เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
รีวิวเว้ย (2)Chaitawat Marc Seephongsai
IT'S ALL ABOUT THE CUT ใต้รอยกรีด By สินฝ้าย
  • รีวิวเว้ย (414) วันก่อนนั่งคุยกับแฟนเรื่องการรับรู้ของบุคคลภายนอก (ข้ามช่วงอายุ/คนละ Gen) เกี่ยวกับสายตาและทัศนคติของพวกเขาต่อการมองคนที่มีอาการทางจิต ที่นับรวมเอาอาการความตระหนก ความกลัว ย้ำคิดย้ำทำและรวมไปถึงโรคซึมเศร้าเอาไว้ด้วยกัน เราพบว่าทัศนคติของคนข้ามช่วงอายุเหล่านี้ เขามองเห็นเพียงแค่ว่าผู้ที่มีอาการทาง "จิตไม่ปกติ = คนบ้า" ซึ่งเป็นที่น่าสนใจมาก ๆ ต่อการเตรียมตัวรับมือกับสังคมที่รวมเอาคนหลาย Gen ไว้ด้วยกัน เพราะจากทัศนคติดังกล่าว เราจะพบได้ว่าการ "มองคนแบบไหน" เราก็จะตอบสนองและปฏิบัติต่อเขาตามทัศนคติที่เรามีต่อเขา อย่างในกรณีที่คนมีอาการเหล่านี้เที่ยวเท่ากับ "คนบ้า" เราก็จะพบว่าคนข้ามวัยหรือคนรวมวัยหลาย ๆ จะปฏิบัติต่อพวกเขาในแบบที่พวกเขาถูกจัดกลุ่มให้เป็น "คนบ้า" ทั้งการตัดการให้ความช่วยเหลือ ไม่พูดคุย เอาตัวออกห่าง รังเกียจ ซึ่งทัศนคติและการแสดงออกในลักษณะนี้จะยังผลให้ผู้ที่มีอาการของโรค (อาการทางจิตใจ) มีอาการของโรคที่แย่ลง โดยที่หลายคนตัดสินพวกเขาเพียงแค่คำสั้น ๆ ง่าย ๆ ว่า "บ้า" แต่ใครหลายคนไม่แม้แต่จะหาคำตอบของคสามต่างและไม่แม้แต่จะหาที่มาที่ไปและทางเดินของโรคเลยแม้แต่น้อย 
    หนังสือ : IT'S ALL ABOUT THE CUT ใต้รอยกรีด
    โดย : สินฝ้าย
    จำนวน : 160 หน้า
    ราคา : 215 บาท

    เราเองมีโอกาสได้ใกล้ชิด พูดคุย รับฟังและแลกเปลี่ยนคสามเห็นกับเพื่อน รุ่นพี่ รุ่นน้องหลายคนที่ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มของคนที่มีอาการทางจิตใจ นับตั้งแต่อาการกลัวต่าง ๆ ย้ำคิดย้ำทำเสมอ ๆ กระทั่งไปจนถึงเป็นโรคซึมเศร้า สิ่งหนึ่งที่เราสัมผัสได้คือพวกเขาเหล่านี้มีหลายสิ่งที่ต้องเผชิญและแบกรับ รวมถึงพวกเขาต้องการคนที่ "เข้าใจ" แต่หลายครั้งไม่จำเป็นต้องให้คำตอบพวกเขาได้ก็ได้ เพียงแค่พวกเขาอยากได้คนที่ "รับฟังได้โดยไม่จัดสินอะไร"

    และด้วยอะไรก็ตามแต่ทำให้เรามีโอกาสได้รู้จักกับพวกเขาเหล่านี้เยอะขึ้นและบ่อยครั้งขึ้น นั่นทำให้เราเองต้องพยายามมองหาคำตอบของอาการทางจิตใจบางแบบ เพื่อที่เราเองจะได้มีโอกาสในการทำความเข้าใจ สำหรับทำหน้าที่ในฐานะของผู้รับฟังที่ดี โดยไม่ตัดสินหรือให้คำแนะนำด้วยมายาคติบางแบบที่เราอาจจะคิดไปเอง

    กระทั่งเมื่อไม่นานมานี้มีโอกาสได้เห็นหนังสือเล่มหนึ่งพร้อมกับคำแนะนำของเพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัยที่โพสเอาไว้ในเฟสบุ๊ค ว่ามีหนังสือเล่มหนึ่งที่เหมาะแกการหามาอ่านเพื่อเรียนรู้และทำความเข้าใจกับบุคคลที่มีอาการของโรคทางจิตใจ

    "IT'S ALL ABOUT THE CUT ใต้รอยกรีด" เป็นหนังสือที่บอกเล่มเรื่องราวของบุคคลที่มีอาการของโรค (1) บุคลิกภาพแปรปรวนชนิดก้ำกึ่ง (BPD: Borderline Personality Disorder) และ (2) โรคซึมเศร้าชนิดร้ายแรง ที่เขาออกมาบอกเล่าถึงการเกิดขึ้นของโรคนี้ รวมไปถึงบอกเล่าเรื่องราวชีวิตตัวเองที่ต้องเผชิญกับอาการของโรค ทั้งการกรีดไปตามร่างกายเพื่อให้ "ความรู้สึกเจ็บทางการลบเลือนความรู้สึกเจ็บทางใจ" ที่หลายครั้งมันช่วยให้เขาผ่อนคลายจากอาการเจ็บทางใจลงได้ แต่มันก็กลับสร้างปัญหาด้านอื่น ๆ ขึ้นมาแทน

    "IT'S ALL ABOUT THE CUT ใต้รอยกรีด" ยังบอกเล่าถึงที่มาที่ไปและทางเดินของโรคว่าอาการดังกล่าวเกิดขึ้นจากอะไรได้บ้าง และอาการของเขาเองนั้นเกิดขึ้นจากอะไร (?) เป็นที่น่าสนใจว่า เอาเข้าจริงแล้วข้อมูลตามที่ต่าง ๆ ที่พูดถึงเรื่องอาการทางจิตใจในทางวิทยาศาสตร์ ทางการแพทย์ ทางสังคม ล้วนสามารถให้ข้อมูลได้อย่างครบถ้วนชัดเจน หากแต่ข้อมูลเหล่านั้นขาด "ความรู้สึก" ทำให้เมื่อเราศึกษาข้อมูลเราจึงเข้าใจโรคทางจิตใจในฐานะของ "ข้อมูลทางการแพทย์" และนี่เองก็เป็นอีกหนึ่งกลไกที่ทำให้เราปฏิบัติต่อผู้มีอาการแบบเถรตรงตามข้อมูลทางการที่เราได้รับมา

    "IT'S ALL ABOUT THE CUT ใต้รอยกรีด" ช่วยสร้างการรับรู้ใหม่ในเรื่องของการปฏิบัติตัวต่อผู้มีอาการทางจิตใจเอาไว้ได้อย่างน่าสนใจ เพราะด้วยบริบทของผู้ป่วยที่ถ่ายทอดออกมาเอง มันช่วยทำให้เรารู้จักโรคทางจิตใจนี้มากขึ้น รวมถึงเรามีโอกาสได้เข้าใจความรู้สึกของผู้ป่วยมากขึ้นด้วย ซึ่งนั้นจะช่วยให้เราเข้าใจและรับมือในฐานะของผู้รับฟังที่ดีต่อผู้ป่วยที่มีอาการของโรคทางจิตใจได้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไปอีก

    ก็อยากที่เกริ่นเอาไว้ก่อนหน้า ว่าถ้าเรามองพวกเขา (ผู้ที่มีอาการของโรคทางจิตใจ) ในแบบไหน เราก็จะ "ปฏิบัติต่อพวกเขาแบบนั้น" หนังสือเล่มนี้จะช่วยเปลี่ยนมุมมองของคุณไปตลอดกาล IT'S ALL ABOUT THE CUT เพราะภายใต้รอยกรีด ยังมีจิตใจของผู้ที่สร้างรอยเหล่านั้นกำกับเอาไว้อีกที

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
นพกร สุขรอบ (@fb1058453957839)
มันเข้าใจยากเพราะตอนนี้แฟนเป็น..เราไม่รู้เลยว่าสิ่งที่เค้าทำพูดและบอกเรามันคือความจริงที่เค้ารู้สึกหรืออะไรกันแน่
Sinfaii Chaiyasith (@fb1016161888889)
ขอบคุณที่ช่วยวิจารณ์นะคะ