ฉันเจอกับเขาในทุกๆ วัน เราไปและกลับทางเดียวกัน เวลาเดียวกันเป็นประจำ อันที่จริง เรานั่งข้างๆ กันเกือบทุกวัน เพียงแต่เราไม่ทันได้สังเกต และไม่ได้ให้ความสำคัญกับสิ่งรอบตัวเท่าไหร่ และกว่าเราจะทำความรู้จักกันจริงๆ ก็ปาเข้าไปสองสามอาทิตย์ ตั้งแต่ที่เขาเอาหนังสือมาให้ฉัน
ช่วงเวลาระหว่างรอที่รถไฟฟ้าเทียงชานชาลา เราคุยกันถึงเพลงโปรดที่ฟังบ่อยๆ จนรู้ว่าเพลงที่เขาฟังทุกครั้งบนรถไฟฟ้าคือเพลงของ Don't Know Why ส่วนหนังสือที่ฉันอ่าน “The Perks of Being a Wallflower” เขาก็ชอบอ่านหนังสือ แต่ไม่มากเท่ากับการที่เขาชอบฟังเพลง บางทีเขาอาจจะอยากดูหนังเรื่องนี้ก็ได้ เพราะเพลงประกอบแต่ละเพลงนั้นเพราะๆ ทั้งนั้น ถ้าเขาชอบดูหนังนะ
ฉันเดาว่าเขาน่าจะชอบเพลงแบบอะคูสติค เสียงกีตาร์เพราะๆ กับเสียงคนร้องที่มีเสน่ห์ ทำนองน่ารัก เนื้อเพลงที่สวย หรือไม่ก็พวกนักดนตรีแห่งยุคนั้นยุคนี้ ส่วนฉันชอบเพลงฟังสบายๆ ยิ่งฟังแล้วอ่านหนังสือเพลินๆ จะชอบเป็นพิเศษ บางครั้งก็แล้วแต่อารมณ์ อาจจะฟังร็อค เมทัล หรืออัลเทอร์เนทีฟบ้างเป็นครั้งคราว
"เธอเคยฟังเพลงของ David Bowie บ้างรึเปล่า"
"เคยสิ ใน The Perks ก็เป็นเพลงประกอบ ชื่อเพลงอะไรนะ ที่ร้องประมาณว่า We can be Heroes, just for one day..." ฉันยังพูดไม่จบ แล้วเขาก็แทรกชื่อเพลงขึ้นมาเลย ว่าเพลงที่ฉันบอกไป มันคือเพลง Heroes "เธอรู้มั้ยว่าเพลงนี้เป็นเพลงที่เจ๋งมากเลยนะ" แหงล่ะสิ ก็เขาชอบเพลงของ David Bowie นี่นา แต่ฉันก็เห็นด้วยนะที่บอกว่าเพลงนี้มันเจ๋ง โดยเฉพาะตอนที่เปิดในหนัง ฉันยิ่งชอบใหญ่เลย อันที่จริงฉันก็พอรู้มาบ้างว่าหลายๆ เพลงของ David Bowie ก็เอาไปเป็นเพลงประกอบให้หนังหลายๆ เรื่องเลย
ในความคิดฉัน David Bowie ก็เป็นแรงบันดาลใจ และนักดนตรีคนโปรดให้ใครต่อใครนับไม่ถ้วน
ตั้งแต่เขารู้ว่าฉันฟังเพลงของ David Bowie เขาก็เล่าเรื่องเพลง เรื่องราวของ David Bowie ให้ฉันฟัง แถมยังแนะนำเพลงให้ฉันอีก แล้วฉันจะไม่ฟังได้ยังไง เพลงที่เขาแนะนำมาแต่ละเพลง เป็นแนวเพลงที่ฉันชอบฟังทั้งนั้น
เราใช้เวลาในการแก้เบื่อระหว่างเดินทางหมดไปกับการแลกเปลี่ยนเพลงในแต่ละวัน หลายๆ เพลงที่เขาบอกฉันมา เป็นเพลงทั้งที่ฉันเคยฟังแล้ว และไม่เคยฟังมาก่อน มันสร้างความรู้สึกและความสดใหม่ให้กับการฟังเพลงเป็นอย่างมาก เรียกได้ว่าทำให้ได้เพลงใหม่ๆ กลับไปลองฟังตลอดเวลา บางทีฉันก็เอาเพลงใหม่ๆ มาให้เขาฟังบ้าง เผื่อเขาจะชอบ
เขาเคยถามฉันว่าทำไมฉันถึงชอบอ่านหนังสือ ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน มันค่อนข้างผูกพัน และกลายเป็นส่วนหนึ่งของฉัน มันสิ่งที่อยู่กับฉันมาตั้งแต่เด็ก จนถึงตอนนี้ เป็นทั้งเพื่อน เป็นที่ปรึกษา เป็นอะไรหลายๆ อย่าง ฉันถึงรักการอ่านหนังสือ แต่ก็ยังเรียกไม่ได้ว่าเป็นหนอนหนังสือหรอกนะ เพราะฉันยังอ่านหนังสือไม่หลากหลายพอ
ฉันไม่เจาะจงแนวหนังสือที่อ่านหรอก เพราะฉันเปลี่ยนแนวอยู่เรื่อยๆ ตามช่วงจังหวะของชีวิต บางครั้งฉันชอบอ่านแนวจิตวิทยาวรรณกรรมทั่วไป วรรณกรรมขายดี เรื่องสั้นรวมเล่ม หรือแม้กระทั่งซื้อหนังสือเพราะปก หรือคำโปรยที่ฉันถูกใจ ส่วนเขาชอบอ่านหนังสือประวัติศาสตร์ ดาราศาสตร์ โลก จักรวาลความเป็นมาของแต่ละสถานที่ แต่ละยุค แต่ละสมัย บทกวี แม้กระทั่งปรัชญา
“เธอชอบดูหนังแนวไหน” จู่ๆ เขาก็ถามขึ้นระหว่างที่ฉันนั่งเลือกเพลงที่จะฟังตอนเดินกลับบ้านอยู่
“หนังแนวไหนหรอ แนวไหนก็ได้ ขอแค่ไม่ใช่หนังผีก็พอแล้ว” ฉันตอบแบบไม่ต้องคิด “นายล่ะ”
“ไม่ดูแค่หนังผีอย่างเดียว” อย่างเขาดูไม่ใช่คนที่น่าจะกลัวผีเลยซักนิด แต่ฉันก็ไม่แปลกใจซักเท่าไหร่ เพราะเพื่อนสนิทของฉัน คนตัวใหญ่ ดูเจ้าอารมณ์ แต่กลับเป็นคนขี้กลัว โดยเฉพาะกลัวผี และหนังผี
“กลัวผีหรอ” ฉันแกล้งถาม
“เปล่า แค่ไม่ชอบเฉยๆ ดูแล้วไม่คุ้มเท่าไหร่ ก็เลยไม่ดู” ฉันพยักหน้าหลังจากได้ยินคำตอบจากเขา
เสียงประกาศดังขึ้นมา เราเตรียมตัวลุกขึ้นออกจากขบวน ระหว่างเดินออกจากสถานี เขายิ้มแล้วชวนฉันไปดูหนังในวันเสาร์นี้เขาไม่รอคำตอบจากฉัน ก่อนจะแยกตัวไปยังทางออกอีกฝั่งหนึ่ง
แล้วฉันจะปฏิเสธได้ยังไงล่ะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in