Coffee Tea Weekly 02 : Boyfriend (แฟนหนุ่ม)
Paring : Ae Jirakorn & Tom Isara
Rate : PG
Talk : การแต่งฟิคแนวรักหวานแหวว หวานเลี่ยน น้ำตาลต้องอายเป็นอะไรที่ยากมากกกกกกกก เพราะปกติจะแต่งแนวดราม่าทะมึนๆหน่วงๆ ถือว่าวีคนี้ยากพอสมควร(...) เป็นอะไรที่ท้าทายตัวเองสุดๆ ยังไงก็ขอฝากเรื่องนี้ด้วยนะคะ อาจจะไม่ดีเท่าไหร่ แต่พยายามแล้วนะ ;-;
ป.ล. ตอนแต่งลืมเรื่องน้ากลัวลูกโป่ง ถถถถถถถถ มันเป็น AU ไม่เป็นไรหรอกเนอะ
ป.ล.2 พี่อยู่ปี4 น้องปี 2 จ้า
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
“นี่พี่.. ถ้าจะมาห้องแล้วมานอนก็กลับไปนอนห้องตัวเอง”
อิศราใช้เท้าเขี่ยร่างสันทัดของจิรากรซึ่งเป็น‘แฟน’ของตัวเองอย่างนึกรำคาญ ร่างสันทัดที่ท่อนบนเปลือยบึนปากใส่ด้วยความสะลึมสะลือ เขาดันตัวขึ้นมานั่งพร้อมสีหน้างัวเงีย อิศรานั่งลงข้างๆก่อนจะหยิบคัตเตอร์มานั่งตัดชิ้นส่วนมาประกอบโมอย่างพยายามใจเย็น แม้ว่าเขาจะต้องส่งงานพรุ่งนี้เช้าแล้ว
“กี่โมงแล้วเนี่ย”
“จะสี่ทุ่มแล้ว ไหนบอกจะมาช่วยทำงานไงแล้วก็เอาแต่นอน”
“กูเก็บแรงไว้ช่วยมึงตัดโมไง..”
“เหรอออออ”อิศราลากเสียงพร้อมเบะปากมองบนใส่กับส่ายหัวไปอย่างอ่อนใจ เพราะคนข้างๆเพิ่งกลับมาจากการไปก๊งเหล้ากับเพื่อนในคณะเมื่อตอนเย็น เจ้าตัวเลยนอนเพิ่งฟื้นเพราะเขาปลุกเมื่อครู่นี่เอง
จิรากรส่งยิ้มแห้งอย่างรู้สึกผิด โน้มหัวไปซบเด็กข้างๆแต่ก็โดนดันหัวกลับมาอย่างเดิม พอจะซบลงอีกก็โดนคนหน้าหวานชูคัตเตอร์มาขู่ฟอดๆเหมือนแมวตัวใหญ่ขี้โมโห
จริงๆแล้ววันนี้เป็นวันครบรอบหนึ่งปีที่เขาสองคนได้คบกัน ทั้งคู่รู้จักกันได้เพราะอิศราที่เรียนคณะสถาปัตย์ตอนอยู่ปี1 รับจ้างเขียนแบบให้พวกเด็กวิศวะอย่างจิรากร แต่จริงๆแล้วเรียนเขียนแบบของคณะวิศวกรรมต้องเรียนตั้งแต่ปี1 แต่ความที่ตัวจิรากรแค่ตีเส้นก็เบี้ยวการติด F ในวิชานี้ดูจะไม่ใช่เรื่องแปลกนัก ทำให้ในปี3เขาต้องลงเรียนวิชานี้อีกครั้ง และนั่นทำให้เขาทั้งคู่ได้ทำความรู้จักกันจนสนิทแล้วกลายเป็นความรัก
แต่ก็เพราะเด็กสถาปัตย์อย่างแฟนเขาจะต้องได้งานมาทำตลอดเวลา การไปเที่ยวก็ดูจะเป็นเรื่องยากเพราะแค่เวลานอนอิศรายังแทบจะไม่มี การเดทกันส่วนใหญ่ก็เป็นการนั่งตัดโม นั่งดราฟ ในตอนนี้จากคนตีเส้นเบี้ยวจิรากรมั่นใจมากหากให้ไปเรียนเขียนแบบใหม่ เขาต้องได้ A มาแน่ๆ
หลังจากลุกไปล้างหน้าล้างตาเตรียมช่วยคนหน้าหวานทำงาน จิรากรก็ต้องตกใจเพราะตอนนี้อิศรากำลังนั่งตัดโมไปพร้อมน้ำตาไหลอาบแก้มไปทั้งสองข้าง ร่างสันทัดได้แต่ตะโกนฉิบหายในใจ ได้แต่นึกความผิดที่ตัวเองอาจจะก่อขึ้นตอนเมา แต่นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก
“เฮ้ย ทอมเป็นอะไร”
จิรากรได้แต่กลืนน้ำลายอย่างฝืดคอ ย่อตัวลงข้างหน้าอีกฝ่ายที่ก้มหน้าก้มตาไม่ยอมเงยหน้ามาคุย มือหนาเชยคางคนหน้าหวานที่กำลังบึนปากร้องไห้งอแงเหมือนเด็ก แต่เจ้าตัวก็ไม่ยอมสบตาด้วยอยู่ดี
“เป็นอะไรครับ บอกพี่สิ”
“ก็..วันนี้อะ”อิศราช้อนตาขึ้นมาสบสายตาพร้อมสูดน้ำมูก“วันนี้เป็นวันครบรอบแท้ๆ แต่สุดท้ายก็ต้องมานั่งทำโม ขอโทษนะพี่เอ๊ะ”
“เฮ้ย.. ไม่เป็นไร เข้าใจ”จิรากรยิ้มหวานพร้อมยีหัวอีกฝ่ายด้วยความหมั่นเขี้ยว“ถ้าไม่เข้าใจก็เลิกไปนานแล้วป่ะ ไม่อยู่ช่วยทุกงานแบบนี้หรอก ได้อยู่ด้วยกันแบบนี้ก็พอแล้ว”
“จริงนะ”
“จริงดิ”
ร่างสันทัดถอดแว่นหนาของอีกฝ่ายออกแล้วใช้นิ้วเช็ดคราบน้ำตา แต่จู่ๆเด็กตัวโตก็สวมกอดพร้อมซุกหน้าที่ไหล่ขาว เคราที่คางมนของอิศราทำให้เขารู้สึกจั๊กจี้ไม่ใช่น้อย แต่ก็ปล่อยให้อีกฝ่ายรุ่มร่ามกับร่างกายตัวเอง
“เอาจริงๆ.. กูก็ไม่อยากขัดความน่ารักของมึงตอนนี้หรอกนะทอม”จิรากรดันหน้าผากของคนหน้าหวานออกพร้อมย่นจมูกใส่“สระผมล่าสุดวันไหน”
“ห่ะ.. จำไม่ได้อะ”
“หัวมึงเหม็นมากอยากบอกให้รู้ไว้”
“แค่นี้รังเกียจเหรอ”
“เออ”จิรากรว่าหน้านิ่งหวังแกล้งอีกคน แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายที่ช่วงนี้อารมณ์แปรปรวนเพราะนอนไม่พอจะไม่เข้าใจมุขตลกของเขา
“งั้นก็กลับไปนอนหอตัวเองเลย คนหัวเหม็นจะทำงาน”อิศราสะบัดตัวหนีออกจากอ้อมกอดหันมานั่งตัดโมต่อ
ฉิบหาย..
จิรากรได้แต่นึกอยากเอาคัตเตอร์กรีดคอตัวเองตายไปซะตรงนี้ อิศราที่นั่งนิ่งเงียบไม่สนใจไม่ว่าจิรากรจะทำอะไรก็ตาม ทำหน้าตลกใส่ก็แล้ว ทำหน้าอ้อนก็แล้ว อิศราก็เอาแต่นิ่งเงียบ
“ทอม ลุกขึ้น”
“ไม่ไป คนหัวเหม็นจะทำงาน”
“โอ๋นะ ขอโทษครับ พี่แกล้งเฉยๆ”จิรากรยันตัวขึ้นยืนพร้อมฉุดแขนให้อีกฝ่ายลุกขึ้นตาม แต่อิศราที่กำลังทำหน้าบึ้งก็ยังทำนิ่งเฉย“เดี๋ยวสระผมให้แล้วไปกินข้าวกัน ยังไม่ได้กินไม่ใช่เหรอ”
อิศราเงยหน้าขึ้นมอง คนหน้าหวานพูดด้วยน้ำเสียงเหมือนโมโหแต่ว่าริมฝีปากที่พยายามกลั้นยิ้มอยู่ ในตอนแรกที่แทบจะใช้แรงทั้งหมดที่มีฉุดร่างอีกฝ่ายให้ลุกขึ้นยืน ตอนนี้เจ้าตัวกลับยืนทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้เดินตรงไปที่ห้องน้ำอย่างง่ายดาย
“รีบมาดิ หิวข้าว”
“ครับๆ คุณทอม”
..............................................
หลังจากง้อด้วยการสระผมให้พร้อมกับพาไปเลี้ยงเนื้อย่าง เด็กตัวดีก็กลับมาอารมณ์ดีสุดๆ อิศราที่ร่าเริงเพราะหนังท้องตึงก็ยิ้มหวานบ่อยจนจิรากรเริ่มผวาอีกครั้งว่าจะลืมอะไรอีกหรือเปล่า
วันครบรอบก็ไม่น่าใช่ เพราะเจ้าตัวเพิ่งงอแงขอโทษที่ไม่ว่างใส่เขาเมื่อกี้
อะไรหว่า..
“อยากกินไรอีกป่ะเนี่ย ยิ้มหวานขนาดนี้”
“เปล่านี่”
ว่าจบอิศราก็ยิ้มหวานใส่อีกครั้ง มือขาวยื่นมากุมมือเขาแล้วแกว่งไปมาเหมือนเด็กๆ จิรากรได้แต่ยิ้มตอบเพราะความน่ารักของอีกฝ่ายแม้จะขอบตาดำมากก็ตาม
“เออทอม... ไปห้องพี่กันมะ”
“คิดไรไม่ดีป่ะเนี่ย งานยังไม่เสร็จเลยส่งพรุ่งนี้เช้าละเนี่ย”
“ใกล้เสร็จแล้วไม่ใช่ไง หอมึงรกมากไม่มีที่จะให้นอนไปนอนพักเอาแรงหน่อยเดี๋ยวพี่ไปช่วยแปบเดียวก็เสร็จแล้ว”
อิศราที่ทำท่านิ่งคิดไปหลายนาทีจนจิรากรตัดรำคาญโดยการเดินลากอีกฝ่ายไปแทน ปกติถ้ามีโปรเจคใหญ่อย่างเช่นวันนี้เรื่องอย่างว่าก็มักจะหมดสิทธิ์ เพราะทำให้เสียเวลา เสียแรงในการทำงาน แต่ที่เขาชวนเด็กคนนี้ไปห้องคราวนี้ไม่ใช่เพราะเรื่องแบบนั้นหรอกนะ..
เสียงประตูที่ถูกปลดล็อกรอยยิ้มกรุ้มกริ่มก็ประดับบนใบหน้าคม มือขาวที่เริ่มซุกซนสอดเข้าไปใต้เสื้อของคนร่างสูงกว่า แต่อิศราก็ดับฝันด้วยการหยิกมือเขาจนต้องร้องโอดครวญด้วยความเจ็บ
“ทะลึ่งละ มานอนพักเฉยๆ”
“นิดนึง”
“นิดนึงพี่มันเลยเถิดทุกที ไม่”
“เออๆๆ อ่อ หลับตาก่อนเข้าห้องด้วย ถ้าไม่ทำตามก็เตรียมใจเตรียมเอวมึงไว้เลย”
“อะไรของพี่วะ.. เออเคๆ เข้าใจแล้วครับ”
อิศราขมวดคิ้วมองคนเป็นแฟนงงๆแต่ก็ทำตามโดยดี จิรากรที่ไม่ไว้ใจหยิบผ้าเช็ดหน้ามาผูกปิดตาไว้อีกชั้นนึง มือหนาผลักด้านหลังให้คนหน้าหวานเดินเข้าห้องไปด้วยความรู้สึกตื่นเต้น
“เอาโซ่หรือแส้ดีครับคุณทอม หรือน้ำตาเทียน”
“พูดอะไรเลอะเทอะอีกละนะ”
สัมผัสบริเวณหลังหายไปแล้ว อิศรารู้สึกได้ว่าจิรากรเดินไปเปิดไฟก่อนเดินไปเดินมาในห้องสักพักก่อนจะกลับมาอยู่ตรงหน้าของเขา มือหนาของจิรากรแตะเบาๆบริเวณแก้มเนียนทั้งสองข้าง
“ขอบคุณนะครับที่อยู่ด้วยกันมาตลอดหนึ่งปี ขอโทษที่อาจจะกวนตีนมึงไปบ้าง แต่อยากให้รู้ไว้ว่าหัวใจรักจริง”
“เดี๋ยว ไม่ใช่เปิดผ้าลืมตาขึ้นมาบอกเลิกทอมนะ มาพูดขอบคุณขอโทษเวลาเดียวกันแบบเนี้ย”
“กูว่ามึงเลอะเทอะกว่ากูอีก”
อิศราฟาดมือลงแขนขาวจนเจ้าของแขนสะดุ้ง ร่างสันทัดเดินอ้อมมาข้างหลังแล้วปลดผ้าที่ผูกไว้ออก แต่อิศราก็ยังคงหลับตาอยู่อย่างเดิม
“ทำไมไม่ลืมตา”
“ไม่ไว้ใจ กลัวเปิดมาแล้วเจอกุญแจมือ โซ่ อะไรแบบนี้วางอยู่บนเตียง”
“งั้นถ้าไม่ลืมตาตอนนี้ทอมอาจจะไม่ได้กลับไปทำงานต่อ”จิรากรกระซิบข้างหูก่อนจะขบริมฝีปากที่ใบหูจนอิศราสะดุ้ง
“เฮ้ยๆๆๆ ใจเย็นๆ ลืม...แล้ว”อิศราที่ลืมตาขึ้นมาก็ต้องตกใจกับสภาพห้องของที่ตอนนี้มีลูกโป่งสีชมพูกับม่วงโทนพาสเทลลอยติดเพดานอยู่เต็มไปหมด บริเวณผ้าม่านข้างเตียงก็มีลูกโป่งที่เป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษเขียนว่า’ Anniversary 1 year’ประดับอยู่อีกด้วย ส่วนพนังตรงหัวเตียงก็มีรูปคู่ของเขาสองคนประดับเป็นรูปหัวใจ
อิศราที่ประทับใจจนพูดไม่ออก ก้าวขาเข้าไปมองใกล้ๆ ความรู้สึกดีที่ล้นออกมากลายเป็นน้ำตาแห่งความสุข จิรากรเดินเข้ามากุมมือพร้อมรอยยิ้มหวาน
“ชอบป่ะ ต้องจ้างให้เพื่อนผู้หญิงมันมาช่วยเลยนะ ผู้หญิงห่าไรแดกเหล้าเก่งฉิบหาย แค่ค่าลูกโป่งก็เกือบหมดตัวเลยเนี่ยต้องมาเลี้ยง...อือ”
อิศราที่คว้าคออีกฝ่ายมาปิดปากด้วยรอยจูบรสหวาน แม้จะไม่ได้รุกล้ำหรือลึกซึ้งแต่ก็ทำให้หัวใจของทั้งคู่เบิกบาน จิรากรยัดบางอย่างใส่มืออีกฝ่ายก่อนจะกุมมือบางขึ้นมาจูบ
“ฝากเกียร์ไว้ที่ใคร ฝากใจไว้กับคนนั้น.. เคยได้ยินป่ะ”
“งั้นเคยได้ยิน ฝากไม้ทีไว้ที่ใคร วอนช่วยมาตัดโมเดลด้วยป่ะ”
“อันนี้กูว่ามึงมั่วขึ้นมาเอง”
ทั้งคู่หัวเราะกันเสียงดัง อิศราสวมกอดคนร่างสันทัดอย่างแนบแน่นก่อนจะหอมแก้มทั้งสองข้างสลับไปมา
“ขอบคุณนะพี่เอ๊ะ ทุกอย่างเลย”
“แค่เห็นมึงยิ้มได้กูก็ดีใจแล้ว”
“จริงอะ?”
“ถ้าไม่ขี้บ่นด้วยจะดีสุดๆไปเลย”
อิศราหยิกหลังอีกฝ่ายจนจิรากรดีดดิ้นไปมา ทั้งคู่จูบกันครั้งแล้วครั้งเล่าจากรสหวานอ่อนโยนก็เริ่มร้อนแรง มือหนาสอดไปใต้เสื้ออย่างซุกซน ความช่ำชองของจิรากรทำให้คนหน้าหวานคล้อยตามแต่โดยดี ริมฝีปากที่กำลังบดเบียด ร่างกายที่กำลังเร่าร้อนเรียกร้องสัมผัสที่ขาดหายมานาน
“กูน่าจะเอาโซ่กับแส้มาจริงๆว่ะ..”
ค่ำคืนที่แสนหวานที่อบอวลไปด้วยความสุขของคู่รักคู่หนึ่งก็ได้เริ่มต้นขึ้น
....
..
.
.
.
“พี่เอ๊ะ! ตีสี่แล้วโว้ย ยังทำโมไม่เสร็จ!!!”
Fin.
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in