เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
First Story at My 20's :)sp_jone
เรื่องราวที่อยากเล่าตอนอายุ 20 ปี (2) -E N D-
  • และเราได้ตัดสินใจไปทำงานกับพี่ 

    ก่อนหน้าจะไปเราแอบไปเช็คดวงของตัวเองด้วยว่าการไปทำงานครั้งนี้จะรอดไหม 
    (สุดท้ายเป็นยังไงไปลุ้นกัน)



    ขอบอกก่อนว่าเราเป็นเด็กที่เรียนสายภาษา แต่ไม่เก่งเรื่องการใช้ภาษาในการใช้ชีวิตประจำวันเท่าไหร่ เพราะชีวิตปกติของเราคือ อยู่กับคนไทยตลอด สังคมแบบไทยๆ ถึงเราจะฟังออกเขียนได้แต่เราขาดทักษะในการใช้ภาษาจริงๆอย่างมาก


    เราต้องสัมภาษณ์งาน เขียน resume ของตัวเองแบบงงๆ ว่าเราจะเริ่มทำมันได้ไง เพราะเรายังเรียนไม่จบเลย แต่ก็ผ่านมาได้ด้วยความช่วยเหลือจากพี่ แต่พอมาเริ่มทำงานแล้วทุกอย่างมันยากไปหมด เราต้องลองเขียน email เขียน minutes of meeting ออกไปพบลูกค้าจริงๆ ทำหลายอย่างที่ปกติแล้วบริษัทส่วนใหญ่จะไม่มอบหน้าที่แบบนี้ให้นักศึกษาฝึกงานทำหรอก แต่เรามีโอกาสได้ทำทั้งหมดเลย ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีมาก


    เราต้องเริ่มเรียนรู้ทุกอย่างใหม่หมด แม้กระทั่งคำศัพท์ในวงการธุรกิจต่างๆที่ไม่เคยเจอมาก่อนในบทเรียน (ไม่เข้าใจเลยว่าตั้งใจเรียนทั้งหมดไปทำไม) แต่อาจจะเป็นความผิดของเราเองที่ไม่ค่อยได้ศึกษาอย่างอื่นเพิ่มเติมนอกจากที่ได้เรียน เราทำผิดพลาดในการทำงานบ่อยและเยอะมาก แต่เราไม่อยากจะยอมแพ้กับสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่อยากแสดงถึงความอ่อนแอที่เราเก็บมันเอาไว้ในใจ เก็บทุกอย่างไปคิด ไปตัดสินใจ ไปพัฒนาและพยายามปรับปรุงใหม่




    "ช่วงเวลานี้ทำให้เรามีชีวิตที่เปลี่ยนไปเยอะมาก ทั้งเรื่องความคิด เรื่องการตัดสินใจก่อนจะลงมือทำอะไร เรียนรู้ว่าการโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ไม่ได้ง่ายเลย หลายๆคนที่อ่านอยู่อาจจะคิดว่า ความคิดแบบนี้ดูเด็กน้อย แต่มันเป็นสิ่งที่เราพึงได้พบได้เจอเองกับตัวและมันเพียงเริ่มต้นขึ้น เท่านั้น"




    แต่แล้วทุกอย่างจะต้องจบลงอีก 

    เมื่อเรา....ไม่ไหวกับมันและร้องไห้ออกไป


    เราไม่ค่อยชอบใจตัวเองเท่าไหร่ที่ร้องไห้กับเรื่องที่เกิดขึ้นนี้  ในสถานการณ์ที่ไม่เหมาะที่จะแสดงออกมา ความทรมานที่สั่งสมมาทั้งหมด กับทำให้ร่างกายปล่อยหยดน้ำตาออกมา..... การที่จะหยุดร้องไห้ ควบคุมสติเป็นเรื่องที่ยากมากๆสำหรับเรา เราพยายามกำหนดลมหายใจเข้า-ออก ตั้งสติให้ได้ แต่มันก็ไม่สำเร็จ เราสะอื้น ร้องไห้ น้ำตาไหลอยู่นานพอสมควร นานพอที่จะทำให้เรารู้ว่าตัวเรานั้นอ่อนแอ 


    เวลาเหล่านี้ผ่านไปโดยไร้ซึ่งการย้อนกลับ ย้อนกลับไปแก้ไขสิ่งที่ทำลงไปไม่ได้อีกแล้วเราคิดอย่างนั้น ทำให้เราคิดได้ว่า สุดท้ายเราก็ได้รู้แค่ว่ามันจะทำให้เราเข้มแข็งขึ้น :) 




    "คนเรามักจะไม่ค่อยมองย้อนดูความรู้สึกของตัวเอง และชอบทำร้ายความรู้สึกของตัวเองอยู่บ่อยๆ ว่า ทำไมถึงทำแบบนี้นะ ทำไมเราแย่จัง ทำร้ายจิตใจต่างๆนานา เป็นตัวเราเองนี่แหละ ที่ไม่เคยปลอบจิตใจของตัวเอง ถ้าคิดแบบนี้แล้ว เราต้องเริ่มที่จะคอยให้กำลังใจกับตัวเองให้มากๆ เพราะจะมีใครเข้าใจเราได้มากกว่าตัวเราเอง"




    เราว่าเป็นเรื่องจริงที่ คนใน GEN เดียวกับเราจะมีความคิดเป็นของตัวเองและเชื่อมั่นในสิ่งๆนั้นมากๆ เช่น ถ้าชอบศิลปิน นักร้องคนไหนแล้วละก็จะชอบมากๆ ไม่ว่าเค้าคนนั้นจะทำผิดแบบไหนก็จะให้อภัยได้ และยังรักเค้าอยู่อย่างนั้น เราเองก็เป็นแบบนั้น เป็นคนที่คิดจะทำอะไรก็จะมีความมุ่งมั่นมากๆที่จะทำ เชื่อในการทำแบบนั้นก็จะทำแบบนั้น เพราะคิดว่ามันดี พี่เราบอกข้อดีของเราให้ฟังว่า น้องดูเป็นคนที่มีทัศนคติที่ดี มีความคิดเป็นของตัวเอง ( เรากลับคิดในใจว่า นิสัยเด็กแบบนี้อาจจะทำให้ผู้ใหญ่บางคนมาเปลี่ยนแปลงนิสัยของเรายาก )


    เราเองไม่คิดว่าช่วงโควิดที่ผ่านมาทั้ง 5-6 เดือนนั้น มันเป็นเวลาที่เสียไปเปล่าๆ เวลาทั้งหมด มีเรื่องเกิดขึ้นมากจริงๆ มากสุดๆ มากแบบทุกอย่างจะถาโถมเข้ามาในตอน อายุ 20 ปีไม่ได้นะ แต่สุดท้ายก็ผ่านมันมาได้ ทำได้ดีมากนะตัวเรา :) 




    ________________________________________________E N D_______________________________________________

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in