Type : Song fiction
Paring : Ae Jirakorn & Tom Isara
Rate : PG
Talk : เรื่องนี้เป็นฟิคที่แก้บนเรื่องไปงานมีตพี่ทอม นี่เป็นเรื่องแรกเลยค่ะ ดองมานานแล้ว 5555555555 พอดี os ของวีคลี่ที่2รู้สึกเอามาเล่นต่อได้(จริงๆคิดไม่ออก) พยายามให้หวานที่สุดเท่าที่จิตใต้สำนึกจะมีมาแต่ง ชอบไม่ชอบเป็นยังไงบอกด้วยนะคะ
“มองกล้องแล้วยิ้มหล่อๆหน่อย”
ร่างสันทัดในชุดครุยยาวสีแดงที่สวมทับเสื้อแบบราชการสีขาวหันไปหากล้องพร้อมฉีกยิ้มกว้าง แต่จริงๆแล้วเขายิ้มให้คนหลังกล้องต่างหาก ตากล้องจำเป็นเงยหน้าขึ้นมายิ้มหวานให้บัณฑิตหน้าใหม่ อิศราเอื้อมมือไปกุมมือของคนที่เป็นทั้งรุ่นพี่ ทั้งเพื่อน ทั้งแฟนของเขาในรั้วมหาวิทยาลัย ทั้งคู่ส่งยิ้มให้กันก่อนจะสวมกอดด้วยความคิดถึง ทั้งตัวจิรากรและอิศราต่างคนต่างยุ่งไม่ค่อยมีเวลาได้เจอกันเท่าไหร่นัก
“ไหนของขวัญรับปริญญาอะ”จิรากรผละออกจากตัวคนหน้าหวาน แบมือใส่คนตรงหน้า
“คนมีงานมีการทำมาขอของขวัญจากเด็กที่กำลังเรียนอยู่เนี่ยนะ”
“มึงก็ใกล้จะจบแล้วนิ โถ่ ทำมาเป็น”
อิศราเบ้ปากใส่คนตรงหน้าอย่างหมั่นเขี้ยว จิรากรที่เห็นแบบนั้นเลยเอื้อมไปดึงแก้มนุ่มของคนเป็นแฟน คนเด็กกว่ายู่ปากใส่ที่มองแล้วก็ดูน่ารักน่าชังจนอยากเอามากลืนลงท้องไปทั้งตัว
“เกือบเดือนละป่ะเนี่ย ไม่ได้เจอกันเลย”
“ก็คนบางคนไม่ยอมมาช่วยตัดโมไง มันเลยไม่เสร็จซักทีจะเอาเวลาไหนไปเจออะ”
“ก็ทำงานเก็บตังค์อยู่..”
“อ้าวทอม มาแล้วเหรอลูก”เสียงหญิงสาววัยกลางคนดังขึ้น เจ้าของมือหนาที่ดึงแก้มเมื่อครู่เมื่อรับรู้ว่าใครมาก็รีบลดมือลงแนบลำตัว แม้อิศราจะชินแล้วกับท่าทีอีกฝ่ายเมื่อเจอแม่ของจิรากร แต่มันก็อดน้อยใจไม่ได้
ต่อหน้าแม่แฟน เป็นได้แค่พี่น้องแต่ท้องกับปากชนกันไม่รู้กี่รอบ หึ!
“มาซักพักแล้วครับ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะครับคุณป้า”
“นั่นสิ เดี๋ยวนี้เราไม่ค่อยไม่เที่ยวที่บ้านป้าเลยนิ”แม่ของจิรากรเดินมาจับไหล่คนหน้าหวานพร้อมส่งรอยยิ้มที่เอ็นดูให้“แล้วเป็นไงบ้างล่ะเรา มีแฟนรึยัง”
จิรากรที่ได้ยินคำถามจากคนเป็นแม่ก็ถึงกับสำลักน้ำลาย อิศราที่เห็นท่าทีอีกฝ่ายก็ได้แต่ยิ้มมุมปากด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ จิรากรที่เห็นหน้าตาร้ายกาจของแฟนเด็กแล้วก็ขมวดคิ้วมองอย่างสงสัยอย่างไม่ไว้ใจ
“ไม่มีแฟนครับ มีแต่ผะ..”
ไม่ทันได้พูดจบประโยค ร่างสันทัดก็รีบเข้ามาตะครุบปิดปากอย่างรวดเร็ว หญิงสาววัยกลางคนได้แต่ยิ้มเอ็นดูการหยอกล้อของสองหนุ่มตรงหน้า อิศราที่ตอนนี้ฝังเขี้ยวจมที่มือหนา จิรากรได้แต่กัดฟันแน่นด่าคนหน้าหวานในใจ
“หล่อๆแบบนี้ยังไม่มีอีกเหรอ สนใจหลานสาวป้าไหม”
“ก็ดี..”
“หลานแม่ยังอยู่ม.ปลายอยู่เลย จะรีบจับคู่เร็วไปไหน”
“แม่ไม่ได้จับคู่ให้แกซักหน่อย แม่ชอบทอม อยากได้มาเป็นหลานเขย”
อิศราที่โดนขัดได้แต่ทำเป็นพยักหน้าเออออไปกับมนุษย์แม่ แม้จะมีสายตาทิ่มแทงจากจิรากรส่งมาเป็นระยะๆแต่คนหน้าหวานก็หาได้สนใจ จิรากรดุนลิ้นที่แก้มอย่างหงุดหงิด
“แล้วพี่เอ๊ะเขามีแฟนยังครับคุณป้า เดี๋ยวนี้ผมทักไลน์ไปไม่ค่อยจะตอบ สงสัยจะสาวเยอะ.. ใช่ป่ะพี่”
“วันก่อนยังพาสาวสวยที่ไหนไม่รู้มาบ้านอยู่เลย ชื่อไรน้า... ป้านึกไม่ออก”
“แม่!”
“สวยด้วยเหรอ แหม.. ร้ายจริงๆนะพี่เอ๊ะ”
สีหน้าที่ยิ้มแย้มสดใสดูต่างจากมือขาวที่กำลังวางอยู่บนไหล่ของจิรากร เล็บของอีกฝ่ายจิกลงจนร่างสันทัดได้แต่สูดปาก อยากจะหันไปอธิบายกับคนข้างๆให้เข้าใจแต่คนเป็นแม่ที่กำลังยืนอยู่กลับสุมไฟให้หนักกว่าเดิมอยู่ร่ำไป
..............................................
หลังจากจิรากรเข้าไปรับปริญญาตามพิธีเสร็จ ทั้งสามคนก็ออกมาถ่ายรูปตามธรรมเนียมโดยมีอิศราเป็นตากล้องจำเป็น จิรากรกับแม่ของเขาโพสท่าพร้อมป้ายเรียนจบ มีเพื่อนๆในคณะเข้ามาร่วมถ่ายภาพแสดงความยินดีให้มากมายจนถึงเวลาไปเลี้ยงฉลอง กลายเป็นว่าคนที่เป็นแฟนกันไม่มีรูปคู่ในวันรับปริญญาด้วยกันเลย และจิรากรก็ไม่ทักท้วงใดๆจนอิศรารู้สึกหงุดหงิดอยู่ในใจเมื่อถ่ายรูปเสร็จก็แยกจากแม่ของจิรากรเพราะพวกเขาต้องไปงานเลี้ยงต่อ
ในค่ำคืนเดียวกันพวกเขาทั้งสองคนอยู่ที่ห้องโถงกว้างในโรงแรมแถวมหาวิทยาลัย ภายในมีเหล่าบัณฑิตหน้าใหม่ที่ไปแปลงโฉมใส่ชุดหรูหราตามคอนเซ็ปต์งานเลี้ยงอำลาของนักศึกษาในคณะวิศวกรรมศาสตร์ จิรากรในชุดสูทสีกรมมีลายเส้นตรงสีขาวสวมทับกับเสื้อยืดสีดำ ในวันปกติจิรากรจะไม่ค่อยเซ็ตผมนักเพราะขี้เกียจสระผมบ่อยๆ แต่ในวันนี้จิรากรทำทุกอย่างที่ปกติไม่เคยทำจนอิศราอดใจคิดไม่ได้ว่าแต่งหล่อมาอ่อยใคร
อิศราเบะปากใส่ทันทีที่เห็นสาวๆในคณะของคนเป็นแฟนเข้ามาขอถ่ายรูปคู่ด้วย ถึงจิรากรจะเตี้ยยังไงแต่ด้วยหน้าตาที่หล่อและคารมมุขตลกที่ชอบใช้เวลาหยอดสาวก็ทำให้สาวๆมาหลงได้ง่าย แม้จะคบกันมาหลายปีแต่จิรากรก็ไม่เคยแนะนำเขากับเพื่อนในฐานะ‘แฟน’สักครั้ง
“พี่น้องบ้าอะไรจูบกันจนปากเจ่อปากบวมวะ...”
คนหน้าหวานที่ขอตัวแยกมานั่งรอที่โต๊ะตลอดเวลาที่นั่งรออาหารมาเสิร์ฟ ก็ได้แต่นั่งเงียบก้มหน้าก้มตามองแต่กล้องสลับกับด่าจิรากรพึมพำกับตัวเอง แม้นิ้วจะกดดูภาพไปเรื่อยๆแต่แววตาไม่ได้โฟกัสที่รูปภาพเลยสักนิด
“สองคนนั้นกลับมาคบกันเหรอ สวีทกันเชียว”
เพื่อนจิรากรที่นั่งร่วมโต๊ะกับอิศราหันไปพยักเพยิดกับเพื่อนสาวอีกคน อิศราหันมองตามที่ทั้งคู่กำลังกล่าวถึง ภาพตรงหน้าทำให้คนหน้าหวานขมวดคิ้วจนชนกัน จิรากรที่กำลังยืนโอบไหล่ของสาวสวยคนหนึ่งที่เขาไม่เคยเห็นหน้า จิรากรไม่เคยพูดถึงแฟนเก่าให้ฟังแต่ตอนนี้เขาเริ่มที่อยากจะรู้แล้ว
“เลิกกันไปตั้งนานแล้ว จะกลับมาคบกันเหรอ”
“ก็จริง.. แล้วเรื่องที่เลิกกันนี่ก็ไม่ใช่เรื่องเล็กๆด้วยสิ..”
“..เล่าให้ผมฟังหน่อยได้ไหมครับ”
อิศราที่ทนอยู่ในงานไม่ไหวเพราะเรื่องที่ได้ฟังมาทำให้เขารู้สึกปวดใจเกินจะฝืนยิ้ม คนหน้าหวานนั่งลงตรงม้านั่งในสวนของโรงแรม โชคดีที่ตอนนี้มืดแล้วทำให้ไม่ค่อยมีคนมาตรงนี้เท่าไหร่นัก หลังจากนั่งตากลมให้หายหัวร้อนไม่นานคนต้นเหตุที่ทำให้รู้สึกแย่ก็เดินมานั่งลงข้างๆพร้อมสีหน้าดี๊ด๊าจนรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาอีกครั้ง
“เป็นอะไรคนดีของพี่เอ๊ะคนคูล”
“ไปคูลไกลๆตีน”
“อ้าว...”อิศรากอดอกหน้าบึ้งใส่ เมื่อเห็นท่าทางอีกฝ่ายจิรากรได้แต่เกาหัวไม่เข้าใจคนหน้าหวาน“นอนน้อยเหรอเรา”
“ไปอยู่กับแฟนเก่าพี่สิ”
“แฟนเก่า? หือ”จิรากรชะงักไปก่อนจะคลี่ยิ้มเจ้าเล่ห์“นี่หึงอยู่เหรอ”
“ไม่ใช่!”อิศราลุกขึ้นพรวดจ้องหน้าร่างสันทัดตาเขม็ง จิรากรเอื้อมมือไปจับมือแต่ก็โดนสะบัดออกอย่างไร้เยื่อใย คนหน้าหวานหน้าเสียไปแว๊บนึงที่ทำตัวงี่เง่าแต่ด้วยอารมณ์ที่คุกรุ่นอยู่จึงตัดสินใจเดินหนีออกมา
ร่างสันทัดรีบเดินตามคนหน้าหวานไปจนมาหยุดอยู่ตรงหน้าประตูห้องงานจัดเลี้ยงกว่าจะตามทันก็เล่นเอาจิรากรต้องหอบ มือหนาที่กำแขนอีกคนแน่นก้มไปหอบหายใจ ในตอนแรกนึกว่าจะโดนสะบัดหนีแต่อิศรากลับยืนนิ่งเฉยรอให้จิรากรพูด
“ทอม..”
“..”
“ทอมโกรธอะไรพี่ครับ”
“ทอมไม่ได้โกรธ”
“อ่อ... หึงๆ”จิรากรยิ้มตาหยียื่นหน้าไปหาอิศราที่หันข้างอยู่ แต่น้ำตาคนหน้าหวานที่กำลังไหลอยู่ก็ทำให้เขาหุบยิ้มแทบไม่ทัน
อิศราขมวดคิ้วเคืองอีกฝ่ายที่ยังเล่นไม่เลิก จิรากรที่เมื่อกี้ที่มีสีหน้าเครียดๆก็กลับมาอมยิ้มเล็กๆให้ ร่างสันทัดเปลี่ยนจากจับแขนไปกุมมือคนหน้าหวานแทน อิศราที่ตอนแรกสะบัดออกแต่ทนแรงยื้อไม่ไหวก็ได้แต่ยืนมองหน้าอย่างหาเรื่องแทน จิรากรใช้มืออีกข้างเช็ดน้ำตาก่อนจะดีดปากคนหน้าหวานที่เบะใส่ไม่เลิก
“มีไรอยากให้ดู”
“อะไร จะกลับบ้านแล้ว”
จิรากรเมินเสียงงอแงอีกฝ่ายก่อนจะเปิดประตูลากคนหน้าหวานให้เดินตามมา ภายในห้องโถงมืดสนิทเหมือนไม่เคยมีงานเลี้ยงมาก่อน อิศราหันมองไปรอบๆอย่างกลัวๆแต่จิรากรกลับดูไม่แปลกใจแล้วลากเขาไปกลางโถงห้อง ทั้งคู่หยุดยืนโดยที่จิรากรยังหันหลังให้เขาอยู่ก่อนจะปล่อยมือคนหน้าหวานแล้วเดินหายไปในความมืด อิศราได้แต่ตะโกนเรียกให้จิรากรเดินกลับมา แต่ความมืดในตอนนี้ทำให้เขาไม่กล้าเดินไปไหนแถมโทรศัพท์ก็ไม่ได้นำออกมาด้วย อิศราคาดโทษให้ไอ้คนที่ทิ้งเขาไปอย่างโมโห
ยืนรอเกือบสองนาทีจิรากรก็ยังไม่กลับมา ตอนนี้สายตาก็เริ่มที่จะชินกับความมืดแล้วพอเขาเริ่มก้าวขาขยับตัว เสียงจากลำโพงที่เป็นเสียงร้องเพลงของจิรากรก็ดังขึ้นมา
“แค่ได้มองตาเธอในวันนั้น จากที่เราเจอกันแค่ครั้งเดียว...”
สปอตไลท์ฉายมาที่ตัวอิศรากับจิรากร ในมือจิรากรอีกข้างถือช่อดอกไม้ที่เป็นแบงค์พันพับเป็นดอกกุหลาบช่อใหญ่ ร่างสันทัดก้าวเข้ามาหาเขาช้าๆพร้อมรอยยิ้มหวานแบบที่อิศราบอกว่าอย่ายิ้มแบบนี้บ่อยเพราะมันกร๊าวใจ
ฉันไม่เคยรักไม่เคยรู้ ว่าชีวิตมันดีเช่นไร
เมื่อได้มีบางคนข้างกาย เมื่อได้มีเธออยู่ข้างๆ กัน
ฉันมอบชีวิต ต่อจากนี้ไปจนนิรันดร์
ทั้งหัวใจคือเธอเท่านั้น รักของเราจะอยู่จนวันตาย
จิรากรยื่นช่อดอกไม้ให้พร้อมแสงไฟสว่างวาบขึ้นมาพร้อมเสียงปรบมือและเสียงกรี๊ดจากเพื่อนๆในคณะ พลุกระดาษถูกจุดขึ้นมาก่อนลูกโป่งสีขาวขนาดใหญ่เขียนว่า‘will u marry me?’
“ทอม.. แต่งงานกับพี่ไหม”
“เฮ้ย.. ไหนบอกต่อหน้าเพื่อนให้เป็นพี่น้องไง แล้วเพื่อนพี่..”
“แต่งงานกันไหม”
“พี่เอ๊ะ...”คนหน้าหวานน้ำตารื้นคลอเบ้าอีกครั้ง เขาอยากจะตอบตกลงในทันทีแต่ดันหันไปเห็นสาวสวยคนที่เป็นแฟนเก่าของจิรากรกำลังยืนมองมาทางเขาอยู่“ไม่.. ไม่แต่ง”
เสียงเชียร์ที่ตะโกนว่าตกลงเงียบกริบทันที รอยยิ้มกว้างของจิรากรหุบลงทันทีที่ได้ยินคำตอบ ร่างสันทัดลดไมค์ลงก่อนจะถามอีกฝ่ายอย่างไม่เข้าใจ
“ทำไมล่ะทอม”
“ทอมไม่อยากแต่งงานกับคนที่ไร้ความรับผิดชอบ คนที่ทำผู้หญิงท้องแล้วไล่เขาไปทำแท้งหรอกนะ!”
“ห่ะ..ทำผู้หญิงท้อง?”
“อย่าทำเป็นไม่เข้าใจ พี่ทำแฟนเก่าท้องแล้วก็ทิ้งเขาไม่ใช่เหรอ ไม่รู้สิ.. ทอมรู้สึกผิดหวังกับพี่มากเลยพี่เอ๊ะ... พี่แม่ง..”
“เดี๋ยวๆ ใครแฟนเก่ากู ใครท้อง ใครทิ้ง ขอละเอียดๆ”
“ก็เพื่อนพี่เขาเล่าให้ฟังอะ! ว่าพี่ผู้หญิงคนนั้นเป็นแฟนเก่าแล้วพี่ก็ไปทำเขาท้องไล่ให้เขาไปทำแท้งอะ พี่เป็นคนแบบนี้เองเหรอ ทอมไม่อยากจะเชื่อเลย”อิศราชี้นิ้วไปทางสาวสวยคนนั้น คนโดนชี้เบิกตากว้างก่อนเพื่อนๆในห้องโถงจะหัวเราะกันออกมาเสียงดังจนอิศราไม่เข้าใจ
“เฮ้ย แม่งเล่นกูขนาดนี้เลยเหรอวะ”จิรากรตบหน้าผากตัวเองที่เผลอไว้ใจให้เพื่อนปากหมามาทำหน้าที่สำคัญ“ไม่เชื่ออะถูกแล้ว”
“ตอบตกลงมันไปเถอะน้องทอม มันเป็นแผนไว้เซอร์ไพรส์”
เพื่อนสาวสองคนที่เม้าส์มอยเรื่องแฟนเก่าหัวเราะกันจนท้องแข็ง แถมสาวสวยที่โดนกล่าวหาเป็นแฟนเก่าก็หัวเราะออกมาเสียงดังไม่แพ้กัน อิศราได้แต่ส่งสายตาขอคำตอบจากคนตรงหน้า
“นั่นเพื่อนพี่ ตอนเรียนมหาลัยนอกจากมึงก็ไม่ได้คบกับใครเลย เพราะมึงแม่งเอากูซะไม่อยากเลิกไปคบกับใครที่ไหน”
“จริงอะ..”
“เออ อีกอย่างแม่งก็ท้องไม่ได้ด้วย”
อิศราเบิกตากว้างหันขวับไปมองทางสาวสวยอีกครั้ง พอฟังเสียงพูดของเธอคนนั้นดีๆแล้วก็รู้สึกอยากจะมุดหน้าหนีออกไปจากตรงนี้ คนหน้าหวานยกมือมาปิดหน้าหนีความอายถึงแม้จะไม่ช่วยอะไรก็ตาม
“แล้วสรุป.. จะแต่งงานกันไหม”
“ไม่แต่งโว้ย!!”
“อ้าว ไมอะ”
“อาย!”
เสียงหัวเราะจากคนรอบข้างทำให้อิศราอยากจะหายไปจากตรงนี้ จิรากรดึงมือซ้ายออกมาก่อนจะยัดแหวนที่มีลายเป็นรูปเฟืองใส่นิ้วนางก่อนจะดึงร่างคนหน้าหวานมากอดให้หัวซุกไหล่เขา ถ้าทำได้อิศราคงสิงร่างเขาแล้วเพราะเสียงตะโกนบอกให้ทั้งคู่จูบกันดังไม่หยุด
“โอ้ย อย่ามาเซอร์ไพรส์ไรงี้อีกนะ เขินจะตายแล้ว”
จิรากรหัวเราะเสียงดังก่อนจะจุ๊บเหม่งอีกฝ่ายอย่างเอ็นดู เสียงกรี๊ดกร๊าดของเพื่อนดังกระหึ่ม อิศราได้แต่เงยหน้าไปตีไหล่แก้เขินแต่สายตาเหลือบไปเห็นหญิงสาวผู้เป็นแม่ของจิรากรกำลังยืนหน้านิ่งอยู่
“พี่เอ๊ะ.. คุณป้า”
อิศราผละตัวออกจากจิรากรมือไขว่หลังหวังหลบดอกไม้กับแหวน แม่ของจิรากรเดินเข้ามายืนอยู่ตรงหน้าเขา คนหน้าหวานได้แต่ก้มหน้าไม่สบตาด้วยความกลัวความผิดหวังจากคนตรงหน้า แต่สัมผัสบริเวณแก้มทำให้เขาต้องเงยหน้าขึ้นมามอง รอยยิ้มหวานจากทั้งแม่และลูกส่งมาให้เขา
“ว่าไงลูกเขย”
“ห่ะ.. อะไรนะครับ”
“หรือต้องเรียกลูกสะใภ้.. ให้เรียกไงดี”
อิศราที่กำลังทำหน้างงเป็นไก่ วันนี้เขารู้สึกเซอร์ไพรส์หลายเรื่องจนงงไปหมดไปแล้ว จิรากรที่กำลังคุยกับคนเป็นแม่อย่างมีความสุขกับพวกเพื่อนของจิรากรที่บางคนมองมาอย่างอิจฉา บางคนก็ล้อเลียนทำท่าขอแต่งงาน อิศราเอื้อมมือไปหยิกแก้มของร่างสันทัดจนเจ้าตัวร้องโวยวายออกมาเสียงดัง
“ทำไรของมึงเนี่ยทอม”
“ไม่ใช่ฝันเหรอ”
“ถ้าเรื่องเพื่อนมันรู้กันนานแล้วว่ามึงคบกับกู แต่กูบอกไม่ให้ล้อเองแหละเพราะกลัวมึงอายแบบที่เป็นอยู่ แม่ง.. น่ารักฉิบหาย ดีนะที่กูได้เห็นใกล้สุด”จิรากรยิ้มแป้นอย่างรู้สึกภูมิใจกับคนเป็นแม่“ส่วนแม่กูไม่ได้บอก จริงๆจะบอกวันนี้.. กูบอกแม่แค่ว่าจะขอแฟนแต่งงาน แม่ก็ถามว่ามึงเหรอ”
“แม่เลี้ยงลูกมาตั้งแต่เด็ก ลูกแม่รักใครทำไมจะไม่รู้”
“เอ่อ.. งั้นคุณป้า..”
“แม่”
“คุณม..แม่ไม่รังเกียจที่ผมจะแต่งงานกับพี่เอ๊ะเหรอครับ”
“ลูกแม่รักใคร แม่ก็รักด้วย ตอบตกลงมันไปเถอะทอม.. แม่ขี้เกียจมานั่งฟังมันโวยวายว่าทอมไม่ยอมแต่งด้วย เอ๊ะมันนับเวลาถอยหลังวันนี้มาหลายเดือนเลยนะตอนไม่ได้มาเจอทอม”
“อ่อ.. ขอโทษด้วยนะมึงที่ไม่ว่างไปช่วยทำโปรเจคจบ ต้องทำโอทีทุกวันเลย ช่อดอกไม้มึงก็หลายบาทแล้ว.. แถมต้องให้เพื่อนมาช่วยอีก ตอนแรกก็นึกว่าแม่งจะไม่ช่วย... อือ..”
อิศราคว้าคออีกฝ่ายมาประกบปากจูบต่อหน้าเพื่อนกับแม่ของจิรากร คนเป็นแม่ปิดปากกรี๊ดกร๊าดก่อนจะถอยออกไปถ่ายรูปเก็บเป็นภาพประทับใจ เสียงชัตเตอร์ทั้งแสงแฟลชประกอบเสียงกรี๊ดในตอนนี้ก็ไม่ทำให้อิศราอายที่จะจูบคนตรงหน้าเลย แต่ก็ต้องผละออกด้วยความเสียดายเพราะจิรากรหายใจไม่ออก
“มึงนี่ไม่เคยฟังความดีความชอบกูจนจบเลยนะ จูบกูไม่ทันตั้งตัวตลอด”
“พูดมาก”
“แล้วชอบป่ะ จะแต่งด้วยใช่ไหมเนี่ย ขอใหญ่แบบนี้งานแต่งต้องอลังการ”
“เออ..”
“อะไรเออ”
“ก็แต่งไง”
“อะไรนะ”
“ก็บอกว่าตกลงไงโว้ย!”
“แม่! ผมได้เมียแล้ว!!!”
จิรากรตะโกนเสียงดังลั่นห้องโถงจนทุกคนต่างหัวเราะกับปรบมือแสดงความยินดีให้กับว่าที่คู่รักข้าวใหม่ปลามัน ตอนนี้ความหนาของหน้าอิศราหมดไปแล้วจนเริ่มรู้สึกอายต้องเอามือมาปิดหน้าหวานอีกครั้ง แต่จิรากรก็แงะมือเขาออกพร้อมจุ๊บปากบางหลายที
“พี่รักทอมนะครับ”
“ทอมก็รักพี่ครับ”
Fin.
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in