่เพียว POLYCAT ที่ร้านขายกล้องฟิล์มแถว ๆ ที่พักด้วย ;___;
สถานที่ต่อไปก็คือ Brandnew Field Good คาเฟ่กลางทุ่งนาเล็ก ๆ ของเป๊กและนิว นี่ก็คนเยอะม๊ากก แต่ไปแล้วก็สวยจริงนะ แค่ตรงทางเดินเข้าก็ถ่ายรูปกันหลายสเตป แถมของกินก็ออแกนิครักสุขภาพ อร่อยทุกอย่าง
ที่สุดท้ายของทริปนี้ก็คือถนนคนเดินเชียงใหม่เจ้า เดินซื้อของกันจุกจิก ๆ ก่อนที่จะไปสนามบินขึ้นเครื่องกลับกรุงเทพกัน บรรยากาศก็เปลี่ยนไปนิดหน่อยจากที่เราเคยไปเมื่อหลายปีที่แล้ว น่าจะประมาณเกือบ 5 ปีได้ แต่ก็ยังถือว่ารับได้ มีคนเมืองเดิน ไม่ได้เปลี่ยนไปขายนักท่องเที่ยวขนาดนั้น
สุดท้ายก็ถึงกรุงเทพอย่างปลอดภัยด้วยสายการบิน Vietjet Air บินไวเหมือนว๊าป กำลังจะหลับคือรีบสะดุ้งขึ้นมาเลยเพราะเครื่องพุ่งลงแล้ว ที่ตกใจคือนึกว่าเครื่องบินจะตกเพราะถึงเร็วเกิ๊น แต่ไม่มีอะไรค่ะ ปลอดภัยมาก ๆ 555555555555 ค่าเสียหายตั๋วเครื่องบินขากลับประมาณ 1,200 บาท
เป็นอันจบทริปเชียงใหม่แบบที่ได้ลองอะไรใหม่ ๆ อย่างเช่น รถไฟตู้นอน เชียงดาว ผับเอย คาเฟ่เอย ปิดจ๊อบไปแบบสวย ๆ งาม ๆ ปนความสะดวกสบายเพราะนั่งรถญาติแทบตลอดทั้งทริป 55555555 แต่เราว่ามันเที่ยวง่ายขึ้นเยอะเลยเพราะมีทั้ง Grab ทั้งรถเมล์ แบบไม่ต้องโดนรถแดงโขกราคากันกระเป๋าฉีก
แต่สิ่งที่แปลกใจคือคิดว่าคนจะเที่ยวเยอะกว่านี้แฮะ แต่นิมมานกลับโล่งมากกก ทั้งกลางวันทั้งกลางคืน มีร้านที่ขายนักท่องเที่ยวจีนเยอะขึ้น และอากาศก็ร้อนมาก ๆ ด้วย (ได้ความจากญาติว่าพอเราลงมากรุงเทพปุ๊ป เชียงใหม่ก็หนาวเลยจ้า เออ หรือกูนี่เองคือตัวซวย)
สรุปค่าเสียหายทริป กรุงเทพ-เชียงใหม่ 4 วัน 4 คืน
- ตั๋วรถไฟตู้นอนชั้น 2 800 บาท
- ตั๋วเครื่องบินขากลับ Vietjet Air 1,200 บาท
- ที่พักบ้านหมอกตะวัน เชียงดาว 600 บาท
- ที่พักบ้านเมฆโฮสเทล 500 บาท
นอกนั้นก็เป็นค่าใช้จ่ายจุกจิก ค่ากิน ค่าขนม ของฝาก ค่าเดินทาง คาเฟ่ ตั่งต่าง ถ้าเราจำไม่ผิดน่าจะประมาณ 4,500 บาทก็อยู่แล้วสำหรับทริปนี้ แฮปปี้ ~
ปิดท้ายไปด้วยกล้องเรากับเพื่อนในทริปนี้ กรุบกริบ ๆ 555
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in