เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
รีวิวเว้ย (2)Chaitawat Marc Seephongsai
VACCINE WAR สมรภูมิวัคซีนโควิด-19 By ป๋วย อุ่นใจ และ นรภัทร ปีสิริกานต์
  • รีวิวเว้ย (839) ข้อความเนื้อหาในหน้าสุดท้ายของหนังสือเล่มนี้เขียนเอาไว้ว่า "เพราะความมั่นคงของประเทศชาติอาจจะไม่ได้ขึ้นอยู่กับอาวุธยุทโธปกรณ์เสมอไป!" (น. 284) แต่สำหรับประเทศที่มีผู้นำที่มาจาก "ทหาร" และดูจะไม่มีความฉลาดทั้งในเรื่องของ "ความฉลาดทางปัญญา (Intelligence Quotient : IQ)" และ "ความฉลาดทางอารมณ์ (Emotional Quotient : EQ)" ข้อความที่ปรากฎในหนังสือหน้า 284 ก็ดูจะเป็นแค่ใบปิดโฆษณาที่ปิดอยู่ตามฝาผนังที่แทบจะไม่มีใครสนใจอ่าน โลกในทุกวันนี้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก และสิ่งที่จะฆ่าชีวิตของคนเราจำนวนมากแน่นอนว่าไม่ใช่ "สงครามระหว่างประเทศ" หากแต่เป็น "โรคระบาด" ทั้งโรคอุบัติใหม่และโรคอุบัติซ้ำ ที่นับวันจะยิ่งปรากฎโรคระบาดที่รุนแรงมากขึ้นนับตั้งแต่การเกิดขึ้นของ ไข้หวัดนก ไข้หวัดหมู อีโบล่า และอื่น ๆ กระทั่งการระบาดของโควิด-19 ตั้งแต่ปลาบปี ค.ศ. 2019 กระทั่งปัจจุบัน (2021) ที่มีตัวเลขผู้ติดเชื้อทั้งโลกหลัก 100 ล้าน และตัวเลขผู้เสียชีวิตหลักล้าน แต่ก็น่าแปลกใจที่ผู้นำรัฐบาลและภาคส่วนของกองทัพและฝ่ายความมั่นคงในบางประเทศก็ยังก้มหน้าก้มตามุ่งหมายที่จะซื้ออาวุธอย่าง เครื่องบิน เรือดำน้ำ มากกว่าที่จะตั้งใจซื้อวัคซีนดี ๆ มาให้ประชาชนได้ฉีด ทั้งที่การระบาดรุนแรงผ่านมาเกือบปี วัคซีนในประเทศก็มีเพียงแค่ 2 เทคโนโลยีที่ลงทุนซื้อคือ (1) วัคซีนเชื้อตาย และ (2) ไวรัสเวอเตอน์ ส่วนวัคซียชนิดอื่นที่มีอยู่อย่าง mRNA นั้นเป็นวัคซีนที่ได้มาจากการบริจาคและวัคซีนที่ประชาชนต้องควักเงินซื้อเอง รัฐบาลที่มองชีวิตของประชาชนไม่มีค่าช่างน่า "สมเพช"
    หนังสือ : VACCINE WAR สมรภูมิวัคซีนโควิด-19
    โดย : ป๋วย อุ่นใจ และ นรภัทร ปีสิริกานต์
    จำนวน : 288 หน้า
    ราคา : 300 บาท

    "VACCINE WAR สมรภูมิวัคซีนโควิด-19" หนังสือที่บอกเล่าเรื่องของ "วัคซีน" ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อรับมือกับการระบาดของโควิด-19 ในมุมมองที่น่าสนใจ เพราะโดยปกติแล้ววัคซีนแต่ละชนิดที่เคยถูกผลิตขึ้นมาตลอดช่วงระยะเวลาของประวัติศาสตร์ วัคซีนเหล่านั้นล้วนเป็นวัคซีนที่ใช้เวลาเนิ่นนานในการทดลองและการผลิต อาทิ วัคซีนป้องกันโรคโปลิโอที่ใช้เวลานานกว่า 60 ปีถึงจะสามารถผลิตวัคซีนในแบบฉีดและแบบกินออกมาได้ อีกทั้งขั้นตอนของกระบวนการในการทดลองในขั้นของการทดลองทางคลินิกที่แบ่งออกเป็น 3 ระยะ ที่ต้องถูกควบคุมและตรวจสอบเพื่อความมั่นใจในเรื่องของความปลอดภัยในทุกขั้นตอนยิ่งทำให้การผลิตวัคซีนเป็นไปได้ช้า วัคซีนบางตัวอาจจะต้องใช้เวลาร่วม 10 ปีในการทดลองและการพัฒนา ยิ่งเมื่อวัคซีนตัวนั้นผู้ผลิตมองไม่เห็นช่องทางในการตลาด หรือไม่ได้รับเงินอุดหนุนจากภาครัฐวัคซีนนั้น ๆ แทบจะใช้เวลาหลาย 10 ปีกว่าขะจบขั้นตอนของการทดลองทางคลินิกทั้ง 3 ระยะ

    "VACCINE WAR สมรภูมิวัคซีนโควิด-19" ฉายให้เราเห็นภาพขั้นตอนของการผลิตและพัฒนาวัคซีนในสภาวะปกติ และการพัฒนาวัคซีนในสภาวะที่เกิดขึ้นภายใต้แรงกดดันจากการกระจายตัวของการระบาดของโควิด-19 ทำให้วัคซีนโควิด-19 น่าจะเป็นวัคซีนป้องกันโรคตัวแรกของโลกที่ขั้นของการทดลองทางคลินิก 3 ขั้นตอนสามารถดำเนินไปได้ในลักษณะของการทับช่วงเวลากันเพื่อทำให้ระยะเวลาในการผลิตวัคซีนเร็วมากยิ่งขึ้น อีกทั้งการลัดขั้นตอนในการขออนุมัติใช้วัคซีนที่ผ่านการทดลองทางคลินิกทั้ง 3 ระยะที่มีผลการทดลองเป็นที่น่าพอใจอย่างเร่งด่วนในสภาวะการระบาด (การขึ้นทะเบียนฉุกเฉิน) เพื่อรับมือต่อการระบาดของโควิด-19 ทำให้วัคซีนโควิด-19 น่าจะเป็นวัคซีนที่ถูกพัฒนาและถูกอนุมัติให้ใช่ในระยะเวลารวดเร็วที่สุดในโลก แต่ทั้งหมดก็เกิดขึ้นบนความประจวบเหมาะของการพัฒนาด้านเทคโนโลยี และการทุ่มเม็ดเงินกว่า 8 แสนล้านบาทของรัฐบาลสหรัฐภายใต้โครงการ "ปฏิบัติการวาร์ปสปีด (Operation Warp Speed)" ที่หน่วยงานด้านสุขภาพ ความมั่นคง และการเงินของสหรัฐร่วมกันขับเคลื่อนโครงการในการผลิตวัคซีน โดยกลไกดังกล่าวถูกผลักดันโดยฝ่ายการเมืองและมีการรับไม้ต่อโดยภาคส่วนอื่น ๆ

    "VACCINE WAR สมรภูมิวัคซีนโควิด-19" แสดงให้เห็นว่าโครงการวาร์ปสปีดนี้เอง ที่ช่วยให้โลกทั้งใบได้วัคซีนโควิด-19 ที่กำลังฉีดกันอยู่ในปัจจุบันเพราะวัคซีน mRNA ของ Pfizre และ Moderna วัคซีนไวรัสเวกเตอร์ของ J&J และ Astrazeneca วัคซีน DNA ของ INOVIO วัคซีน 5 ชนิดหลัก ๆ ที่ทรงประสิทธิภาพของโลกก็เป็นผลโดยตรงจากปฏิบัติการดังกล่าว นอกจากนั้น "VACCINE WAR สมรภูมิวัคซีนโควิด-19" ยังบอกเล่าเรื่องราวของวคซีนแต่ละแบบอย่างละเอียดและเข้าใจง่ายสำหรับผู้ที่อย่ากรู้ถึงกลไกการทำงานของวัคซีนแต่ละชนิด ที่มา ที่ไป และพัฒนาการทางเทคโนโลยีของวัคซีนแต่ละตัว รวมไปถึงเรื่องของ "การเมืองในกระบวนการวัคซีน" ก็เป็นสิ่งที่ปรากฎในเนื้อหาของหนังสือด้วยเช่นกัน นอกจากนั้น "VACCINE WAR สมรภูมิวัคซีนโควิด-19" ยังตอบคำถามในเรื่องของภูมิคุ้มกันหมู่ การพัฒนาของไวรัสว่าเพราะเหตุใดการกลายพันธุ์จึงเกิดขึ้นรวดเร็ว อีกทั้งเรื่องของมายาคติในการทดลองเชิงสถิติของวัคซีนในการรายงานผลการทดลองทางคลินิกที่กลายเป็นเรื่องที่คนให้ความสำคัญและตั้งคำถาม

    ซึ่งเอาเข้าจริง "VACCINE WAR สมรภูมิวัคซีนโควิด-19" ไม่ได้บอกเล่าแค่เรื่องราวของวัคซีนที่อยูาในปฏิบัติการวาร์ปสปีดแต่เพียงอย่างเดียว หากแต่วัคซีนเชื้อตายอันเป็นที่รักของหมอบางคนอย่าง Sinovac และวัคซีนเชื้อตายอย่าง Sinofarm ก็รวมอยู่ในเล่มนี้ด้วย อีกทั้งวัคซีนต่าง ๆ ที่ประยุทธ์แถลงในวันที่ฟังไม่รู้เรื่องอย่าง สปุคนิด สปุก สปุคนิก-วี ]°~ahf7@#:#&/×)×€÷₩ ก็ปรากฎในหนังสือเล่มนี้ด้วยเช่นกัน อาจจะเรียกได้ว่า "VACCINE WAR สมรภูมิวัคซีนโควิด-19" ช่วยให้เราเข้าใจว่าในภาวะการระบาดผู้นำของประเทศที่มีและพอจะมี "ความฉลาดทางปัญญา (Intelligence Quotient : IQ)" และ "ความฉลาดทางอารมณ์ (Emotional Quotient : EQ)" จะช่วยให้ชาติพ้นภาย ไม่เชื่อก็ดูตัวอย่างผู้นำที่ไม่มี IQ และ EQ อย่างผู้นำของประเทศไทยในตอนนี้ได้ว่านำพาประเทศไปสู่ว่า "ฉิบหาย" ขนาดไหนแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการแทงม้าวัคซีนเพียงตัวเดียว และเปรี้ยวใจไม่เข้าร่วมโครงการ covax ตั้งแต่แรก คำพูดของอาจารย์ชัชชาติ ยังคงใช้ได้เสมอ "ปัญหาจริง ๆ แล้วของเรา คือเราไม่ได้ให้ความสำคัญเรื่องเวลา เพราะเราคิดว่าเวลาคือ 'ของฟรี' แต่ระยะเวลาไม่ฟรี เวลาเป็นสิ่งที่แพงที่สุด" แต่เรื่องแบบนี้ "คนโง่" มักไม่เข้าใจ

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in