เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
EVERY SINGLE PIECE OF YOU MAKES ME FALLa week before valentine
[LUCAS/DOYOUNG] Into the Rabbit Hole
  • Title: Into the Rabbit Hole
    Rating: PG
    Fandom: NCT, WayV
    Categories: Shonen Ai
    Relationship: LUCAS/DOYOUNG
    Characters: LUCAS, DOYOUNG, JAEHYUN, JENO

    Note:

    • ไม่เคยเขียนคู่นี้เลย นี่คือครั้งแรก!
    • ทุกคนร่างเป็นคน แต่มีหูหางสัตว์เนาะ


    ––––––––––––––––––––

    กาลครั้งหนึ่ง กระต่ายตัวหนึ่งพลัดหลงเข้ามาในฝูงราชสีห์

    โดยธรรมชาติแล้ว เหยื่อเมื่อเข้ามากลางวงล้อมผู้ล่าเช่นนี้ ยอมมีท่าทีหวาดกลัว แต่กระต่ายตัวขาวที่ยืนจังก้าอยู่กลางดงสิงโต แม้หางกลม ๆ นั่นจะสั่นเล็กน้อย แววตาก็วูบไหว แต่กลับพยายามแสดงท่าทีเสมือนว่าตนไม่ได้กำลังจะกลายเป็นอาหารอันโอชะ

    “ข้า...ข้ามาเพื่อต่อรอง!”

    กระต่ายเอ่ยเสียงแข็ง จดจ้องสิงโตหนุ่มตัวหนึ่งที่ยืนขนาบข้างหัวหน้าฝูงด้วยแววตาไม่พอใจ

    เจ้าป่าหันมองสิงโตหนุ่มตัวนั้น ก่อนจะเอ่ยเสียงเรียบ

    “ไปทำอะไรไว้ ลูคัส”

    ลูคัสที่ทำไม่รู้ไม่ชี้มาตลอดสะดุ้ง ตากลมโตเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะรีบส่ายศีรษะปฏิเสธ

    “ข้าเปล่านะ”

    “ถ้าเจ้าไม่ได้ทำแล้วกระต่ายตัวน้อยนี่จะถ่อมาถึงกลางฝูงพวกเราทำไม” สิงโตเจ้าป่าพยักเพยิดมาทางสัตว์กินพืชตัวบาง ที่สิงโตทั้งปวงจ้องมองอย่างสนอกสนใจ “เขาคงไม่ได้มาเป็นอาหารให้เราหรอกมั้ง”

    “คืนลูกข้ามานะ!”

    กระต่ายโวยวายอย่างลืมกลัวตาย

    คราวนี้สิงโตทั้งหมดหันควับมาจ้องลูคัสทันที สิงโตหนุ่มหน้าเหวอ

    “ข้าเปล่านะ!”

    “เจ้าทำ!” กระต่ายไม่ยอมแพ้ “คืนลูกข้ามา!”

    “...เจ้าไปจับลูกกระต่ายมาหรือไง” เจ้าป่าคาดคั้น

    สิงโตหนุ่มส่ายศีรษะรัว “เปล่าสักหน่อย ข้าแค่ชวนแมวป่ามาเล่นด้วยวันก่อน––”

    เจโน่คือลูกชายข้า! คืนเขามานะ!”

    สาบานว่าทุกคนตรงนี้งง

    สิงโตต่าง ๆ พยายามลำดับเรื่อง กระต่ายตัวบางเสี่ยงตายมาถึงกลางฝูงราชสีห์ บอกว่าสิงโตหนุ่มลูกชายของเจ้าป่าผู้ยิ่งใหญ่พรากลูกไปจากเขา แต่ลูกของกระต่ายคือแมวป่า…?

    “พี่โดยอง!”

    แล้วแมวป่าก็ปรากฏตัวขึ้นพร้อมเสียงสดใสร่าเริง

    แมวป่าตัวใหญ่รูปร่างปราดเปรียวปรากฏตัวขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย สีหน้าเริงร่าขัดกับบรรยากาศงุนงงของฝูงสิงโต ตรงไปที่กระต่ายตัวบางที่มองด้วยแววตาห่วงหาอาทรอย่างถึงที่สุด

    ถ้าดูแค่สายตาก็ไม่ยากที่จะบอกว่าเป็นพ่อลูกกันจริง ๆ

    แต่เรื่องสายพันธุ์––ยังไงมันก็แปลก ๆ ไม่ใช่หรือไง

    ––––––––––

    เรื่องมีอยู่ว่า สองวันก่อนสิงโตหนุ่มนามลูคัสเดินเล่นไปในป่า พบแมวป่าร่างเพรียวกำลังหยอกล้อกับลูกเสือชีต้าอีกตัวเลยเล่นกันอย่างเพลิดเพลิน รู้สึกตัวอีกทีก็พากันมาเล่นใกล้ฝูงของสิงโต แล้วก็ไม่ยอมแยกย้ายกันกลับถิ่นตัวเองเสียที

    เสือชีต้าหนุ่มนามว่ามาร์คกลับฝูงไปเมื่อวันก่อน แต่แมวป่าไม่ยอมและดูจะอยากเกาะติดสิงโตไปอีกสักพัก จนลูคัสเข้าใจว่าอีกฝ่ายไม่มีฝูง นิยมชีวิตสันโดษแบบพวกแมวทั้งหลายทั้งปวง กระทั่งกระต่ายตัวนี้โผล่มานั่นแหละ

    “เจ้าล่อลวงลูกข้า”

    “ข้าเปล่า”

    จวบจนทุกอย่างกระจ่าง ฝูงสิงโตแยกย้าย กระต่ายโดยองก็ยังไม่ยอมรับว่าตัวเองเข้าใจผิด

    ลูคัสถอนหายใจ ปรายตามองร่างผอมบางที่ยืนจังก้าอยู่กลางบ้านเขา มีเจโน่เดินวนเวียนไปมาหาน้ำหาท่ามาให้ เป็นสถานการณ์ที่แปลกประหลาดไปเสียทุกอย่าง

    “กระต่ายจะเป็นพ่อแมวป่าได้ยังไง”

    “พี่โดยองเป็นคนเลี้ยงเรามา” เจโน่ที่รินน้ำชาอยู่หันมาตอบด้วยตายิ้ม ๆ “ก่อนเราจะเจอกับพี่แจฮยอน

    แมวป่าเอ่ยถึงพี่ชายของตนที่เคยเล่าเรื่องให้ลูคัสฟัง แน่นอนว่าลูคัสไม่เคยเจอหรอก

    “อธิบายให้ผู้ปกครองของเจ้าฟังทีว่าข้าไม่ได้มีเจตนาไม่ดี”

    ลูคัสยอมแพ้ เลือกยุติการเจรจาแล้วให้เจโน่พูดเอง เขาโดนพ่อดุจนหงอ เสียมาดว่าที่เจ้าป่าหมด ทำไมเขาต้องมายอมให้กระต่ายตัวผอมที่ถ้าเขากระโดดทับทีเดียวก็แบนด้วย

    “พี่โดยอง เชื่อข้าเถอะ ลูคัสเป็นเพื่อนนะ”

    แววตาคาดคั้นของกระต่ายหนุ่มอ่อนลง

    “...ถ้าเจ้าว่าอย่างนั้น”

    “มันไม่มีอะไรจริง ๆ คุณกระต่าย” ลูคัสพูดช้า ๆ ด้วยน้ำเสียงหมดแรง “ข้าจะจับแมวป่ามาทำไม ไม่ได้น่ากินเหมือนกระต่ายหรอก”

    “...ตอนนี้ก็ไม่ควรพูดว่ากระต่ายน่ากินนะ ลูคัส”

    เขายักไหล่กับคำพูดของเจโน่ ขณะที่โดยองสะดุ้งเฮือก ผงะถอยห่างเขาออกไปอีกหลายเมตร

    “ถ้าข้าจะกินท่านนะ ท่านคงไม่รอดมาอยู่ตรงนี้ตอนนี้หรอก หายห่วงได้” ลูคัสกวาดสายตาจากหัวถึงเท้า “ผอมแห้งแบบนี้ กินไปก็ไม่อิ่มหรอก”

    กระต่ายโดยองดูอารมณ์เสียขึ้นมาทันที เท้าข้างหนึ่งตบพื้นรัว ๆ จนได้ยินเสียง ตึก ๆๆๆๆ รัว ๆ อย่างน่าขัน

    “งั้นวันนี้เจ้าก็กลับได้แล้วนะ เจโน่” เขาบอกแมวป่าหนุ่ม “ต้องให้ข้าไปส่งไหม”

    “อ๋อ” เจโน่วางชาให้โดยอง รอจนโดยองยกขึ้นจิบจึงเอ่ย “ข้านัดพี่แจฮยอนไว้ ยังไงรบกวนลูคัสไปส่งพี่โดยองที่โพรงกระต่ายได้ไหม”

    น้ำชาที่เสียเวลาชงอยู่นานพุ่งจากปากโดยองทันที

    “...อะไรนะ”

    “น้า พี่โดยอง” แมวป่าเกาะแขนผู้ปกครอง ทำแววตาออดอ้อน หางยาว ๆ วาดไปมาในอากาศ “พี่จะได้นอนให้เต็มที่เลยไง เดี๋ยวข้าเอาของอร่อยมาฝาก พี่แจฮยอนทำอาหารอร่อยมากนะ!”

    โดยองกลอกตา สีหน้าเหมือนไม่อยากรับรู้อะไรอีกเลย

    ลูคัสก็เช่นกัน ให้ตายเถอะ หรือเขาไม่ควรรู้จักแมวป่านี่ตั้งแต่แรก

    ––––––––––

    และทั้งลูคัสกับโดยองก็พ่ายแพ้ให้แก่ลูกอ้อนของแมวป่าเจโน่

    เส้นทางจากบ้านของสิงโตหนุ่มที่อยู่ในอาณาเขตฝูงราชสีห์อยู่ห่างจากโพรงกระต่ายของโดยองพอสมควร ฟ้ายามนี้บ่งบอกว่าพระอาทิตย์จะตกในเวลาไม่นาน ทำให้พวกเขารีบอยากเดินทางกลับให้เร็วที่สุด

    “ถ้ามืดมากพี่โดยองก็ให้ลูคัสนอนที่บ้านก่อนนะ” เจโน่ว่า “นอนห้องข้าก็ได้”

    “ข้าเกรงใจ––/เรื่องอะไรจะให้สิงโตมานอนในบ้านข้า”

    พวกเขาโพล่งขึ้นมาพร้อมกัน ก่อนจะหันมามองหน้ากัน

    เจโน่มองพวกเขาแล้วขำคิกคัก หางยาว ๆ สะบัดไปหา ท่าทางอารมณ์ดีอย่างน่าหมั่นไส้

    “งั้นข้าไปก่อนนะ พรุ่งนี้ตอนเย็นเจอกันพี่โดยอง”

    แล้วก็วิ่งหายลับเข้าไปในป่า

    ความเงียบโรยตัวอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนกระต่ายจะเอ่ยก่อน

    “ข้ากลับเองได้ ไม่ต้องให้เจ้าเสียเวลาเดินไปส่งหรอก”

    “ในฐานะเจ้าบ้าน อย่างน้อยข้าก็ต้องไปส่งถึงชายป่า”

    “เสียเวลาเปล่า ๆ”

    “พูดมากน่า มาเถอะ”

    สิงโตไม่รออีกต่อไป หิ้วเขาขึ้นหลังแล้วเดินออกจากจุดนั้นทันที

    โดยองเหวอ โวยวายเสียงดังอยู่บนหลังของเขา แต่ลูคัสไม่ฟัง รีบวิ่งไปตามทางด้วยความรำคาญ

    ถึงเร็วก็จะได้จบกันเร็ว ๆ ไม่อยากรับรู้อะไรเรื่องพวกนี้อีกแล้ว ปวดหัวววววววว

    ––––––––––

    พวกเขามาถึงโพรงกระต่ายตอนพลบค่ำเช่นที่เจโน่ทำนายไว้

    กระต่ายขอลงเดินตั้งแต่ยังไม่ทันพ้นชายป่า โวยวายว่าเขาวิ่งเร็วเกินไปจนกระต่ายหูลู่ไปหมด พอลงเดินข้าง ๆ ก็เอาแต่ยกมือลูบหูยาว ๆ ของตน และนั่นคือจุดเริ่มต้นบทสนทนาไร้สาระของพวกเขา

    “หูยาวขนาดนี้ต้องได้ยินไกลมากแน่ ๆ ใช่ไหม”

    “ก็นิดนึง ไว้เวลาหนีผู้ล่ามั้ง”

    “แบบนี้ถ้าข้าห่างจากเจ้าไปสองกิโลก็จะได้ยินเหรอ”

    “เดี๋ยว ๆ แล้วเจ้าจะเดินไปทำไม”

    ฯลฯ

    กลายเป็นว่าเหมือนเรื่องบาดหมางเมื่อหลายชั่วโมงก่อนไม่เคยเกิดขึ้น พวกเขามาถึงโพรงกระต่ายพอคอที่แห้งยิ่งกว่าทะเลทรายเพราะเอาแต่คุยกันตลอดทาง โดยองพบว่าเจ้าสิงโตนี่เป็นผู้ฟังที่ดีเอาเรื่อง เวลาตาโต ๆ มองอย่างจดจ่อก็ทำให้เขารู้สึกอยากเล่าเรื่องหรือตอบคำถามให้ละเอียดที่สุด

    ส่วนลูคัสกำลังคิดว่ากระต่ายตัวนี้น่านับถือกว่าที่คิด ไม่ได้ดูมีอำนาจบารมีแบบพ่อของเขา แต่เป็นคนที่ถามอะไรก็จะตั้งใจตอบ ซึ่งในฝูงของเขาไม่ค่อยมี (และมักไล่ให้เขาไปหาคำตอบเองเสมอ)

    ถึงจะทำท่ารำคาญบ้างบางที แต่จริง ๆ ก็นิสัยดีกว่าที่คิด

    สมควรแก่การผูกมิตรด้วย!

    “วันนี้เจ้านอนห้องเจโน่นะ” กระต่ายป่าย้ำอีกรอบ หลังจากเสิร์ฟอาหารค่ำ (ต้มผักแหยะ ๆ ไม่มีเนื้อเลยสักนิด) ให้เขา

    ลูคัสพยักหน้ารับ วางแผนว่าตัวเองน่าจะต้องออกเดินทางสาย ๆ หน่อยเพื่อให้ทันมื้อเที่ยงของบ้านสิงโต

    แต่ยังไม่ทันหัวถึงหมอน เสียงฟ้าผ่าเปรี้ยงก็ทำเอาเขาสะดุ้ง

    สำหรับสิงโตแล้ว เสียงฟ้าร้องดังกึกก้อง แต่ก็เพียงเท่านั้น พวกเขาไม่ได้ตื่นกลัวอะไร และนอนต่อได้ถ้าไม่ที่พักที่กันลมกันฝน ซึ่งบ้านหลังเล็กหรือโพรงกระต่ายนี้ก็ดูพร้อมรับพายุได้ดี

    แต่ไม่รู้ว่ากระต่ายตัวน้อยนั่นจะโอเคกับอากาศแบบนี้หรือเปล่า

    จู่ ๆ ลูคัสก็คิดว่า สัตว์กินพืชอาจจะหวาดหวั่นกับเสียงอึกทึกแบบนี้ จึงแง้มประตูห้องออกไป ตั้งใจจะไปเคาะประตูเรียกเจ้าของบ้าน

    ทว่าโดยองยืนรอเขาอยู่หน้าห้อง สีหน้าตกใจ

    “ลูคัส”

    “คุณโดยอง”

    “กำลังกลัวว่าจะนอนไม่หลับ”

    “ข้าก็คิดว่าท่านจะเป็นแบบนั้นเหมือนกัน”

    “...”

    “...”

    สรุปว่าพวกเขาต่างก็กังวลว่าอีกฝ่ายจะกลัวกันไปเองทั้งนั้น

    โดยองชวนเขามาที่ห้องนั่งเล่น จุดตะเกียงแล้วยกนมร้อนมาวางบนโต๊ะ

    “ดูท่าคืนนี้จะยาวนะ”

    “นั่นสิ”

    “ไม่ได้กลัวหรอกนะ แต่เสียงดังขนาดนี้คงนอนไม่หลับ”

    “ปกติท่านทำยังไงเหรอ”

    โดยองยกมือขึ้นอุดหู “มีที่อุดหูน่ะ”

    “ว้าว เข้าท่า แต่หูเจ้าดีมาก ๆ มันคงดังกว่าปกติมากสินะ”

    กระต่ายพยักหน้ารับ แล้วนั่งลงข้าง ๆ เขา

    ฟ้าร้องอยู่อีกสองสามครั้ง ก็ได้ยินเสียงเม็ดฝนกระทบหลังคา ไฟในตะเกียงวูบไหว พวกเขาจิบนมร้อนรอเวลาฟ้าสงบอยู่เพียงลำพัง

    “สถานการณ์พิลึกชะมัด” กระต่ายน้อยว่า

    “ปกติท่านอยู่คนเดียวแบบนี้เหรอ”

    พอเขาถาม โดยองก็ยิ้ม

    “ก็จนเจอเจโน่นั่นแหละ”

    โดยองเล่าว่า เขาเจอเจโน่ตั้งแต่ยังตัวเล็ก ๆ ในคืนวันฝนตกแบบนี้เช่นกัน ด้วยความกลัวว่าแมวป่าจะหนาวตายเลยเอามาเลี้ยง ไป ๆ มา ๆ ก็กลายเป็นผู้ปกครองของเจ้าตัวเล็กนั่นไป

    “แต่ทุกวันนี้เจโน่โตขึ้นมากเลย คิดถึงตอนเด็ก ๆ ชะมัด”

    ลูคัสนึกภาพเจโน่ตอนเป็นเด็กไม่ออก แต่คิดว่าน่าจะแสบเอาเรื่อง เดาจากนิสัยปัจจุบันที่เขาเจอ

    เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า กระต่ายผล็อยหลับไป ขณะที่สัญชาตญาณผู้ล่าทำให้เขาเฝ้าระวังตลอด ลูคัสมองคนที่นอนฟุบโต๊ะแล้วรู้สึกเมื่อยแทน จึงถือวิสาสะอุ้มร่างของเจ้าบ้านมานอนบนโซฟา หาผ้ามาห่มให้ แล้วยกตะเกียงมาไว้ใกล้ ๆ รวมทั้งย้ายตัวเองมานั่งข้างโซฟาด้วย

    เขาลอบมองสีหน้ายามหลับใหลของกระต่ายเจ้าของบ้านที่วูบไหวตามเปลวเทียนในตะเกียง จู่ ๆ ในหัวก็แวบขึ้นมาว่า กระต่ายตรงหน้าไม่ได้น่ากินเลย แต่น่าทะนุถนอมอย่างบอกไม่ถูก

    อ่า

    หรือเขาไม่ควรรู้สึกแบบนี้นะ

    สิงโตหนุ่มที่กำลังสับสนส่ายศีรษะไปมาจนผมยุ่ง แล้วนั่งพิงข้างโซฟา รู้สึกตัวอีกทีพระอาทิตย์ก็ส่องตาเสียแล้ว

    พอเขาลืมตาขึ้น ก็พบเจ้าของบ้านนั่งจ้องหน้าเขาอยู่

    สิงโตผงะเล็กน้อย กระต่ายยิ้มแป้น

    “นอนตรงนี้ทั้งคืนเลยเหรอ เมื่อยแย่”

    “...เผลอหลับไปน่ะ”

    “กินข้าวเช้ากันแล้วค่อยไปนะ หรือจะอยู่รอเจโน่ก็ตามใจเจ้าเลย” โดยองผละออกไปพร้อมพูดขณะเดินไปที่ครัว “ข้าว่าเจโน่อาจจะกลับมาเร็วกว่าที่คิด”

    ลูคัสตอบรับในลำคอ เดินตามเข้าครัวไปแบบมึน ๆ

    ตะกี้ตอนลืมตาขึ้นมาแล้วเห็นกระต่ายตัวขาวอยู่ตรงหน้า เขานึกว่าตัวเองฝัน เกือบไปแล้วเชียว

    มื้อเช้าเป็นผักต้มเช่นเดิม แต่มีขนมปังพอให้รู้สึกว่าชีวิตมีสีสัน(?)มากขึ้นหน่อย ลูคัสปาดแยมผลไม้ใส่ขนมปังปิ้ง กลิ่นหอมของเบอร์รี่ช่วยให้รู้สึกสดชื่นขึ้นมานิดหน่อย

    แล้วก็มีเสียงกริ่งดังขึ้น ประตูบ้านเปิดออกพร้อมร่างคุ้นตาของแมวป่าตัวเพรียว และ...แมวป่าอีกตัวที่เขาไม่เคยเห็น แต่หน้าเหมือนเจโน่ชะมัด

    “พี่โดยอง กลับมาแล้ว มีอาหารมาให้ด้วย มีพี่แจฮยอนมาด้วย!”

    เจโน่ส่งเสียงร่าเริง พอเห็นเขาก็โบกมือทักทายใหญ่ ขณะที่แมวป่าชื่อแจฮยอนสะดุ้งเล็กน้อยตอนเห็นว่ามีสิงโตนั่งอยู่ในห้องอาหารบ้านกระต่าย

    มื้อเช้าเป็นไปอย่างวุ่นวาย เมื่อแจฮยอนเริ่มทำอาหาร เจโน่วอแว โดยองพยายามพูดให้เจโน่อยู่เฉย ๆ แต่ไม่สำเร็จ แจฮยอนเลยดุจนเจโน่มาเกาะติดเขาแทน ส่วนเขาพยายามหาเรื่องคุยกับโดยอง

    ทำไมน่ะเหรอ

    ไม่รู้สิ ก็...อยากคุยเฉย ๆ มั้ง

    ไม่รู้ สิงโตหนุ่มไม่รู้อะไรเลย เขาแค่ทำตามสัญชาตญาณตัวเองแบบที่บรรพบุรุษชอบพร่ำสอน เพราะพวกเขาเป็นเจ้าป่าได้ก็เพราะเชื่อในเซนส์ของตัวเองนี่แหละ

    กว่าลูคัสจะตัดสินใจออกจากบ้านโพรงกระต่ายนั่น ก็เกือบจะเป็นมื้อเที่ยง

    แจฮยอนที่ตอนแรกระแวงเขา ตอนนี้เริ่มยิ้มให้บ้างแล้ว (มีลักยิ้มด้วย น่ารักจัง!) และต้องคอยปรามน้องชายตัวเองตลอด ส่วนโดยองยิ้มกว้างให้เขาจนตายิบหยี

    “ขอโทษที่เข้าใจผิดนะ แล้วว่าง ๆ ไว้มาเที่ยวใหม่”

    น่าจะเป็นคำขอโทษแรกตั้งแต่มีเรื่องกัน แต่ลูคัสไม่ได้ถือเรื่องนั้น

    “...ข้ามาได้อีกใช่ไหม”

    สิงโตเป็นเพื่อนกับกระต่าย ไม่แปลกใช่ไหม

    แมวป่าสองตัวและกระต่ายหนึ่งตัวมองหน้าเขา ก่อนจะพยักหน้าพร้อมกัน

    “มาได้เสมอแหละ”

    “แต่ผักต้มน่าเบื่อนะ แนะนำให้กินเนื้อมาก่อนแล้วค่อยมากินข้าวที่นี่” เจโน่ว่า และโดนแจฮยอนหยิกไปทีหนึ่ง

    ลูคัสยิ้มกว้าง โบกมือให้ทั้งสาม

    “ไว้จะมาอีกนะ”

    “ไว้เจอกัน”

    ก่อนจะหันหลังเดินออกไป ว่าที่เจ้าป่าบันทึกเรื่องราวสั้น ๆ ของวันนี้ไว้ในใจ และคิดว่าอีกไม่เกินสองอาทิตย์ ยังไงเขาก็ต้องหาทางกลับมาที่โพรงกระต่ายนี้ให้ได้

    ถึงผักต้มจะแหยะมาก แต่เขายังมีเรื่องอยากคุยกับกระต่ายตัวขาวนั่นเยอะแยะเลย

    FIN

    ––––––––––

    200124

    ฉลองวันเกิดเจ้าคัสของแม่ หอมหัวหน่อยค้าบบบบบบบ

    จริง ๆ ลังเลอยู่นานว่าจะเขียนอะไรดีระหว่าง ลูมาร์ค ลูเซียว หรืออะไร แล้วนึกได้ว่า ยังไม่เคยเขียนคู่นี้เลยนี่นา!

    ก็เลยเขียน ออกมาเป็นนิทานที่ไม่ได้สอนอะไรเลย อยากเขียนเฉย ๆ แหะ

    ชอบหรือไม่ยังไง บอกกันได้ที่นี่ หรือ #wrficnct นะคะ

    ขอบคุณที่ติดตาม เลิฟยอล

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in