เรื่องย่อหลังปก
หยาดน้ำตรงปลายผมไหลลงมาตามใบหน้าด้านข้าง ผ่านคางลงมาหยดกระทบโดนผมของเธอไม่กี่หยด เขาจ้องมองนิ่ง จากนั้นก็ยกมือขึ้นอย่างช้าๆ ใช้ปลายนิ้วปัดหยดน้ำให้หญิงสาวเบาๆ
คล้ายกับเธอไม่ได้สังเกตเห็น ไม่มีการตอบสนองแต่อย่างใด
เวินอี่ฝานสูงประมาณคางของเขา แต่โครงกระดูกเธอกลับเล็ก บนร่างแทบจะไม่มีเนื้อหนังเลย ตอนนี้ใบหน้าด้านข้างของเธอแนบกับแผ่นอกของเขา มือทั้งสองข้างกอดเอวของเขาไว้ เธอไม่ได้กอดแน่นจนเกินไป
การมีอยู่ของเธอมันรุนแรงซะจนคล้ายลาวาอันร้อนผ่าวหยดลงบนร่างของเขา
……………………….
นับจากวันที่ได้พบและพูดคุยกันครั้งสุดท้ายเมื่อหกปีก่อน ความทรงจำเรื่องเขาคนนั้นมันรางเลือนเสียจน ‘เวินอี่ฝาน’ แทบจะลืมไปแล้วว่ายังมีคนผู้นี้อยู่ เธอไม่คาดคิดว่าจะได้เจอหนุ่มหล่อที่เคย ‘จีบ’ เธออีกครั้ง และยิ่งนึกไม่ถึงว่าเขาจะกลายมาเป็นรูมเมตของเธอ!
เพราะเคยถูกอีกฝ่ายปฏิเสธรัก เมื่อได้พบกันอีกครั้ง ‘ซังเหยียน’ ผู้ไม่เคยแคร์ใครจึงมีท่าทีเย็นชาใส่ พาให้บรรยากาศของการได้มาอยู่ใต้ชายคาเดียวกันนั้นไม่ต่างอะไรกับการอยู่กับคนแปลกหน้า ทว่าทุกอย่างกลับค่อยๆ เปลี่ยนไป เมื่อ ‘ปัญหาการนอนละเมอ’ ของเธอกำเริบถึงขั้นเดินมา ‘จูบ’ เขาในคืนหนึ่ง!
คุยกันหลังอ่าน
เอ้ยย สนุกกกกกกกก 55555 เรื่องนี้คือดองไว้นานมากกกก แต่ก็ได้ยินมานานว่าสนุก ตอนแรกว่าจะอ่านแอบรักให้เธอรู้ ก่อนเรื่องนี้ แต่ไปๆมาๆ ก็มาอ่านเรื่องนี้ก่อน เราค่อนข้างชอบเลย
พระเอกเคยจีบนางเอกสมัยมัธยมมาก่อน นางเอกปฏิเสธไป แล้วสองคนนี้ก็มาเจอกันอีกครั้งในวัยทำงาน
แต่ว่ามันแบบบ กุ๊งกิ๊งมากกกกกกกก แบบเหมือนการ์ตูนตาหวานอะจริงๆ สนุกกก ชอบบบ
พระเอกบุคลิกแบบพระเอกการ์ตูนตาหวานที่ต้องนั่งข้างหลังตรงหน้าต่างอะไรประมาณนั้น แบบว่าดูหยิ่งๆ หน่อย ปากเสีย พูดจาเย็นชา ดูแบบไม่ใส่ใจ แต่จริงๆ ยังแอบชอบนางเอกอยู่ตลอดแล้วก็ใส่ใจตลอดด้วย
ส่วนปมของนางเอกก็แอบหนักเลย เป็นปมเรื่องครอบครัว ฉากที่ซังเหยียนพูดกับนางเอกว่า
คราวหน้าถ้าทำเงินหายอีกก็โทรหาฉันได้นะ ไม่ว่าเท่าไหร่ฉันก็ให้เธอยืมได้เข้าใจมั้ย
เราแบบน้ำตาซึมเลยอะ สำหรับเวินอี่ฝาน ซังเหยียนในเวลานั้นต้องแบบเหมือนฮีโร่ที่มาช่วยตัวเองอะ แล้วก็เข้าใจเวินอี่ฝานมากๆที่ปฏิเสธซังเหยียนแล้วพูดกับซังเหยียนไปแบบนั้น คือในตอนนั้นไม่มีสำคัญไปกว่าการวางตัวให้ดีในครอบครัวที่กำลังเลี้ยงเราอะ หงุดหงิดแม่นางเอกด้วย TT^TT
แต่สรุปก็คือ เล่ม 1 สนุกมากจ้า!
เรื่องย่อหลังปก
"มีเรื่องราวมากมายที่เวินอี่ฝานคิดว่าเธอไม่ควรจะได้รับมัน แล้วเธอก็ไม่อยากแย่งชิงมันมา เธอเพียงแต่หวังว่าตัวเองจะมีความกล้าพอ หวังว่าตัวเองจะพุ่งไปข้างหน้าโดยไม่คำนึงถึงอะไร ขอเพียงสักครั้ง... ที่เธอจะกระโจนไปหาเขาคนนั้นได้โดยที่ไม่ต้องคิดหน้าคิดหลัง
ถ้าหากคนคนนั้นเป็นซังเหยียน
เวินอี่ฝานตระหนักว่าเธอควรพยายามสักครั้ง พยายามอย่างที่สุดที่จะเป็นฝ่ายรักเขาอย่างหมดหัวใจ
………………………………………
ยิ่งอยู่ด้วยกันนานวัน ยิ่งก่อให้เกิดความคุ้นเคยผูกพันที่ทำให้เวินอี่ฝานไม่อยากแยกจาก
อีกทั้งความรู้สึกที่เคยเก็บกดไว้ก็คล้ายอยากจะเปิดเผยออกมาให้อีกฝ่ายได้รับรู้
เธอจึงตัดสินใจลอง ‘จีบ’ ซังเหยียนดูสักที
แม้ไม่มั่นใจว่าเขาจะยังถือสาเรื่องราวในอดีตจนไม่อยากเปิดใจให้เธออีกครั้งหรือเปล่าก็ตาม
เวินอี่ฝานไม่รู้เลยสักนิดว่าเขารอคอยให้เธอ ‘แสดงความรู้สึก’ ที่เก็บซ่อนไว้ในใจออกมา
เพื่อให้เขาได้มั่นใจที่จะมอบทุกสิ่งไว้ในมือเธออีกครั้ง
บรรยากาศที่เคยเป็นสีเทาเพราะความอึดอัดอึมครึมจึงเริ่มปรากฏริ้วสีชมพูแห่งความรัก
แต่ใครจะคาดคิดว่าความทรงจำสีดำในอดีตที่เวินอี่ฝานไม่อยากนึกถึง
จะกลับเข้ามาในชีวิตของเธอในช่วงเวลานี้เช่นกัน!"
คุยกันหลังอ่าน
รีวิวนี้เขียนตอนตีห้า คือโต้รุ่งมาก จริงๆไม่ได้ตั้งใจโต้กะว่าจะอ่านแค่เล่ม 1 แล้วไปนอน แต่ปรากฏว่าทำไม่ได้ เปิดเล่มสองต่อซะงั้น แล้วเล่มสองดันจบแบบ cliff hanger มากเลยทนไม่ไหวต้องเปิดเล่มสามต่อ 55555
ก็เล่มนี้น่ารักมากกกกกกกก นางเอกเข้าหาพระเอกก่อน แล้วก็ได้คบกันในที่สุด คือตัวพระเอกเหมือนเป็นแสงสว่างในชีวิตนางเอก พอคบกันก็แบบระมัดระวังมาก ไม่กล้าพูดเรื่องแย่ๆ ให้ฟัง เพราะกลัวว่าจะเป็นตัวปัญหาเหมือนตอนอยู่ที่บ้านลุงใหญ่อีก
ปล. แอบรู้สึกว่าแปลแปลกอะ 55555555
เรื่องย่อหลังปก
"“ฉันรู้สึกว่า...” เวินอี่ฝานมองหน้าเขา ในที่สุดเธอก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ “ฉันไม่คู่ควรกับนายเลย”
ซังเหยียนซับน้ำตาให้เธอ “เก็บคำพูดนี้ของเธอคืนไป”
“...”
“เวินซวงเจี้ยง เธอคิดว่าทำไมหลายปีมานี้ฉันถึงไม่ยอมมีแฟนสักที” ซังเหยียนจ้องเธอ เอ่ยด้วยน้ำเสียงเย่อหยิ่ง มองไม่เห็นหัวใคร “ฉันจะถูกตาต้องใจเฉพาะคนที่ดีที่สุดเท่านั้น เข้าใจมั้ย”
---------------------------------
ถึงแม้จะคบหาดูใจกันแล้ว ทว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขายังคล้ายมีกำแพงบางๆ กั้นขวาง
เวินอี่ฝานไม่อยากให้ซังเหยียนต้องมารับรู้เรื่องราวแย่ๆ ในชีวิตที่ผ่านมาของเธอ
ทั้งยังกังวลว่าเรื่องนี้จะมากระทบถึงความสัมพันธ์ จึงเลือกที่จะปิดบังเอาไว้
โดยไม่ทันคิดว่าการไม่พูดความจริงออกไปจะเป็นการทำร้ายเขาเหมือนเช่นในอดีต...
เพราะคิดว่าเวินอี่ฝานไม่เชื่อใจ ซังเหยียนจึงรู้สึกว่าเขาคงเข้าใกล้เธอได้เพียงเท่านี้
ไม่มีทางที่จะเดินไปถึงหัวใจของเธอ
ถึงกระนั้นเขาก็ยังอยากจะทำให้เธอได้รู้ว่าตั้งแต่นี้ต่อไป... โลกของเธอจะมีเพียงแสงสว่างเท่านั้น
แต่ถ้าเธอไม่ไว้ใจกันเช่นนี้ เขาจะพาเธอก้าวเดินไปถึงจุดนั้นได้อย่างไร..."
คุยกันหลังอ่าน
เล่มนี้ตอนอ่านช่วงร้อยหน้าแรกเราร้องไห้เลย เค้าเล่า scene น้าชายได้แบบเศร้ามากกก มันแบบสะพรึงอะ แล้วเราคิดว่ามันเป็นความกลัวที่ผู้ชายไม่มีวันเข้าใจแบบร้อยเปอร์เซ็น แล้วคือนางเอกแบบไม่มีใครจริงๆ โดยเฉพาะแม่อะ แบบอินมากเลย คือรู้สึกว่าเคสแบบนี้เจอได้บ่อยมาก เคสของการล่วงละเมิดทางเพศในครอบครัว ส่วนมากคนในครอบครัวด้วยกันเองนี่แหละรู้แล้วก็ไม่อยากพูดออกไปกลัวเสียหน้า ไม่ก็ปัดให้เป็นเรื่องที่คิดไปเองรึเปล่าเพราะไม่อยากเผชิญหน้ากับปัญหา คือปมของเวินอี่ฝานมัน realistic มากจนเราแบบร้องไห้ตลอดเลยตอนที่เป็นฉาก flashback แล้วก็แอบอยากให้เวิ่นอี่ฝานเล่าให้ซังเหยียนฟังได้อย่างปราศจากความรู้สึกกดดันกว่านี้อะ
ฉากที่แม่พูดในโทรศัพท์ว่าคิดไปเองรึเปล่า เราแบบร้องงง...ฮือ คิดไปเองพ่องสิ อินี่ แม่แบบแคร์แต่ตัวเองมากๆ
เป็นซีนที่เรารู้สึกว่าถ้าเราได้รู้จักเวินอี่ฝานในชีวิตจริง เราอยากกอดเธอแล้วก็พูดว่า เข้มแข็งมาก เก่งมากๆเลย
ตอนระหว่างอ่านเล่ม 3 อยู่ๆเราก็ไม่สบาย นอนแบ่บไปสองวัน ฮือ ตอนนี้ฟื้นคืนชีพแล้วแต่ก็ยังเวียนหัวอยู่ แต่ก็แอบมาอ่านค่ะ รู้สึกดีที่อ่านอะไรแบบเรื่องนี้ไม่เครีดยดมาก ตอนท้ายเป็นแนวแบบหวานๆล้วนๆ แต่งงานกัน แล้วก็มีช่วงเปิดเผยเรื่องราวในอดีต คือซังเหยียนคลั่งรักมากกกกกกกกกก ไม่เคยลืมนางเอกได้เลยแล้วก็ดูอยู่ห่างๆมาตลอดด TT^TT
รวมๆแล้วก็ชอบมากค่ะ เป็น 3 เล่มที่ดีมากกก ดีทั้งพระเอกนางเอก อยากมีซังเหยียนเป็นของตัวเอง
แต่ว่าการแปลแอบแปลกจริงๆอะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in