นายกำลังเดินไปข้างหน้าแบบที่ไม่รู้อะไรเลย
นายเหนื่อยมาก โคตรเหนื่อยเลย
รู้สึกเหมือนวิ่งมาไกล ทั้งๆ ที่นายก็แค่เดิน...
แล้วนายก็เริ่มจะเป็นบ้าในระหว่างทางที่กำลังเดินอยู่
และพอสติเริ่มหลุดลอย ค่อยๆ จางหาย
นายก็สะดุดเข้ากับอะไรซักอย่างบนพื้นนั่น แล้วก็ล้มลงโครม
เข่านายแตกอยู่ตรงนั้น
และมันก็มีแค่ตัวนายที่นอนกองอยู่ตรงนั้น...
แต่นายก็ไม่ได้รีบลุกขึ้นมา เพราะรู้สึกว่า ไอ่เชี่ยพอละ
กูพอละ พอแล้ว ไม่เอาแล้ว....ช่างแม่งเลย
นายขยับขาข้างที่นายรู้สึกเจ็บมากกว่าขึ้นมา
พลิกดูแผลที่เข่า ที่นายคิดว่าเลือดแม่งต้องออกแน่ และคงจะเหวอะชัวร์ๆ
เพราะว่าแม่งเจ็บเหลือเกิน...
แล้วมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ...
เข่านายแตก แล้วเลือดนายแม่งก็ออก ในสภาพที่เหวอะใช้ได้
เหงื่อจากความเหนื่อยชีวิตของนายหยดลงมา...
นายถอนหายใจ ก่อนจะยกหลังมือปาดมันออกจากหน้าผากอย่างไม่ใส่ใจนัก
แล้วก็นั่งค้างแม่งอยู่อย่างนั้น
ทิ้งตัวเองนั่งอยู่ที่เดิม และเลิกทำห่านอะไรก็ตามที่เรียกว่าดิ้นรน หรือว่าพยายามอีก...
นายหัวเราะให้กับความซังกะบ๊วยทุกอย่างที่มันเกิดขึ้น
และคิดว่าตัวนายแม่งคงจะเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ
เพราะว่าถ้านายร้องไห้ มันก็คงจะดูสมเหตุสมผลกว่านี้
แต่นายก็หมดอารมณ์จะร้องไห้อีกแล้ว... ก็เลยหัวเราะออกมาแทน
หัวเราะให้กับเรื่องห่านๆ ที่มันเกิดขึ้น
นายถอนหายใจให้กับแผลเลือดออกที่เข่าของตัวเอง
แล้วก็นั่งอยู่กับมันท่ามกลางความว่างเปล่า
ที่ๆ มีแค่ตัวนายกับบรรยากาศแวดล้อม
แล้วลมแผ่วเบาในตอนนั้นก็พัดเข้ามาฟาดที่หน้านายเบาๆ
แต่ก็ทำให้หน้านายที่มันโชกเหงื่อได้รู้สึกดีขึ้นมาบ้าง
ทำให้นายรู้สึกเหมือนสติของตัวเองเริ่มจะกลับมา
เพราะพอนายรู้สึกตัว รู้สึกถึงสิ่งต่างๆ รอบข้าง
นายก็จะเริ่มมองบางอย่างเปลี่ยนไป...
เหมือนเป็นผู้สังเกตการณ์โลกใบนี้
แทนที่จะเป็นผู้ที่ถูกสังเกตการณ์เหมือนก่อนหน้านี้
นายถอนหายใจออกมายาวๆ เฮือกนึง
ก่อนจะยิ้มออกมาให้กับสิ่งต่างๆ ที่มันเกิดขึ้น...
และมันก็เป็นรอยยิ้มที่ออกมาจากใจของนาย
ก่อนที่นานจะหายใจกลับเข้าไปอีกครั้ง ให้อากาศกับปอดและใจที่แห้งเหี่ยวของตัวเอง
และช่วงเวลานั้นเอง ที่นายจะคิดอะไรได้หลายอย่าง
จากแผลหนึ่งแผลนั้น
เหมือนนายได้เข้าใจโลกใบนี้และธรรมชาติของชีวิตมากขึ้น...
นายส่ายหัวเบาๆ แล้วก็ยิ้มออกมาอีกครั้ง
ใช้มือและแขนทั้งสองข้างยันตัวเองให้ลุกขึ้นช้าๆ ปัดคราบฝุ่นออกจากกางเกง
แล้วก็เดินต่อไปข้างหน้า พร้อมกับขาที่กะเผลก
แต่ใจของนายมันไม่ได้กะเผลกเท่าเดิมอีกแล้ว...
กับช่วงเวลาเพียงเสี้ยวนาที ของการที่นายล้มลงไปกองกับพื้น
มันอาจทำให้นายคิดอะไรได้อีกมหาศาล
และหลังจากการที่ล้มไปครั้งนี้ นายก็คงจะไม่ล้มอีกครั้งในเร็วๆ นี้แน่นอน
เพราะว่าตอนนี้ใจของนายมันไม่ได้กะเผลกเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว.
แด่ ใครก็ตามที่กลัวการหกล้ม เคยหกล้ม หรือเพิ่งหกล้มมาไม่นาน.
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in