เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
แอบอ่านไดอารี่.. 2009 เกาหลีเบื้องต้น101keep an ire on him
2009 เกาหลีเบื้องต้น101 - Day 3/2
  •      กล้องของฉันทำงานหนักมากพอแล้วถึงเวลานอนกลางวันแล้วล่ะ เมื่อฉันยังไม่ได้ยินเสียงท้องตัวเองร้อง เลยตัดสินใจออกเดินทางตามลายแทงต่อไประหว่างที่ฉันกำลังเปลี่ยนสถานีรถไฟใต้ดินอยู่นั้น มีคุณยาย หลังงองุ้ม ถือข้าวของพะรุงพะรัง แต่ท่าทางใจดี เดินตรงเข้ามาหาฉัน ฉันเริ่มใจเต้น ก็ภาษาเกาหลีของฉันมันมีอยู่น้อยนิดซะเหลือเกิน ในทีแรกฉันฟังท่านไม่รู้เรื่องเลยซักคำ เดาไม่ถูกอีกต่างหาก ฉันบอกท่านเป็นภาษาเกาหลีว่าฉันพูดภาษาเกาหลีไม่ได้ ท่านก็ได้แต่ส่งยิ้ม ฉันเลยถามท่านอีกทีด้วยภาษาเกาหลีพื้นฐานว่า ท่านกำลังจะไปไหน ท่านบอกที่หมายมา ฉันใช้เวลาอยู่นานกว่าจะจับใจความได้ แต่ก็จนปัญญาที่จะช่วยจริงๆ สุดท้ายฉันต้องจับมือคุณยาย เดินไปหาพนักงานในสถานี ก่อนจะจากกันท่านยังโค้งให้ฉัน อารามตกใจ ฉันจึงโค้งตอบคุณยายจนหัวเกือบจะชนกันซะนี่ ฉันยิ้มกับตัวเอง ฉันได้รับการช่วยเหลือมามากมายจากวันก่อนหน้านี้ วันนี้ฉันได้ตอบแทนเธอบ้างแล้ว ไม่มากก็น้อยล่ะนะ

    ..ชื่นใจจัง..

    ฉันปล่อยตัวเองเดินทอดน่องอยู่แถว ย่านดงแดมุน (Dongdaemun) เสื้อผ้าเยอะแยะมากมาย แขวนอยู่จนละลานตา ให้เลือกกันไม่หวาดไม่ไหวฉันมองเห็นกลุ่มเด็กวัยรุ่นหลายกลุ่มเดินออกมาจากตึก Hello apm ต่างถือถุงใบน้อยบ้าง ใหญ่บ้าง ชอปปิ้งกันสนุกไปเลย ข้าวของยังไม่ถูกจริตของฉันสักเท่าไหร่ฉันเลยพุ่งไปที่ชั้น Young Designer ที่ห้าง Doota ฉันไล่แตะราวแล้ว ราวเล่า น่าสนใจดีทีเดียว ฉันไม่แน่ใจว่า เป็นฝีมือของนักออกแบบน้องใหม่ชาวเกาหลีทั้งหมดหรือไม่ แต่ในใจคิดค้านอยู่เบาๆ ก็ฉันดันเหลือบไปเห็นร้านหนึ่งขายกระโปรงผ้าแม้วเหมือนที่ฉันเห็นที่เชียงใหม่เลยนี่นา ฉันยอมรับว่า ของหลายชิ้นเข้าตากรรมการอย่างฉัน แต่ฉันจะใช้กฎเดิม

    ..ฉันจะกลับมารับในวันรุ่งขึ้นนะ..

    หลังจากได้รับคำตอบในทุกๆชั้นแล้ว ขาฉันออกคำสั่งไปยังสมองให้ฉันออกจากห้างเดินเลียบไปตาม คลองชองกเยชอน (Cheonggyecheon stream) จากตรงที่ฉันอยู่นั้นถ้าจะถือว่าเป็นท้ายคลองคงไม่ผิดนัก มันจึงดูใกล้ชิดธรรมชาติและห่างไกลความเจริญอยู่เหมือนกัน สองฝั่งคลองเต็มไปด้วยหญ้า และต้นไม้เลื้อยทำให้ประชากรที่มานั่งเล่นแถบนั้นไม่ชุกชุมเท่าไหร่

         ฉันถือวิสาสะเลือกก้อนหินก้อนใหญ่ ริมแม่น้ำ ผลพลอยได้ของการใส่รองเท้าแตะวันนี้คือฉันสามารถเอาเท้าราน้ำได้อย่างสบาย น้ำใสจนเห็นปลาที่ตัวใสพอๆกันฉันเฝ้ามองกลุ่มคนที่เดินผ่านไปมา บ้างมาเป็นครอบครัว บ้างมาเป็นคู่ที่อาจจะกลายเป็นครอบครัวในวันข้างหน้า ปลาน้อยใหญ่ไม่ได้มาตอดเท้าของฉันเหมือนกับสปาเท้าที่ฉันเคยได้ยินแต่ฉันรู้สึกผ่อนคลาย เมื่อความคิดของฉันลอยไปกับเสียงน้ำไหล พร้อมๆกับไอความรักจากคู่คุณลุงคุณป้าที่ดูเหมือนจะแอบหนีลูกๆหลานๆออกมาเอาเท้าแช่น้ำ เพิ่มความหวานกันนอกบ้าน

    คลองแห่งนี้เหมือนเป็นคลองแห่งความรักความรักที่ผู้ปกคลองประเทศมอบให้ประชาชนทุกคนรัฐบาลสามารถเปลี่ยนคลองน้ำเสียเป็นคลองน้ำใส แถมยังสามารถเปลี่ยนความคิดเสียๆในสมองของฉันให้เป็นความคิดใสโปร่ง โล่งสบายได้อีกด้วย

    ..ฉันรู้ว่าเธออาจได้รับคำขอบคุณมามากมายนับไม่ถ้วนแต่ฉันขอบอกเธอดังๆอีกทีละกันนะ..

     

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in