การดำเนินชีวิตของคนได้ถูกเล่าผ่านไดโนเสาร์แต่ละตัวที่ได้แสดงออกมาให้เห็นถึงความรู้สึกไม่ว่า ความสุข ความทุกข์ ความกังวลใจ ความเครียด และอะไรอีกมากมายที่ทำให้ผู้อ่านได้เห็นและได้เข้าใจชีวิตมากยิ่งขึ้นผ่านหนังสือเล่มนี้
“ไดโนเสาร์จะเฉาถึงเพียงไหน
เล่าลือได้ผ่านไดโนเสาร์นั้น
และเรื่องราวเล่าสู่กันทุกวัน
ผ่านวันนั้นวันนี้อันตรงใจ”
หนังสือเล่มนี้จะแบ่งเรื่องราวออกมาเป็นทั้งหมด 4 เรื่องราว ได้แก่
“หากวันนี้คือวันที่มืดมน
สุดจะจนปัญญาอันหาไม่
วันนี้ไม่ใช่วันของเราไป
วันข้างหน้าได้เป็นวันของเรา”
1.) พระอาทิตย์ลอยอยู่หลังเมฆฝนเสมอ : เรื่องราวของตอนนี้จะเสนอถึงเรื่องราวของฟ้าหลังฝน ย่อมมีแสงสว่างที่สวยงามรอเสมอ เพราะถึงแม้ว่าวันนี้จะไม่ใช่วันของเรา แต่วันหน้าย่อมเป็นวันของเราแน่นอน ดังนั้น เราจงอย่าเสียใจไม่ว่า เรื่องทุกข์ขนาดไหนจะเกิดขึ้นกับเรา เพราะสักวัน
“เมฆฝนนี้ก็มีพระอาทิตย์ลอยอยู่เสมอ”
“หากเราไม่เห็นความรู้สึกดี
หรือรู้สึกที่ร้ายเสมอศรี
เราจะไม่พบหนทางฉะนี้
หนทางที่พาเราพบสุขเอย”
2.) แม้ตาจะมองไม่เห็นแต่มีอยู่แน่นอน : การเข้าใจความรู้สึกของตัวเองให้ดีที่สุด โดยการเข้าใจสิ่งที่เรามองไม่เห็นในความรู้สึกต่างๆที่เกิดขึ้นในแต่ละวันนั้นคือสิ่งสำคัญที่ทำให้ทุกคนเข้าใจตนเองมากที่สุด และทุกคนจะทำอย่างไรให้เข้าใจความรู้สึกนั้น หากไม่ใช่เป็นการลองผิดลองถูกกับชีวิตของตัวเอง
“คงจำเป็นต้องลองผิดลองถูกกับ
เรื่องราวของตัวเองเหมือนกันสินะ”
“ก่อนจะนอนต้องเตรียมพร้อมใจ
ยอมรับได้เรื่องราวของเรานั้น
จะเป็นทุกข์หรือว่าสุขของทุกวัน
พร้อมพลันเปลี่ยนสิ่งนั้นอยู่ร่ำไป”
3.) 2 ชั่วโมงก่อนเข้าห้องนอน : เวลาที่ผ่านไปในแต่ละวันนั้น ย่อมเป็นเวลาที่ไหลผ่านไป โดยมีประโยชน์บ้างและไม่มีประโยชน์บ้าง ขึ้นอยู่กับการที่เราใช้เวลานั้นให้คุ้มค่าแค่ไหน เวลาของทุกคนย่อมเท่ากัน แต่เวลาของการใช้ประโยชน์ให้ดีที่สุดนั้นย่อมต่างกัน ดังนั้น หากใครจะใช้ประโยชน์จากเวลา จงเรียนรู้ว่า ประโยชน์จากปัจจุบันที่ดีจะทำให้เกิดอนาคตที่ดี
“เจ้าไดโนเสาร์เหลือตัวสุดท้าย
ชีวิตคล้ายมีความสุขี
เพราะชมนกชมไม้นั้นล่ะดี
พบความสุขที่พอใจนั้นเอง”
เราชอบเรื่องราวที่นักเขียนจะพูดถึงไดโนเสาร์ตัวสุดท้ายว่า ความเป็นจริงแล้ว อาจจะลั้นลา และมีความสุข โดยเดินชมนกชมไม้อย่างมีความสุขก็ย่อมเป็นไปได้ เพราะบางที การอยู่คนเดียวก็อาจจะไม่ได้ทุกข์อย่างที่ทุกคนคิดก็เป็นไปได้ เพราะเจ้าไดโนเสาร์ตัวนั้นรู้จักพอใจในสิ่งที่ตัวเองมีและตัวเองเป็น
“ฉันจึงตระหนักได้ว่าที่ผ่านมา
ไม่เคยมีตอนไหนเลยที่ฉันอยู่ตัวคนเดียวจริงๆ”
“แสงสว่างตรงปลายขอบฟ้านั้น
เพราะว่ามันคือสิ่งที่ไม่เต็มนั้น
ชีวิตที่มากด้วยปัญญาพลัน
คือยอมทำนั้นอย่าเป็นน้ำเต็มแก้ว”
4.) แสงสว่างตรงสุดขอบฟ้าโน่น : การทำตัวอย่าให้เป็นคนน้ำเต็มแก้ว เพราะถ้าหากเป็นน้ำเต็มแก้วแล้ว ก็ไม่มีความรู้หรือแสงสว่างใดที่จะเข้าไปได้อีก ดังนั้น จงทำตัวอย่าเต็ม แต่ทำตัวให้เหลือเพื่อจะได้ยอมรับและเติมสิ่งอะไรใหม่ๆเข้าไปได้
“มีสิ่งที่ขาด
แต่มีความกล้าพร้อมเติมเต็มสิ่งที่ขาดนั้น”
เราชอบหนังสือการ์ตูนเล่มนี้ เพราะเราอ่านกี่ครั้งก็ได้ความคิดที่แตกต่างกันไปในแต่ละครั้ง เพราะหลายๆอย่าง เราก็มีนิสัยที่คล้ายๆกับนักเขียนอยู่หลายอย่างเหมือนกัน บางครั้ง เราก็เศร้าและเหงา แต่บางครั้งเราก็ยินดีกับความสันโดดที่เกิดขึ้นในทุกๆวันเช่นกัน ดังนั้น หนังสือเล่มนี้จึงตอบโจทย์ที่ว่า
“คนเราทุกข์ทุกวันนี้
เพราะชอบเปรียบเทียบ
ชีวิตของเรากับคนอื่นอยู่ร่ำไป”
วันนี้เราขอจบรีวิวหนังสือน่ารักเล่มนี้ที่เป็นหนังสือการ์ตูนแทนใจของนักอ่านอย่างเราไปเรียบร้อยแล้วค่ะ เพราะเพียงคำพูดสั้นๆก็ทำให้เราอ่านไป ยิ้มไป และมีความสุขได้ในขณะที่อ่านแล้วค่ะ
LOOK A BREATHE
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in