วิคตอเรียในปัจจุบันไม่เคยพ่ายแพ้ต่อสงครามใดใดไม่ใช่เพราะฉันคือผู้ชนะแต่เป็นเพราะฉันไม่เอาตัวเองลงไปอยู่ในเรื่องใดใดที่ไม่มีความจำเป็น ถ้าไม่เริ่มเล่นตั้งแต่แรกเราก็จะไม่เป็นผู้แพ้ จริงไหม? ไม่ใช่เรื่องขี้ขลาดตาขาวหรอกนะที่จะหันหลังเดินออกมาจากเรื่องราวใดใดอันจะทำพามาซึ่งความวุ่นวายโดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ชีวิตกำลังไปได้สวย
แม้แต่การท้าทายจาก
ยอมรับว่าในตอนแรกฉันยังไม่รู้ตัวหรอกว่านี่คืออีกหนึ่งสงครามฉันหลงผิดคิดไปเองว่ามันคือเรื่องจริง แต่ใช้เวลาไม่นานฉันก็ได้รู้
เขาไม่ได้ต้องการหัวใจฉัน
ชัยชนะต่างหากที่เขาต้องการ
มันไม่ใช่ความผิดของใครที่จะเอาหัวใจไปวางในมือคนที่ไม่ต้องการมันคือความผิดของเราเอง ครั้งหนึ่งฉันเคยผิดพลาดความผิดพลาดเดิมจะไม่มีทางเกิดขึ้นอีกเป็นครั้งที่สอง ช่วงเวลาของการเอาหัวใจไปวางเอาไว้ต่อหน้าใครสักคน ใครสักคนที่ไม่ต้องการ ใครสักคนที่จะทำลายหัวใจของเรา ช่วงเวลานั้นของฉันมันจบลงไปแล้ว แนวทางการใช้ชีวิตของฉันอาจจะดูสุ่มเสี่ยงไร้ซึ้งความปลอดภัย ถึงกระนั้นฉันก็รู้ตัวดีว่ากำลังทำอะไรอยู่
เขาเองก็เคยอยู่เคียงข้างฉันในช่วงเวลาชีวิตที่พังไม่เป็นท่าเขารับรู้ว่าสภาพฉันในตอนนั้นมันโคตร จะ พัง แต่ก็ไม่แคล้วคิดจะเล่นตลกปั่นหัวให้ชีวิตกลับไปพังพินาศเหมือนเดิมเพียงเพราะว่ามัน “สนุก” น่าโมโหสิ้นดี
หากเขาต้องการจะเล่นเกมส์
จะให้ฉันดึงตัวตนในส่วนที่เป็นด้านแย่ๆออกมาเพื่อเอาชนะก็ยังทำได้
แต่ฉันเลือกที่จะไม่ทำ
เพราะมันเสียเวลา
ให้ฉันมีชีวิตอย่างสงบสุขต่อไปมันยากนักหรือทำไมต้องอยากเห็นฉันหัวหมุนกลับไปเป็นแม่สาวผู้เศร้าโศกจากความรักอันไม่สมหวัง ทำไม
บางทีเหตุผลทั้งหมดทั้งมวลอาจจะเป็นเพราะฉันดูโง่งมงาย หลอกง่าย ไว้ใจผู้คน เขาถึงได้อยากจะรังแกนักหนา คนนิสัยไม่ดี
เกลียดที่ต้องยอมรับว่าเขาน่ะเก่งรู้วิธีอ่านใจคน จะเดินหมากยังไงให้ชนะทุกครั้ง เขาเป็นคนประเภทที่ไม่เคยสัมผัสความพ่ายแพ้มาก่อน และรู้อะไรไหม เขาอาจจะเอาชนะศึกมานับร้อยครั้ง แต่ฉันจะเป็นศึกครั้งที่หนึ่งร้อยหนึ่งที่เขาจะไม่มีทางเอาชนะได้
บนโลกนี้มีคนอยู่สองประเภท
ผู้พิชิต
กับผู้ถูกพิชิต
ฉันไม่มีความสนใจที่จะกลับไปเป็นอย่างหลัง
สงครามใดที่ไม่มีทางชนะ ฉันจะไม่ร่วมรบ และนั่นคือเหตุผลที่ทำให้ฉันเป็นศึกที่ไม่มีวันพ่าย
บทความข้างต้นค่อนข้างจะเต็มไปด้วยอารมณ์กรุ่นโกรธปนเปกับอัตตาที่สูงติดเพดาน ฉันรู้ตัวดี ขอให้คิดเสียว่าฉันก็คือมนุษย์คนหนึ่งโกรธได้ร้องไห้เป็น คุณสามารถอ่านและวิจารณ์ได้แต่อย่าพึ่งเอาไปปรับใช้เสียทั้งหมด มันไม่ดีที่จะตัดสินใจอะไรตอนอารมณ์ไม่ดี
กลับมาเข้าสู่โหมดวิคตอเรียผู้สงบนิ่งคนเดิม คราวนี้ฉันจะลองพูดด้วยความรู้สึกโลกสวย วิ่งเล่นอยู่ในทุ่งหญ้าลาเวนเดอร์ดูบ้างพวกคุณจะได้ไม่มองว่าทัศนคติฉันรุนแรงมากเกินไปนัก
เริ่มจากตรงไหนดีล่ะ
คำถามต่อมาคือ ชนะแล้วได้อะไร
มีเพียงความสะใจกับศักดิ์ศรีล่ะมั้งฉันคิดว่า
ไม่รู้สิ มาถึงตอนนี้ฉันยังมองถึงผลประโยชน์ของการเอาชนะคำท้าทายไม่ได้ ออกจะมองว่ามันไร้สาระเสียด้วยซ้ำ ศักดิ์ศรีของคนเราจะถูกทำลายโดยใครไม่ได้ถ้าเราไม่ยินยอมให้เขามากดมันให้ตกต่ำลงเพราะตัวเราเอง ดังนั้นการเอาชนะไม่ได้ช่วยกอบกู้ศักดิ์ศรีแต่อย่างใด นั่นคือสิ่งที่คนเรามักชอบคิดไปเอง
แต่ถ้ามันหลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ แบบว่าเส้นสติขาดผึงจนอยากลุกไปต่อยหน้าอีกฝ่ายสักที ฉันแนะนำให้นั่งลงหายใจเข้าลึกๆ ถามตัวเองว่าได้คุ้มเสียหรือไม่ สิ่งที่จะได้รับคืนมาสามารถจับต้องได้หรือเปล่า หากมันเป็นเพียงนามธรรมหรือคำท้าทายจากคนที่บ้าชัยชนะจนยอมแพ้ไม่เป็น มองข้ามไปเถอะค่ะ เพราะชัยชนะที่แท้จริงเกิดจากการปล่อยวาง
เอาล่ะ มาถึงตรงนี้คุณอาจจะเริ่มจะสงสัยแล้วว่ายัยนี่โดนล้างสมองมาแล้วแน่ๆ คำตอบคือไม่ค่ะ ฉันยังไม่โดนล้างสมองแต่อย่างไร วิคตอเรียยังสบายดี อย่างน้อยในตอนนี้ถ้าคุณยังไม่เชื่อแค่เก็บไปนอนคิดฉันก็จะดีใจเป็นอย่างยิ่ง ถ้าวันหนึ่งประสบการณ์มันสามารถตกตะกอนออกมาเป็นความคิดที่เห็นด้วยกับคำพูดของฉัน ถือว่าความพยายามของฉันไม่เสียเปล่า
เปรียบเทียบสถานการณ์จำลองแบบง่ายๆถ้าคุณยืนอยู่ในห้องหนึ่งและโยนลูกบอลใส่กำแพงมันก็จะกระเด้งกลับมาหาคุณแบบไม่มีวันหยุด หากครั้งไหนที่รับลูกบอลได้ก็โชคดีไปแต่หากพลาดขึ้นมา บอลก็อาจกระแทกลำตัวจนเกิดเป็นบาดแผล วนเป็นลูปไม่มีวันจบสิ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า
แต่หากคุณแก้สถานการณ์ด้วยการถือลูกบอลให้มั่นเอาไว้ในมือไม่โยนไปใส่กำแพงอีก มันก็จะไม่สามารถทำอันตรายแก่คุณ เรื่องทุกอย่างก็จะจบลงแต่เพียงเท่านั้น
การสาวความยาวต่อความยืนด้วยเจตนาที่บอกตัวเองว่า “แค่อยากจะเคลียร์กันให้รู้เรื่อง” บางทีจุดจบอาจจะเลวร้ายยิ่งกว่าเดิม การมีชีวิตอยู่กับความรู้สึกคั่งคาใจมันน่าหงุดหงิด แต่คุณเลือกที่จะมองข้ามมันไปได้ ถ้าใจคิดจะทำ
แต่หากคิดจนถี่ถ้วนว่าดีที่จะเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงขอให้เตรียมใจรับผลกระทบที่จะตามมา ถ้าเจ็บตัวเพราะเรื่องเดิมๆอย่างคนที่ไม่เคยหลาบจำ หาได้น้อยคนที่จะโอ๋คุณด้วยความจริงใจ ไม่ใช่พูดตอกหน้าด้วยความจริงอันเถียงไม่ออก “ฉันบอกเธอแล้ว”
วิธีเอาชนะที่ได้ผลชะงักคือการใช้ชีวิตต่อไปโดยปราศจากคนๆนั้น ใช้ชีวิตโดยไม่มีเขา แสดงให้เขาเห็นว่าคุณแข็งแรงพอที่จะมีความสุขได้โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาใคร คุณสามารถเติมเต็มความต้องการของตัวเองได้ด้วยตัวเอง
ยิ่งคุณยิ้ม หัวเราะ มีความสุขมากเท่าไหร่ มันยิ่งเป็นอาวุธที่รุนแรงมากเท่านั้น การเอาชนะความไม่อ่อนโยนคือการอ่อนโยนด้วยใจจริง หากทำแบบนั้นได้แล้วต่อให้ศึกนั้นจะหนักหนาสาหัสมากเท่าไหร่ ชัยชนะก็จะอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมมือ
- Victoria D. Gwyneth
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in